วันจันทร์, เมษายน 20, 2563

ค่าไฟ "ก้าวหน้ากว่าอนาคตเรา" ไม่เป็นไร รอเดี๋ยวได้ใช้ 'มือถือ' ฟรี "‘Big Deal’ ไหมนี่ อย่างนี้ต้องไปอ้อนวอน ‘COVID’ อย่าเพิ่งรีบไปไหมล่ะ"


สนธิรัตน์ งานเข้าบ้างนิ รมว. ตูบสองคุมพลังงาน บอก “ไม่นิ่งนอนใจ” ชาวบ้านบ่นแซดติดเทร็นด์ทวิตเตอร์ #ค่าไฟแพง หูฉี่สามสี่เท่า แต่คำแรกแก้ตัวไว้ก่อนตามสันดอนลูกน้อง คสช. อ้าง ล็อคดาวน์ คนอยู่บ้านมากขึ้นก็ใช้ไฟมากขึ้น

แต่จากที่เคยจ่ายกันพันห้าขึ้นเป็นห้าพันงี้มากไปนะ บางรายเคยจ่ายตอนอากาศร้อนมากแค่ ๓ พัน สูงสุด ๕ พัน เดี๋ยวนี้เจอบิล ๘,๔๐๐ บาท หรือว่าบ้านคนดัง เช่น มิค บรมวุฒิ สามีของ เบ๊นซ์ พรชิตา ว่า “บ้านชั้นเดียวขึ้นทีประมาณ ๖,๐๐๐ บาทเลยเหรอครับ”

ทั้งผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวงและภูมิภาคพูดตรงกันเกี่ยวกับข้อสงสัย “ไฟฟ้ารั่ว หรือความผิดปกติของมิเตอร์ไฟฟ้า ถ้าตรวจพบว่ามีข้อผิดพลาดจากตรงนี้ การไฟฟ้าจะชดเชยเงินส่วนเกินให้” โดยเฉพาะกีรพัฒน์ เจียมเศรษฐ์ ย้ำว่าหน้าร้อนนี่คนใช้ไฟเยอะทุกปี

ด้าน สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รีบแจงผ่านเฟชบุ๊ค “พรุ่งนี้ผมเชิญ กกพ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหาแนวทางมาตรการเรื่องค่าไฟฟ้า เพิ่มเติมจากที่ได้มีหลายมาตรการออกไปแล้ว” กกพ. ก็คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เผื่อใครไม่ได้ค่อยจำตัวย่อ

ผมได้โยนโจทย์ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันหาแนวทางการลดค่าครองชีพเพิ่มเติม ว่ามีแนวทางไหนจะสามารถลดค่าไฟฟ้าได้อีกหรือไม่อย่างไร หลังจากประชาชนส่วนใหญ่ทำงานที่บ้าน จึงใช้ไฟเพิ่มขึ้น ทำให้รู้สึกว่าค่าไฟแพงขึ้น”

ถ้อยคำเกริ่นแบบตบหัวนิดๆ ก่อนจะไปลูบหลัง “ถือเป็นความเดือดร้อนของประชาชนซึ่งผมไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งหามาตรการมาช่วยเหลือเพิ่มเติมจากขณะนี้มีมาตรการลดค่าไฟให้ ๓ เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่บิลเดือน เม.ย.-มิ.ย.นี้”

ที่ซึ่งมีคำแนะนำแล้วจากนักกิจกรรม เช่น สฤณี อาชวานันทกุล ขานรับ “ค่าไฟเพิ่มขึ้นมากเพราะประชาชนอยู่บ้านมากขึ้นตามมาตรการโควิด-๑๙ ของรัฐ ควรลดค่าไฟแบบที่ลดภาระได้จริงเช่น ๓๐-๕๐% ของยอดบิล ไม่ใช่ลดราคา ๓%”

แต่กระนั้นก็ได้มีคำอธิบายจากผู้รู้ออกมาแล้วทางสื่อ “ระบบการคิดค่าไฟของการไฟฟ้านั้นคิดแบบ อัตราก้าวหน้า” อะ แบบว่า “หลายคนไม่รู้จริงๆ ว่าค่าไฟคิดแบบก้าวกระโดด” อย่างที่สฤณีอ้างถึง ซึ่งถ้าใช้ไฟเพิ่มขึ้นเท่าตัวค่าไฟจะเพิ่มมากกว่าเท่าตัว

