.jpeg)
ข้อเรียกร้อง 8 ข้อ(เพิ่มเติม)ของ "ทนายอานนท์"
“16 สิงหาคม”วันที่ประชาชนจะพร้อมใจกันปลดแอกตัวเอง
ที่ประตูท่าแพ เชียงใหม่ ย่ำเย็นของวันที่ 9 สิงหาคม “ทนายอานนท์” เริ่มต้นคำปราศรัยด้วยการพูดถึง “สถาบันกษัตริย์” อย่างตรงไปตรงมาอีกครั้ง หลังจากที่การพูดในคราบของ แฮรี่ พอตเตอร์ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ส่งผลให้เขาถูกออกหมายจับและอยู่ระหว่างการประกันตัวขณะนี้
เพราะเขาเห็นว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย จะต้องปฎิรูปหรือจัดวางให้อยู่อย่างเหมาะสมในระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง
เขาจึงมีข้อเรียกร้องระหว่างบรรทัดผ่านป้ายข้อความต่าง ๆ ในเกือบทุกเวทีชุมนุมทั่วประเทศ
เขาได้เพิ่มเติมปัญหาของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่กำลังเป็นอุปสรรคต่อวิถีทางประชาธิปไตยเพิ่มเติมอีกดังนี้
1. เหตุผลทีทหารต้องทำรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 คือการให้ “วชิราลงกรณ์” ให้ได้เป็นกษัตริย์ อย่างราบรื่นเรียบร้อย (ในท่ามกลางความอ่อนแอและพลิกผันของกษัตริย์รัชกาลที่ 9 ที่รักษาผลประโยชน์และอำนาจของครอบครัวมากกว่าสร้างอนาคตที่ดีให้ลูกหลานและประชาชนไทยในอนาคต)
2. เมื่อได้ขึ้นครองราชย์สมใจแล้ว ก็เริ่มต้นขยายพระราชอำนาจของพระองค์โดยการนำเอาร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการประชาพิจารณ์ไปแล้ว มาแก้ไขให้ตัวเองได้ประโยชน์สูงสุด (โดยไม่ต้องทรงงานหนักและอยู่อย่างปลอดภัย นี่คือการก้าวล่วงอำนาจของประชาชนอย่างที่ไม่เกิดขึ้นมาก่อน และเป็นการกระทำที่ กษัตริย์ กองทัพ ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญเสียเอง )
3. เมื่อได้ รัฐธรรมนูญปี 60 แล้ว กระบวนการแก้ไขกฎหมายเพื่อขยายพระราชอำนาจก็ก็เกิดขึ้นอย่างมากมาย เช่น การออกกฎหมายนำเอาทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินหรือของประชาชนไทยทุกคน แต่กลับมาเป็นของพระมหากษัตริย์บริหารจัดการไปตามใจ (ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ตกเป็นของแผ่นดิน ตั้งแต่การปฎิวัติของ คณะราษฎร ปี 2475 แต่ต่อมาก็มีการแก้ไขกฎหมายให้กลับมาเป็นของกษัตริย์อีกครั้ง ใน รัชกาลที่ 9 ) ซึ่งเท่ากับว่า คณะรัฐประหาร คสช. ได้ปล่อยให้ พระมหากษัตริย์ แก้กฎหมายขยายพระราชอำนาจของกษัตริย์ได้อย่างไม่เห็นหัวประชาชน
4. ความพยามที่จะทำลาย มรดกคณะราษฎร ครั้งแล้วครั้งเล่า ถามว่าใครจะกล้าไปขโมยหมุดในเขตพระราชฐาน และการนำหมุดหน้าใสมาแทนที่นั่นแสดงว่า คนที่มีอำนาจเท่านั้นทำได้ เพราะต้องการจะทำลายหมุดคณะราษฎร นอกจากนั้นยัง มีการเปลี่ยนชื่อค่ายทหารที่ ลพ.บุรี จาก ค่ายพหลโยธิน ค่ายพิบูลสงคราม ซึ่งเป็นนามสกุลของผู้นำคณะราษฎร์ มาเป็นชื่อ ค่ายภูมิพล ค่ายสิริกิตติ์ แทน เจดีย์สัญญลักษณ์การปราบกบฎบวรเดชที่บางเขต ก็ถูกย้ายออกไป ขณะที่ กองทัพบก ไปเปิดห้อง บวรเดช เพื่อเคารพสักการะกบฎ จะให้หมายความว่าอย่างไรถ้าไม่หมายความว่า กองทัพ กำลังประกาศตัวเป็นศัตรูกับประชาชน อย่างชัดเจนแล้ว ขณะที่คนไทยส่วนมากรำลึกคณะราษฎร์ แต่กองทัพ กลับไปสักการะกบฎ ทั้งนี้ยังไม่รวมที่ ผบ.ทบ.ออกมาชี้หน้าประชาชนที่ออกมาชุมนุมว่าเป็นพวกชังชาติ อยากบอกว่า “พวกเราไม่ได้ชังชาติ พวกเรานะชังมึง”
