วันศุกร์, เมษายน 10, 2563

'ตรรกะวิบัติ' ชักหนักไปใหญ่ ดังเช่นไล่จับแหม่มโพธิ์ดำ โทษฐานปูดขบวนการโกงกิน

เรื่องตรรกะเพี้ยน หรือบิดเบือนเหตุผล ที่ติดมาแต่หลังทหารยึดแย่งการปกครองและสถาปนา คสช. จนมาต่อยอดในยุคสืบทอดอำนาจนี้ ชักหนักกันไปใหญ่

ตั้งแต่ระดับชาติลงไปถึงชีวิตประจำวันชาวบ้าน เริ่มด้วย ห้ามขายของเมา ๑๐ วัน ทำให้คนแห่ไปตามห้างขนซื้อตุนกันก่อนถึง ๑๐ เมษา พอๆ กับตอนเข้าคิวรอลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ๕ พันบาท ชนิดมีคนถามว่า “เพื่ออะไร? เราไม่ใช่คนกินเหล้าก็จริง แต่ไม่เข้าใจ” (Lin Okabe @Byakuren29)

“ตลกคือบางคนไม่ดื่มก็ไปซื้อตุน กลัวไม่มีของ” BP @Mademoiselle_BP ทวี้ตตอบสนทนากับ @Incognito_me ขณะผู้จัดรายการดัง @kamphaka ย้อนว่า “แก้ผิดจุด...หยุดเชื้อโรค ไม่ใช่แข่งกันถือศีลห้า”

ทั้งๆ ที่มีคนแนะว่า เฮ้ย เมืองนนทฯ ยังซื้อหาได้ไม่ได้ห้ามนะ ประมาณใกล้เคียงกับราชกิจจานุเบกษา “คลัง (สรรพสามิต) ประกาศลดภาษีน้ำมันเครื่องบินภายในประเทศช่วงโควิด-๑๙” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว
 
ซึ่ง อกาลิโก @loving_friday ตั้งคำถาม ซิมเปิ้ล ง่ายๆ “มึงรณรงค์ให้คนอยู่บ้าน แต่ลดภาษีน้ำมันเครื่องบินโดเมสติก” เพื่อ กระตุ้นท่องเที่ยว“ประสาทแดกเหรอ” เออ ใช่

แล้วนี่ “ผู้ใช้เฟชบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ตำหนิการจับกุมพ่อและแม่ของตนในข้อหาฝ่าฝืนเคอร์ฟิว จากการขับรถส่งยาโรงพยาบาลสายแม่ฮ่องสอน ทั้งที่มีใบอนุญาตฯ” แล้วตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้โพสต์ชี้แจงว่า การจับกุมกระทำเมื่อทั้งสองส่งยาเสร็จแล้ว

อ้าง “ตำรวจผู้จับกุมได้พิเคราะห์เห็นว่าสามารถพักค้างคืนได้ ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเดินทางฝ่าฝืนเคอร์ฟิว” ที่ขณะนั้นเวลาห้าทุ่ม ก็เขากำลังเดินทางกลับไปเชียงใหม่ “เพื่อรับยาจากบริษัทและนำไปส่งที่อื่นต่อไป”

ก็นั่นมันอาชีพเขา มีใบอนุญาต เจ้าพนักงานใช้ตรรกะห่านไรที่ไปวินิจฉัยว่าเขาควรพักค้างคืน จะได้ไม่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว แล้วที่บอกว่า “ตระหนักในความจำเป็นที่อาจมีของบริษัทจำหน่ายยา” ก็มาถูกทางแล้ว ไฉนจะบอกขอโทษรับผิดสักนิดไม่ได้หรือไร

หนักเข้าไปอีกเมื่อมาถึงกรณีตำรวจแถลงคดีกักตุนหน้ากากอนามัย รายที่ออกคลิปเปิดรับออร์เดอร์จำนวนมาก อ้างว่ามีในสต็อค ๒๐๐ ล้านชิ้น แล้วกลายเป็นพัวพันขบวนการ คนในกระทรวงพาณิชย์ นักการเมืองบางพรรค และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