นั่นคือ “๓๕ หน่วยแรก เหมารวมทั้งสิ้นเป็นจำนวนเงิน ๘๕.๒๑ บาท” อีก ๑๑๕ หน่วยต่อไปคิดหน่วยละ ๑.๑๒๓๖ บาท พ้น ๒๕๐ หน่วยคิด ๒.๑๓๒๙ บาทต่อหน่วย และส่วนที่เกินกว่า ๔๐๐ หน่วยขึ้นไป คิดราคา ๒.๔๒๒๖ บาทต่อหน่วย
 
เว็บอมรินทร์เขาทำตัวอย่างวิธีคิดคำนวณค่าไฟด้วยตนเองไว้ ว่าบ้านเอใช้หลอดไฟ ๕๐ วัตต์ ๑๐ ดวง มีไมโครเวฟขนาด ๖๐๐ วัตต์เปิดใช้วันละครึ่งชั่วโมง ตู้เย็น ๑ เครื่องขนาด ๑๒๕ วัตต์เปิดตลอดเวลา กับแอร์ขนาด ๒ พันวัตต์สองตัว

แล้วยังมีเตาอบ ๘๕๐ วัตต์ เครื่องทำกาแฟ ๑๐๐ วัตต์ โทรทัศน์ ๓๐๐ วัตต์ เอาจำนวนวัตต์แต่ละชนิดหารด้วย ๑,๐๐๐ แล้วคูณด้วยจำนวนชั่วโมงที่ใช้ จะได้จำนวนหน่วยที่ใช้ต่อวันแล้วคูณด้วย ๓๐ หรือ ๓๑ เป็นจำนวนหน่วยต่อเดือน

จากนั้นคำนวณตามวิธีก้าวหน้า ๓๕>๑๑๕>๒๕๐>๔๐๐+ จะได้ค่าไฟของรายบ้านเอเดือนนี้ โดย “ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าใช้จ่ายที่การไฟฟ้านครหลวงเรียกเก็บ” ทั้งสิ้น ๒,๑๒๗.๙๓ บาท ลองเอาไปเทียบเคียงกับของใครของมันกันดู


ทางนี้ดูแล้วการเก็บแบบก้าวหน้าขนาดนั้น มันไม่น่าจะถึงกับ ก้าวกระโดด จากพันห้าไปเป็นห้าพันหรอกนะ ฉะนี้ ทราย’ ITRC @charoenpura ถึงได้บอก “อัตราค่าไฟก้าวหน้ากว่าอนาคตพวกเราอีกอะ” ถึงอย่างนั้นคงต้องรอดูความไม่นิ่งนอนใจของสนธิรัตน์อีกที

ค่าไฟยังไม่เหือดหาย ค่า วายฟายหรือ ไวไฟเข้ามาแก้ จะทำให้ไพร่ฟ้าหน้าซีดลืมๆ เรื่องมีเตอร์ไปได้ไหมนี่ เมื่อ ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาฯ กสทช. แย้มข่าวดีข่าวใหญ่ “ผมทำเต็มที่ครับ” เจรจากับค่ายมือถือ ๓ แห่งเกือบเสร็จแล้ว
 
“ได้ข้อสรุปเกือบ ๙๐% แล้วครับ คงไม่ใช่แค่การลดค่าบริการ แต่เป็นการให้ประชาชนได้ใช้ฟรี โดยรัฐและ กสทช. ไม่ต้องจ่ายเงิน” อันนี้เป็นโครงการ โทรฟรี ๑ คน ๑ สิทธิ์ ๑ ค่ายสำหรับผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือ รายบุคคลต่างชาติและนิติบุคคลอด

นัยว่าจะเริ่มได้ ๑ พ.ค.นี้เลย “หลังจากโครงการเพิ่มเน็ต 10GB สิ้นสุดลง (๓๐ เม.ย.)” ขอให้รอฟังรายละเอียดอีกวันสองวัน แต่ข่าว ฐานเศรษฐกิจของค่ายนิวเน็ตเวิร์ค วงในใกล้ชิด ประชารัฐว่า “ให้ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โทรฟรีจำนวน ๑๐๐ นาที”


‘Big Deal’ ไหมนี่ อย่างนี้ต้องไปอ้อนวอน ‘COVID’ อย่าเพิ่งรีบไปไหมล่ะ