5. ทนายอานนท์ ต้องการที่ตั้งคำถามต่อสถาบันกษัตริย์อย่างตรงไป ตรงมา ซื่อสัตย์ทั้งต่อตัวเอง และต่อสถาบันกษัตริย์ จึงเรียกร้องให้ ส.ส. และสภาผู้แทนราษฎร ได้เปิดประชุม เพื่อปรึกษาหารือในเรื่องนี้ แล้วถวายคำแนะนำพระมหากษัตริย์ ให้พระองค์เสด็จมาประทับอยู่ในประเทศไทย เพื่อเป็นมึ่งขวัญของคนไทย เพราะในภาวะที่ประชาชนอดอยากยากแค้นเช่นนี้ การเสด็จไปอยู่ต่างประเทศเป็นการสิ้นเปรืองภาษีของประชาชนอย่ามหาศาล
6. นอกจากนั้นทนายอานนท์ ยังเรียร้องให้ สภาผู้แทนราษฎร กำจัด ส.ว. 250 คนที่เป็นสมุนรับใช้เผด็จการออกไปจากการเมืองไทยก่อน โดยการให้ ส.ส. เสนอแก้รัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาและอำนาจของ ส.ว. แล้วให้ผ่าน 3 วาระรสด เพื่อจะให้ ส.ว.สนุนรับใช้เผด็จการพ้นไปจากการเมือไงทย ภายใน 30 กันยายนนี้ให้ได้ โดยคาดหวังว่า วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไปจะต้องไม่มี ส.ว.รับใช้เผด็จการอยู่ในประเทศไทยอีก ด้วยเหตุนี้ก็จะทำให้ “ประยุทธ์” ยุบสภา แล้วให้ ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน มาโหวตกันว่าจะให้ ใครเป็นนายกฯ แล้วมาดูว่ากันว่า พรรค หรือ ส.ส.คนใด โหวตให้ พล.อ.ประยุทธ์ หรือสมุนรับใช้เผด็จการทหารกลับมาเป็นนายกฯ อีกอย่าไปเลือกมัน จากนั้นก็จะให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ โดยให้ ส.ส.ร.เป็นผู้ร่างเพื่อจะได้ เป็น รัฐธรรมนูญของประชาชนอย่างแท้จริง
7. และในช่วงนี้ หากมี ทหารกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด ทำการ รัฐประหาร พระมหากษัตริย์ จะต้องไม่เซ็นรับรองรัฐประหารที่เกิดขึ้นอีกในอนาคต เพื่อที่จะให้ประชาชนได้ออกมาต่อสู้กับ คณะรัฐประหาร นั้นอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อให้มันจบในรุ่นเรา
8. ในการชุมนุมใหญ่ 16 สิงหาคมนี้ ที่ราชดำเนิน อาจจะไม่มี แกนนำนักศึกษาที่จะนำขบวน หรือคงไม่มีอานนท์ ไม่มีเพนกวิน ไม่มีนักศึกษาจากส่วนกลาง เพราะบุคคลเหล่านี้ถูกออกหมายจับและอยู่ระหว่างขอประกัน ทุกคนอาจจะถูกจับเข้าคุกอีกครั้ง ดังนั้นขอให้ประชาชนไทยทั่วประเทศไปร่วมชุมนุมกัน เป็นกองหน้าไปพร้อมกัน หากไปกันน้อย ๆ กลุ่มน้อง ๆ นักศึกษ นักเรียน เยาวชน อาจจะถูกล้อมปราบก็เป็นได้
ข้อเรียกร้องระหว่างบรรทัดที่เพิ่มเติมเข้ามานี้ ทนายอานนท์ ย้ำอีกครั้งว่าเป็นการตั้งคำถามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยความเคารพอย่างถึงที่สุด เพื่อที่จะให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ได้อย่างมั่นคงภายในระบอบประชาธิปไตย อย่างแท้จริง รวมทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดของพี่น้องประชาชนคนไทยต้องนองแผ่นดินกันอีกครั้ง
(https://www.facebook.com/jom.petchpradab/videos/10158430076558965)