อาจรู้เห็นเป็นใจกับการเปลี่ยนวิกฤตเป็น กำไรส่วนตน ของผู้ค้าขายตามช่องทางเลี่ยงกฎหมายก็ได้ เพราะผลแห่งคดีมาลงเอยที่ มีการจับกุมเครือข่ายกักตุนหน้ากากอนามัยขายเกินราคากว่า ๖ แสนชิ้น และดำเนินคดีกับนายหน้าที่ออกคลิปโฆษณา

“สามารถจับกุมนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพได้...ที่เป็นผู้ส่งหน้ากากอนามัยให้กับนายศรสุวีย์ ภู่รวีรัศวัชรี หรือ เสี่ยบอย ที่โพสต์ขายหน้ากากอนามัย ๒๐๐ ล้านชิ้น” รายหลังนี่โดนข้อหาผิด พรบ.คอมพิวเตอร์

ขณะนี้ได้ปล่อยตัวชั่วคราวนายพันธ์ยศแล้ว” แต่ขยายผล “เร่งสืบหาตัวตนเจ้าของเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ที่มีการแชร์เฟชบุ๊คการไล้ฟ์ขายหน้ากากอนามัย ๒๐๐ ล้านชิ้นของเสี่ยบอย ซึ่งถือเข้าข่ายความผิดนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ”

นี่ละ ตรรกะวิบัติแทนที่จะประกาศหาแหม่มโพธิ์ดำเพื่อสมนาคุณ ที่เปิดเผยความจริงให้ทราบทั่วกันว่ามีขบวนการโกงกินจากวิกฤต กลับออกล่าหาตัวคนที่ให้เบาะแสมาลงโทษ ฐานช่วยคนผิดกระจายข้อมูลเท็จ โดยที่ยังไม่มีการจับกุมเสี่ยบอย

เข้าไคล้เป็นการใช้ พรบ.คอมฯ เล่นงานคนทำเพจด่ารัฐบาลและต่อต้านการใช้อำนาจอย่างเผด็จการ แท้ๆ โดยที่ผ่านมาไอ้ พรบ. นี่เป็นเครื่องมือของรัฐบาลทหารใช้จัดการคนเห็นต่างทางการเมืองมาเยอะแล้ว ขนาดว่า Atukkit Sawangsuk ยังบอก

“เหวี่ยงข้อหาแบบนี้...ตีความยังไงก็ไม่ใช่การเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ใช้กฎหมายปิดปาก ปิดกั้นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร...อย่างนี้ฟ้องกลับได้นะ...ใช้อำนาจแบบไหนกันวะ...ข้องใจว่ามีใครอยู่เบื้องหลังเสี่ยบอย-พันธ์ยศ หรือเปล่า”
 
จนมาถึงนี่ “จี้เบรก ‘ธปท.’ ควัก ๔ แสนล้าน ซื้อตราสารหนี้ภาคเอกชน” ที่ซึ่ง ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ชักชวนเพื่อนร่วมอาชีพเดิม เจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยหลายคนรวมทั้งนายโอฬาร ไชยประวัติ นายศิริ การเจริญดี นายธีรชัย ภูวนารถนรานุบาล ฯลฯ เป็นต้น

ว่าการให้แบ๊งค์ชาติออก พรก.สองฉบับเพื่อ “เข้าไปจัดสรรเงินจำนวน ๕ แสนล้านบาท เพื่อช่วยสภาพคล่องของวิสาหกิจเอกชนขนาดกลางและขนาดย่อม” นั้นไม่ควรทำ เพราะเป็นช่องทาง ไม่โปร่งใสเปิดให้ใช้ธนาคารกลางเอื้อต่อเอกชนบางรายได้

ดร.โกร่งให้เหตุผลว่าธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถดำเนินการผ่าน “สถาบันการเงินของรัฐบาล เช่น ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ และหรือธนาคารอาคารสงเคราะห์” ได้อยู่แล้ว

แบ๊งค์ชาติจะลงไปเล่นเองให้เปลืองตัวต่อข้อครหาทำไม หรือว่ามีเลศนัยอะไรบางอย่างบางสิ่ง ที่เป็นประโยชน์ส่วนตนกันเหมือนดังกรณีใช้ตรรกะบิดเบี้ยววิบัติอื่นๆ ที่กล่าวถึงข้างต้น

(https://www.matichon.co.th/economy/news_2131818, https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_3913061 และ https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/2607227622860955?__tn__=H-R)