ปัดโธ่เอ๋ย ไอ้พวกหอกโมกขศักดิ์หักสะบั้นทั้งหลาย ยังไม่ทันจะลงมือทำงาน ฉลองกันแล้ว เพลงโปรด ‘คนดีไม่มีวันตาย’ นี่จะช่วยชาติและประชาชนให้พ้นจากความอดอยากได้อย่างไร @WassanaNanuam น่าจะเล่าแจ้ง ‘กึ๋น’ พวกนี้ไว้ด้วย
“เป็นกำลังใจให้ ‘ครม.คนดี’ นายกฯ บิ๊กตู่สั่งทำคลิปต้อนรับ ครม.ประยุทธ์ ๒/๒...ครม.นัดแรก ‘สีฟ้า’ วันนี้เปิดในที่ประชุม” ให้ตายสิ หน้าใหม่ทั้งหลาย ๖-๗ คนเนี่ยยังไม่มี ‘resume’ ผลงานที่ทำมาแล้วในด้านรัฐกิจ มีแต่ ‘credentials’ สำหรับตำแหน่งที่ต้องรอการพิสูจน์ ‘น้ำยา’ นะทั่น
โอเค ‘นฤมล’ ดูดีกว่าใครเพราะไปทำ ‘facelift’ หน้าเนียน หาย ‘บิ๊กอายส์’ แล้ว คนอื่นๆ ก็งั้นๆ ประมาณมือสองเอามา ‘ลองยา’ ว่ากันว่าประยุทธ์ ‘หยิบ’ มากับมือทุกคน ก็ต้องอกสั่นขวัญแขวนกันหน่อย โดยเฉพาะผู้จะเป็นหัวหน้าทีม ‘แก้แห’ เศรษฐกิจ
ปรีดี ดาวฉาย มาพร้อมกับมงกุฏบุษราคัมอยู่บนหัว จากตำแหน่ง ‘ซีอีโอ’ ธนาคารกสิกรไทย (เห็นว่า) แบ๊งค์อันดับสองของประเทศไตแลนเดียเชียวละ ประสบการณ์ทำงานไต่เต้าจากหน้าที่ ‘ทนายหน้าหอ’ ของแบ๊งค์คอยรีดหนี้เสียจากลูกค้า
มีงาน ศูนย์วิจัย หน่อยหนึ่ง และเป็นกรรมการบริษัทโดล ก็ไม่เรียกว่าเป็นสับปะรดอะไรเพราะไปกินเบี้ยประชุมเสริมรายได้หลักเท่านั้น แต่หลังสุดนี่ตำแหน่งหย่ายทีเดียว ‘สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ’ ผลงานเยี่ยม
ในสายตาของนักยึดอำนาจที่ตั้งเขา ช่วยให้คณะรัฐประหารได้ครองเมืองยาว แล้ว ‘สืบทอดอำนาจ’ ต่ออีก ที่กำลังพยายามจะให้ยาวด้วยเหมือนกัน เรียกว่า ‘ยุทธศาสตร์ ๒๐ ปี’ นั่นละ ส่วนจะสามารถดันประเทศให้พ้นเศรษฐกิจตกอับได้ไหม เสียวนะ
อ่านไต๋แบบชาวบ้านไม่มีจะแดรกละก็ พี่เค้าคงประมาณวิสัยทัศน์แบบเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ให้แก่บริษัทมากที่สุด ตามทวงตามขูด แบบสมัยก่อนแขกเดินเก็บดอกเบี้ยถึงบ้านทุกเจ็ดวัน ห่วงก็แต่ว่าต่อไปนี้ภาษีโน่นภาษีนี่จะออกมายิ่งกว่าดอกไม้นักศึกษา ‘เบ่งบาน’
มาดูตรงนี้ก่อนว่าสุขภาพของประเทศเวลานี้ขนาดไหน ท่ามกลางคำอ้างอย่างงั่งๆ ของตัวหัวหน้าใหญ่ ‘ไอทู้บ .๑๐’ ที่ว่าเงินทุนสำรองยังเยอะ เงินตราต่างประเทศ (ดอลลาร์) ก็แยะ ยังถลุงได้อีกยาวว่างั้น แต่จากสถานการณ์โควิดทำให้ติดหล่มจมปลัก
เว็บเพจชื่อ #AGENDA งัดเอาตัวเลขดีๆ มาให้ดู บอกว่าในเอเซียและอาเซียนนี่มีประเทศที่เศรษฐกิจไม่ฟุบหนักอยู่หลายแห่ง อย่างน้อยๆ ๕-๖ แห่งที่เขาเอามาแฉให้ดูกัน โดยวัดจากการเติบโตของจีดีพี บังคลาเทศที่หนึ่ง โต ๔.๕%
เวียดนามตามมากระชั้นชิดที่ ๔.๑ นอกนั้น จีน เมียนมาร์ และไต้หวัน ‘not too shabby’ ไม่เลวนักหรอก ที่ยังเป้นบวก ๑.๘% ๑.๘% และ ๐.๘% ตามลำดับ ของไทยไม่ระบุในที่นี้ แต่บอกกันมาว่าลุ้นๆ ที่ ๓-๔% เอาเข้าจริงอาจติดลบเหมือนลาว จะเป็นไปได้ถ้าชุดใหม่ ‘คนดีไม่มีวันตาย’ มีแต่น้ำปลาคลุกขนมจีน
