ก็เหมือนกับศาลนั่นละ ที่จริงมันมีเส้นบางๆ คั่นระหว่าง (ทำตามหน้าที่) “ไม่ใช่กลั่นแกล้ง” กับทำโดย ‘พลการ’ ดังข้อแก้ตัวของ ผอ.โรงเรียนสามพันวิทยาคม ที่เพชรบูรณ์ ต่อเหตุเกิด “ครูทิ้งหนังสือ ลุกขึ้นจับกรรไกรไล่กล้อนผมเด็ก”
คลิปมันฟ้อง ว่าทำตามอำเภอใจ ผอ. มานะ มะสิน จะอ้างอย่างไร คำพูดกับภาพ มันไม่ได้ใกล้กันเลยแม้แต่น้อย “ครูในภาพกำลังตัดผมเด็กนักเรียนชายที่ผมยาว ผิดระเบียบโรงเรียน เป็นการตัดเพื่อให้ไปรอเข้าคิวตัดผม”
เพิ่งเคยได้ยิน ‘เสยก่อนเพื่อให้ไปรอกล้อน’ งั้นเหรอ ถึงจะอ้างไม่ใช่กลั่นแกล้ง แต่ก็ทำตามใจตัวมิใช่หรือ เด็กนั่งรอกลางลานหน้าเสาธงอยู่แล้ว ครูปรี่เข้าไปตัดฉับเห็นๆ ตัดแล้วใช่ว่าติดเบอร์คิวไว้บนหัวเด็กเมื่อไหร่ล่ะ
ยังจะทวงบุญคุณเสียอีกว่า “ทางโรงเรียนรู้ว่าเด็กหลายคนไม่มีเงิน บ้านอยู่ห่างไกล” บอกนักเรียนที่ทรงผมผิดระเบียบ ไม่ได้ขาวสามด้านแบบไอ้เณร (ลูกไล่นายสิบในกรมกอง) งั้นสิ ครูสี่ห้าคนจะตัดให้เสร็จในวันเดียวยากอยู่แล้ว
การกระทำของครูในคลิป นั่นเป็น ‘พลการ’ แน่นอน เช่นเดียวกับผู้พิพากษาที่ไม่ยอมให้ประกันเด็กใช้สิทธิประท้วงเรียกร้อง แล้วจับส่งเข้าห้องขัง ยังไม่พิจารณาคดี เขาขอประกันปล่อยตัวชั่วคราวออกมาต่อสู้คดีตามวิถีกฎหมาย ไม่ยอมให้เสียงั้น
เมื่อ ‘แบมและตะวัน’ ยอมทรมานตนเอง เอาชีวิตเข้าเสี่ยง จนเกิดเสียงกระหึ่มในสังคมว่า ผู้พิพากษาประพฤติผิดตัวบทกฎหมาย ด้วยจิตใจอำมหิต แล้วยังดึงดันเฉยชา อ้างลมๆ แล้งๆ ว่าเพราะไม่มีใครร้องเรียน (กราบกรานด้วยมั้ง) จึงทำอะไรไม่ได้
นี่ต่อเมื่อโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ซึ่งเฝ้าดูแลให้เด็กสาวทั้งสองอยู่ในความปลอดภัยของชีวิต ยื่นคำร้องด้วยเห็นว่าอาการของถึงจุดทรุดหนัก เกรงว่าถ้ารอจนวิกฤตที่สุดแล้วไม่สามารถดึงกลับมาได้ ศาลอาญาจึงยอมปล่อยจากภาวะถอนประกัน เพียงเดือนเดียว
แน่ละแม้นว่า ‘ตะวันกับแบม’ จะไม่ได้รับรู้กับ ‘คำสั่งปล่อยตัว’ นี้ ที่ Sunai @sunaibkk บอกว่า “เป็นอำนาจฝ่ายเดียวของศาล ถึงแม้ #ตะวันแบม ประกาศจุดยืนไม่ยอมรับคำสั่งก็ไม่มีผลอะไร” ก็ตาม
ทว่าการยังไม่ยอมปล่อยผู้ถูกกล่าวหาแบบเดียวกันอีก ๘ คน ตามข้อแม้การอดอาหารและน้ำประท้วง ก็เท่ากับศาลบิดพริ้วหลักตรรกะแห่งกฎหมาย จะต้องให้ทั้งแปดที่เพิ่งถูกปฏิเสธปล่อยตัว ต้องอดอาหารและน้ำแบบเดียวกันจนเจียนตายด้วยหรือ
(https://www.prachachat.net/politics/news-1198428 และ https://news.ch7.com/detail/622707)