เย้ สว.มีงานทำแล้วหลังจากเก็บตัวอยู่บ้านกันเพลินเป็นแรมเดือน
นอกจากสนองบุญคุณนายออกมา ‘pick up a fight’ หาเรื่องกับฝ่ายค้านที่อยากเปิดสภาวิสามัญถกเรื่องรัฐบาลฉวยโอกาสเดินหน้ากู้อีกเกือบ
๒ ล้านล้าน ตานี้แว้งกัดนักศึกษา
ทั้ง เสรี สุวรรณภานนท์ และ วันชัย สอนศิริ
สว.ตู่ตั้งด้วยมือ (ไม่ต้องใช้หัว) แท้กทีมโต้นักศึกษาที่รณรงค์กันว่า ‘สว.มีไว้ทำไม’ (หมายเหตุ ไม่ได้เอาอย่างหรือเลียนแบบแฮ้สแท็ก
#...มีไว้ทำไม หรอกนะ อย่าหาเรื่อง) ว่าเด็กไม่รู้หน้าที่
ไม่ใช่กาละเทศะ
ทำเป็นสอน “เขาให้เรียนหนังสือหาความรู้
ไม่ใช่ให้มาไล่คนโน้นคนนี้” โดนเด็กย้อน นี่ไงพวกเรากำลังศึกษาหาความรู้ว่า “ส.ว.มีไว้ทำไม
และจำเป็นไหมที่ประเทศไทยต้องมี ส.ว. เพราะการเมืองคือเรื่องของคนทุกคน” ตรงเป๊ะตามหลักรัฐศาสตร์
ภาคีนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ
โพสต์ศอกกลับ สว. (ตัวย่อนี้สื่อความได้หลายสถาน จะเป็น ‘ผู้สูงวัย’ ‘สวะ’ หรือว่า ‘สถุลขึ้นวอ’ ก็ได้) ว่าการพูดของเสรี “เป็นชุดความคิดที่กดขี่และปิดกั้นเยาวชน
ไม่ให้มีส่วนร่วมในสังคมอย่างมาก”
วาทกรรมซ้ำซากอันหนึ่งที่สอง สว.พ่นไว้ตรงกันคือ
‘ทำตามรัฐธรรมนูญ’ อย่างเช่นวันชัยบอก
“ผมยืนยันว่า ส.ว.ทำตามหน้าที่ตามกฎหมายทุกประการ” เอาอะไรมายัน
ในเมื่อทั้งรัฐธรรมนูญและกฎหมายพ่วงล้วนแต่ “ออกแบบมาเพื่อพวกเรา” ไง
นักเรียนนักศึกษาเขา “ไล่
ส.ว.ทำงานไม่คุ้มเงินเดือน” นั้นถูกต้องแล้ว เช่นเดียวกับที่พวกเขาสนับสนุนฝ่ายค้านเรียกร้องเปิดสภา
‘โต้เถียงกันทางการเมือง’ นี่ละจะได้แจงกันได้ถี่ มีลูกแม่ถ้วนเป็นสักขีพยาน ขืนตั้งตัวแทนไปเจรจานายกฯ
ดังที่วันชัยแนะ เฮียเค้าไม่ได้ฟังเอาแต่ยักคิ้วหลิ่วตา เสียเวลาแน่นอน
ส่วนที่เสรีมั่วนิ่ม กล่าวหานักศึกษา ‘เป็นเครื่องมือของฝ่ายค้าน’ ไม่เป็นตัวของตัวเอง
นี่ก็เฟคนิวส์ ‘มุสา’ อีกสิ
ทำเป็นอ้างปี ๑๖ กับ ๑๙ เดือนตุลา “ไม่เหมือนกัน”
เพราะยุคนั้นรัฐบาลใช้อำนาจไม่ชอบธรรม เอางี้ รัฐบาลนี้ที่สืบทอดมาจากรัฐบาลโน้น
ผลพวงของรัฐบาล คสช.
และการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่ประชาชนเลือก ซึ่งแต่งตั้ง สว.๒๕๐
คนด้วยวิธีจิ้มก้อง อันมีเสรีและวันชัยรวมอยู่ด้วยนั้นผิดทำนองคลองธรรมแห่งประชาธิปไตยเต็มเปาอยู่แล้ว
จะใช้วาจาบิดเบี้ยวว่า
“ในปัจจุบันไม่ปรากฏว่ารัฐบาลทำอะไรที่ผิดกฎหมาย
ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น” อายปากตัวเองบ้างไหม ต้องดูต้นตอที่ล้มล้างรัฐธรรมนูญเดิม นั่นผิดข้อหากบฏเชียวนะ
และเรื่องคอรัปชั่น อมอะไรมาพูดกลิ่นคลุ้งเชียว
เรื่องกักตุนหน้ากากอนามัยเกิดในรัฐบาลนี้นะ
ความงี่เง่าเต่าตุ่นของลิ่วล้อ ‘ตู่ตั้ง’ เหล่านี้นี่เองไม่เพียงทำให้นักศึกษาต้องกระชับกล้าม
ขยับไล่ออกไปจากการเป็นสภารองบู๊ตนักยึดอำนาจ แล้วยังต้องร่วมแรงกับประชากรซึ่งมองเห็นและทนทุกข์กับการสวาปามอำนาจของคณะทหาร
รณรงค์ประท้วงออนไลน์ #MobFromHome ตามการเชื้อเชิญของสหภาพนักเรียน
นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย หรือ สนท. โดยไม่ต้องรอ “โควิดหายมาไล่รัฐบาลกันไหม?” ก็ได้ ในเมื่อแน่นอนว่ารัฐบาลตูบซ้ำกำลังจะต่ออายุ
พรก.ฉุกเฉินอีก ‘อย่างน้อย’ ๑ เดือน
เราได้รู้เช่นเห็นชั่วแล้วว่าตลอดเวลาของการใช้
พรก.ฉุกเฉินที่ผ่านมา
แทนที่จะทำให้การควบคุมและสกัดกั้นเชื้อไวรัสเกิดประสิทธิผลสมบูรณ์
กลับเป็นว่าเกิดผลกระทบข้างเคียงให้ประชาชนผู้มีจิตกุศลต้องการเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์ร่วมชาติ
ถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่รัฐ
ยังมีสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้เตรียมการทำอย่างไม่ยอมเพลามือหรือหยุดยั้งอีกมาก
ซึ่งจะสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนแก่พวกพ้องของตน พร้อมกันไปกับกีดกันและกดขี่ประชาชนที่เห็นต่างเพราะต้องการแนวทางประชาธิปไตยแท้จริง
ดังเช่น “รัฐบาล
คสช.กำลังลักไก่นำประเทศไทยไปผูกพันกับความตกลง CPTPP...ไทยอาจเจอปัญหา
'ผูกขาดเมล็ดพันธุ์และสิทธิบัตรยา” (@iLawFX) ที่ซึ่ง #FTAWatch
ชวนร่วมชุมนุมออนไลน์ในวันอังคารนี้ (ที่ ๒๘ เมษา)
เนื่องจากการเข้าร่วมภาคีดังกล่าวจะก่อให้เกิด
“การผูกขาดเมล็ดพันธุ์ ทำลายความมั่นคงทางอาหาร ความมั่นคงทางยา
ส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดกลาง/ขนาดเล็กของไทย...อีกทั้งไม่มีการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
หลังวิกฤตโควิด-๑๙”
ฉะนี้เมื่อปรากฏว่าผู้ปกครองออกอาการฉ้อฉล
ก็เป็นหน้าที่ของผู้อยู่ใต้ปกครอง ไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือนักศึกษา จักต้องต่อต้าน