ตานี้ลองย้อนไปดูที่พวก ‘มือเก่า’ หน่อยทั้งเตือนและแนะไว้ เมื่อ ๕ สิงหา สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลังของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แสดงความห่วงใย “ร่างสัญญาเงินกู้ 'เอดีบี' วงเงิน ๑,๕๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (๔๘,๐๐๐ ล้านบาท)”
เขาถามว่า “ไปกู้มาอีกทำไม? ทำให้มีความเสี่ยงต่ออัตราแลกเปลี่ยน เหมือนครั้งที่ประเทศไทยล้มละลายเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐” (ต้มยำกุ้ง) ในเมื่อทุนสำรองระหว่างประเทศยังมีอยู่ ๒๔๑,๙๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ กักเอาไว้มากเกินจำเป็น
“เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า แม้แต่กระทรวงการคลัง ก็ไม่รู้ไม่เข้าใจในวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค (Macro-economics) ความจริงแล้ว ประเทศไทยต้องคืนเงินกู้ต่างประเทศด้วยซ้ำไป” ข้อสำคัญ “น่าเสียดายมากที่ประเทศไทยถูกปกครองโดยคนไม่มีความรู้ในวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค
...การอ้างว่าดอกเบี้ยถูก หนี้ต่างประเทศน้อย เทียบหนี้สาธารณะทั้งหมดไม่ถึง ๓% จึงไม่ใช่ประเด็น” ด้วยมารยาท ดร.สุชาติไม่พูดอะไรหนักไปกว่านี้ แต่ช่วยไม่ได้มีคนอ่านแล้วคอมเม้นต์ “เราไปกู้ ADB ดอกเบี้ยแพง แล้วเอาเงิน ตปท.นั้นไปฝากรัฐบาลสหรัฐซึ่งให้ดอกเบี้ยถูก” ล่ะว่าไง
เมื่อ ๑๐ สิงหานี้ ดร.สุชาติเอาอีก บอกกับสำนักข่าวไอเอ็นเอ็นว่า “ไม่เห็นด้วยหากรัฐบาลจะกู้เงินเพิ่มเติมอีก เนื่องจากเงินกู้ ๓ พรก.วงเงิน ๑.๙ ล้านล้านบาท และงบประมาณอีกจำนวน ๓ ล้านล้านบาท ก็มากเพียงพอและเต็มเพดานหนี้สาธารณะแล้ว”
ไม่เท่านั้น เขาคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปลายปีนี้เมื่อสิ้นสุดไตรมาสท้าย “แม้ว่าประเทศไทยจะไม่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-1๑๙ แต่สถานการณ์ทั่วโลกยังไม่คลี่คลาย ดังนั้นจึงคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะติดลบร้อยละ ๗-๘”
ตายละสิ ถ้าแบบนั้นแย่กว่าลาวนะ เพราะเพื่อนบ้านใกล้ชิดของเรา เคยถูกสลิ่มปริ่มโคลนของไทยสับโขก พบว่าจะติดลบแค่ ๐.๕% เท่านั้นเอง
(https://www.facebook.com/AgendaPlatform/photos/a.494193073943978/3694755777221009/?type=3&__tn__=H-R0.g, https://www.innnews.co.th/economy/news_742587/ และ https://www.thaipbsworld.com/uphill-mission-awaits-new-finance-minister/)