ประธานาธิบดี สี พาดพิงถึงรายงานข่าวสาธารณะที่ระบุว่า ในการเจรจาทวิภาคี นายกฯ แคนาดายกเอาประเด็นการจารกรรมข้อมูลอุตสาหกรรมพลังน้ำของแคนาดาโดยสายลับจีนขึ้นมาถก สีบอกกับทรูโดว่าการปล่อยข่าวอย่างนี้ “ไม่เหมาะสม”
ทรูโดจึงตอบว่า “ในแคนาดา เราเชื่อมั่นในการเจรจาตรงไปตรงมาที่เสรีและเปิดเผย และนี่เป็นสิ่งที่เราจะยังคงทำต่อไป เรายังคงหวังจะร่วมมืออย่างสร้างสรรต่อไป แต่ก็จะมีบางสิ่งที่เราไม่เห็นด้วยต่อกัน” สีก็ชิงตัดบท พูดแมนดารินผ่านล่ามแปล
“ก็สร้างเงื่อนไขมาแล้วกัน” พร้อมเชคแฮนด์กับนายกฯ แคนาดาแล้วเดินจากไป บีบีซีบอกว่านี่เป็นบทบาทของผู้นำจีนที่ผิดไปจากทางปฏิบัติ ซึ่งการจะพูดอะไรมักต้องผ่านการกลั่นกรองและประดิษฐ์ถ้อยคำแล้วอย่างดี
และนี่เป็นการเพิ่มความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสอง ในฐานะที่แคนาดามีพลเมืองเชื้อสายจีนจำนวนมาก สินค้าอุปโภคบริโภคจากจีนนำเข้าแคนาดาแต่ละปีมูลค่ามหาศาล ขณะที่แคนาดาเป็นเป้าหมายจารกรรมจากจีนไม่น้อยกว่าสหรัฐ
ในปี ๒๕๖๑ แคนาดาจับกุมตัว เม็ง วันเซา ผู้บริหารชั้นสูงของบริษัทผลิตโทรศัพท์มือถือ ‘หัวเหว่ย’ ในข้อหาจารกรรม จีนเลยแก้ลำด้วยการจับกุมชาวแคนาดาสองคนในข้อหาสอดแนมบ้าง ลงเอยด้วยชาวจีนและแคนาดาทั้งสามได้รับการปล่อยตัว
แต่เมื่อเร็วๆ นี้ก็ปรากฏคนงานโรงไฟฟ้า ไฮโดร-ควิเบ็ค เชื้อสายจีนในแคนาดาถูกจับกุมด้วยข้อหาจารกรรมอีกราย ทำให้ทรูโดนำไปพูดกับสีเมื่อได้พบกันที่อินโดนีเซีย หากผู้นำจีนจะนำประเด็นข่าวรั่วมาใช้ตอบโต้แคนาดาในระดับรัฐต่อรัฐ น่าจะไม่ได้ผล
การต่อว่าซึ่งหน้ากับนายกฯ แคนาดา จะเป็นผลดีเฉพาะภาพลักษณ์ในประเทศฐานะผู้นำที่กำอำนาจเกือบเบ็ดเสร็จคนใหม่ (สื่อบางแหล่ง ชี้ว่าเทียบเคียง เหมา เจ๋อ ตุง นั่นเชียว) แต่ในทางเศรษฐกิจจีนยังต้องการแคนาดาอยู่มาก
