วันพฤหัสบดี, มกราคม 19, 2566

ตะวันกับแบมมีเจตจำนงเหมือนผู้พิพากษาที่ชื่อคณากร มุ่งหมายใช้ชีวิตตัวเองเพื่อปลุกจิตสำนึกของคนในกระบวนการยุติธรรมให้เห็นถึงความอยุติธรรม


Uninspired by Current Events
Yesterday
The Light
.....

สราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เดินทางไปเยี่ยมนายคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ซึ่งพักรักษาที่โรงพยาบาลยะลาเมื่อวันที่ 6 ต.ค. 2562

"จดหมายลา"

เฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "คณากร ตุลาคม" ซึ่งเชื่อว่าเป็นเฟซบุ๊กส่วนตัวของนายคณากร ได้มีการโพสต์ "จดหมายลา" ช่วงเช้าวันนี้ เป็นการพิมพ์ข้อความในกระดาษขาว 2 แผ่น ลงวันที่ 6 มี.ค. มีใจความว่า หลังจากที่เขาได้ออกมาร้องเรียนเรื่องที่อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 แทรกแซงผลคำพิพากษาที่เขาเป็นเจ้าของสำนวน และได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองในห้องพิจารณาคดีที่ศาลจังหวัดยะลาเมื่อวันที่ 4 ต.ค.2562 เขาได้ถูกศาลยุติธรรมตั้งคณะกรรมการสอบสวนและถูกพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา

"ผมเชื่อว่าต้องถูกลงโทษออกจากราชการเป็นแน่...การสูญเสียหน้าที่การงานที่รักนั้นคือการสูญเสียตัวตน ทั้งกลับกลายเป็นผู้ต้องหาเสียเอง สภาพร่างกายและจิตใจของผมไม่อาจรับไหว เต็มไปด้วยความทุกข์ เส้นทางชีวิตของผมในชาตินี้ได้ขาดลงแล้ว""ผมขอยืนยันกับเพื่อน ๆ พี่น้อง ประชาชนชาวไทยทุกท่านว่าสิ่งที่ทำลงไป ผมทำด้วยหัวใจบริสุทธิ์ ต้องการให้ความยุติธรรมแก่ประชาชน และไม่เสียใจที่ได้กระทำ ผมภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการให้ความยุติธรรมแก่ประชาชน"

ในจดหมายฉบับนี้ นายคณากรยังได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เขายิงตัวเองในศาลเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2562 ว่าเขาไม่คิดว่าตัวเองจะรอดชีวิต แต่เมื่อได้มีชีวิตอยู่ต่อ จึงใช้เวลาช่วงที่ผ่านมาปรับปรุงซ่อมแซมบ้านเพื่อให้ภรรยาและลูกสาวอยู่อย่างสบาย เขายังได้ให้เลขบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาคเป็นทุนการศึกษาให้ลูกของเขาด้วย

จดหมายฉบับนี้มีลายเซ็นของนายคณากร โดยระบุตำแหน่งว่า "ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลาฯ และผู้ต้องหา"

ที่มา บีบีซีไทย
https://www.bbc.com/thai/thailand-51780253
.....
อานนท์ นำภา
7h
ตะวันกับแบมมีเจตจำนงเหมือนผู้พิพากษาที่ชื่อคณากร มุ่งหมายใช้ชีวิตตัวเองเพื่อปลุกจิตสำนึกของคนในกระบวนการยุติธรรมให้เห็นถึงความอยุติธรรม
การอดทั้งข้าวและน้ำ น่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 7 วัน มากกว่านั้นคงไม่เกิน 10
ไม่ควรมีใครเสียชีวิตเพื่อการต่อสู้ครั้งนี้ การเสียสละชีวิตของทั้งสองมันมีค่าเกินกว่าบัวใต้ตมที่จะสำนึก
อยากเห็นทั้งสองยืนยิ้มที่เส้นชัยที่เราทุกคนได้ต้อสู้ร่วมกัน