วันอาทิตย์, มกราคม 08, 2566

หลานนายกฯ กับตู้ห่าว มีหน่วยงานไหนกล้าสอบมั้ย


ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
10h

หลานนายกฯ กับตู้ห่าว
.
เรื่องของวงศาคณาญาติ
.
ท่านนายกฯ จะหงุดหงิดเรื่องอันใดผมไม่ทราบได้
.
ถึงขนาดกระฟัดกระเฟียด ต่อว่าสื่อด้วยสีหน้าไม่พอใจ เมื่อถามเรื่องที่ผมพาดพิงท่านในวันแถลงข่าวเกี่ยวกับ
.
“หจก. คอนเทมโพรารี่ คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นของหลานชายท่าน เกี่ยวโยงธุรกิจรถเช่าของตู้ห่าว”
.
หลังขึ้นรถ พล.อ.ประยุทธ์ ลดกระจกลง พร้อมพูดว่า
.
“สื่ออย่าให้มีปัญหา ฉันไม่เคยมีปัญหากับสื่ออยู่แล้ว สื่อดีๆ ก็เยอะแยะ"
.
ผมเองก็ งง กับท่านเหมือนสื่อ
.
อันที่จริง ท่านแค่ตอบคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลานท่านที่ทำมาค้าขายกับนายตู้ห่าวแค่นั้นเอง
.
ไม่เห็นจะยากตรงไหน
.
หลานชายท่าน (ลูกชายของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา) ที่ได้ดีทางธุรกิจ หากินกับงานประมูลของกองทัพ
.
เมื่อเป็นถึงหลานนายกฯ ประยุทธ์ ที่อยู่ยงคงกระพันมา 8 ปี ย่อมใช้อ้างอิงทำมาหากินกับราชการ งบหลวง ประมูลงานของกองทัพได้ง่าย
.
“สายสัมพันธ์” แข็งโป๊ก ลูกใคร หลานใคร เขาดูแค่นามสกุลก็รู้เรื่องแล้ว
.
หรืออย่าง บริษัท ซันลอง ของจีน นำเข้ารถบัส รถทัวร์ หลายร้อยคัน แล้วหลานนายกฯ ไปตกลงซื้อมา
.
และนำไปเข้าลีสซิ่งกับ บริษัท เอเซียเสริมกิจ จำกัด (มหาชน)
.
ภายใต้ชื่อ หจก.คอนเทมโพรารี่ คอนสตรัคชั่น ทั้งที่ทุนจดทะเบียนแค่ 3 ล้านบาท แต่มีหลานท่านนายกฯ ถือหุ้นใหญ่
.
จากนั้นไปให้เช่าช่วงแบ่งเปอร์เซ็นต์กับนาย “ตู้ห่าว”
.
ในนาม บริษัท เอ็ม แอนด์ เอ็ม ทรานสปอร์ต เซอร์วิส จำกัด (ใช้ชื่อนอมินี นายสิทธิไพบูลย์ พี่เมียตู้ห่าวที่ถูกจับไปแล้ว)
.
เท่ากับ นายตู้ห่าวจ่ายเงินให้หลานนายกฯ ประยุทธ์ เป็น “นอมินี” เพื่อนำไปจ่ายดอกเบี้ยเงินผ่อนค่ารถทัวร์ ที่ใช้ในกิจการวิ่งรับทัวร์จีน
.
นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดในประเทศไทยอีก
.
หากจะใช้สายสัมพันธ์ อิทธิพล บารมี ของท่านนายกฯ ไม่ว่าทางตรง ทางอ้อม ไปทำมาหากิน ล้วนเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาของคนในครอบครัว
.
ใครๆ ก็ใช้กันในประเทศไทย
.
เรียกว่า “เครือข่ายความสัมพันธ์วงศาคณาญาติของผู้นำ”
.
ท่านหงุดหงิด อารมณ์เสียว่าไปถามเรื่องตู้ห่าว ทำให้ผ้าขาวท่านแปดเปื้อน
.
แล้วไปทำโมโหโกรธาสื่อ มันคนละเรื่อง คนเขาอยากฟังท่านแก้ตัวว่าอย่างไรต่างหาก
.
ยิ่งวันที่ 9 มกราคม ท่านไปสังกัดพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นนักการเมืองเต็มตัว
.
เสนอตัวขอเป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี
.
แล้วเรื่องแค่นี้ยังตอบสื่อไม่ได้ จะให้ลงแต่เรื่องดีๆ ภาพสวยๆ ชูไม้ชูมือกันเท่านั้นหรือ?
.
ยังไงความจริงย่อมเป็นความจริงวันยันค่ำ
.
ส่วนเรื่องไม่จริง ทั้งรถทัวร์เลี่ยงภาษีนำเข้า โดยการนำรถทัวร์ที่ผลิตที่จีน แต่มาส่งเข้าทางประเทศมาเลเซีย เพราะมีสนธิสัญญากับไทยว่า
.
หากมีการนำเข้ามาบางส่วน แล้วประกอบกับชิ้นส่วนที่ผลิตในไทย จะถือเป็นการสร้างงาน ก็ไม่ต้องเสียภาษี
.
แต่แท้จริงแล้ว ไม่ได้มีการซื้อวัสดุในไทยแม้แต่ชิ้นเดียว แค่ถอดแยกชิ้นส่วนจากเมืองนอก แล้วนำเข้าไทย ประกอบกลับเข้าไปใหม่ที่อู่แถวแปดริ้วนี่เอง
.
เป็นการซิกแซ็กเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเท่านั้น
.
ส่วน หจก.คอนเทมโพรารี่ คอนสตรัคชั่น ที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาท จะไปซื้อรถทัวร์ จำนวน หลายร้อยคันได้ยังไง?
.
มีการเอาเงินนายตู้ห่าวมาซื้อแทนหรือเปล่า? แล้วทำไปเพื่ออะไร?
.
ขอตอบว่า เพราะ หจก. นี้ มีชื่อหลานท่านนายกฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ใครๆ ก็อยากเอาไว้เป็นบารมี
อ้างอิงว่า “รู้ไหม อั๊วหุ้นกับใคร?”
.
มันก็คงไม่ใช่เรื่องจริงอีกล่ะมั้งท่าน
.
มันเป็นเรื่อง “วงศาคณาญาติ” ที่ท่านต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น
.
หากไม่จริงก็ชี้แจงไปซะก็หมดเรื่องคาใจ
.
ไม่มีอะไรยากเย็น จะอารมณ์เสียไปทำไม?
.
เพราะท่านจะเป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี เรื่องแบบนี้ควรชี้แจงให้ชัดเจน
.
ไม่ใช่เอาเด็กวานซืนที่ท่านเพิ่งแต่งตั้งมาเป็น “รัฐมนตรีกระทรวงปกป้องนายกฯ” อย่างนายธนกรมาตอบแทน
.
ยกเว้นว่าท่าน “ไม่อยากตอบ” ให้ดูเหมือนว่า หลานท่านไปเกี่ยวพันกับตู้ห่าวเสียเอง
.
ในทางธุรกิจ คนไม่รู้จักกันจะทำมาค้าขายกันถึงแบบนี้ได้ยังไงครับ?
.
หรือท่านอาจไม่ชอบคนพูดความจริง ถึงทำที “กลบเกลื่อน” ไปซะอย่างนั้น
.
ความจริงของปัญหาคอรัปชั่นที่สั่นคลอน แม้แต่อธิบดีกรมอุทยานมีเงินเต็มโต๊ะ ยังแค่ย้าย แทนที่ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ราชการ
.
หรือการช่วยเหลือในคดี “จินหลิง” ที่รถของกลางหาย ผู้ต้องหาหาย มีการช่วยเหลือกันทุกรูปแบบ
.
เพราะวงจรคอรัปชั่น ถึงทำให้ “จีนเทาอย่างตู้ห่าว” เติบโต กำเริบ เหิมเกริมได้ถึงขนาดหุ้นกับหลานนายกรัฐมนตรี
.
อันเป็นความจริงที่เจ็บปวดของคนไทย
.
แต่ท่านนายกฯ กลับไม่ทำอะไร และไม่มีแม้แต่เจตนาจะแก้ไขให้ดีขึ้น
.
มันช่างไปเสียดแทงหัวใจท่านเสียเหลือเกินใช่ไหมครับ?
.....
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
ผมว่าไม่มีหน่วยงานรัฐไหนกล้าสอบ
หจก. ที่มีหลานนายกฯ เป็นหุ้นใหญ่หรอก ว่าทำไมมีทุนจดทะเบียนแค่ 3 ล้าน แต่นำเข้ารถทัวร์ได้หลายร้อยคัน
ไปเอาเงินที่ไหนมา?