11 ปี ลอบสังหารสินธิ ลิ้มทองกุล
การหักหลังกันของชนชั้นนำฝ่ายอำมาตย์ที่สนธิ เองก็ยังอยากจะลืม
.................
เมื่อวาน 17 เมษายน 2563 ครบ 11 ปีของการลอบสังหารสนธิ ลิ้มทองกุล โดยกลุ่มคนมีสี
(ตามคำบอกเล่าของลูกชายสนธิ ลิ่มทองกุลเอง)
คนที่ยิงหัวสนธิ ที่มีสี ไม่ใช่ใครที่ไหน
ซึ่งก็คือทหารนั่นแหละ
ผมพยามลองค้นดู ว่ามีสื่อไหนของผู้จัดการบ่างที่ทำข่าวนี้ปรากฎว่าไม่มี
ครั้งสุดท้านที่ผู้จัดการทำสกูปใหญ่ก็คือ 2 ปีที่แล้ว ตอนครบ 9 ปี
ย้อนรอย 9 ปี ลอบสังหาร “สนธิ ลิ้มทองกุล” อำนาจมืดมีจริง CCTV 206 ตัว แต่จับใครไม่ได้-ทหารคนบงการยังลอยนวล
https://mgronline.com/crime/detail/9610000037919
หลังจากนั้นก็ไม่มีอีกเลย
ถ้ามีการพูดเรื่องลอบสังหารของสนธิ ก็เป็นการพูดแก้เกี้ยวคือย้อนไปเหตุการณ์ปี 2535 ซึ่งไม่อยู่ในสารบบความทรงจำแต่อย่างใด
‘สนธิ’ อัดคลิปเล่าเหตุถูกลอบสังหาร บอกทหารรุ่นหลังกลัวผม จนต้องเอาเข้าคุก
https://www.matichon.co.th/politics/news_1691783
ทำไมผมถึงพูดว่าเป็นการหักหลังกันเองของ ของชนชั้นนำฝ่ายอำมาตย์ที่สนธิเองก็ยังอยากจะลืม
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ช่วงระหว่างปี 2548-2552 ชื่อของสนธินี่ถือว่าเนื้อหอมมากนชั้นนำฝ่ายอำมาตย์ก็อยากเข้าใกล้
เพราะเป็นคนเดียวที่มีศักยภาพที่จะล้มทีกษิณได้
สนธิ เจ๋งแค่ไหน ลองดู 2 เหตุการณ์
1.มีใครในประเทศนี้ ที่ สามารถเอาพระสุรเสียง ของราชินีในรัชกาลที่ 9 มาขึ้นเวทีประท้วงรัฐบาลได้ แต่สนธิทำมาแล้ว
พระบารมีปกเกล้า : พระสุรเสียงราชินีบนเวทีพันธมิตร
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
https://prachatai.com/journal/2008/08/17688
2. เท่านั้นยังไม่พอ ในประเทศนี้ มีใครกร่างได้เท่ากับสนธิได้อีก เมื่อฟังคลิปอันนี้
คลิปประวัติศาสตร์: สนธิ เล่าเรื่อง "ราชสำนัก" มอบ "ของขวัญชิ้นหนึ่ง" ให้พันธมิตร
https://www.youtube.com/watch?v=GY2WrzNwQHg
ขณะที่บริบทเดือนเมษายน 2552 คือความพ่ายแพ้ของเสื้อแดงยกแรก ทำให้ชั้นนำฝ่ายอำมาตย์ คิดว่าสนธิ คงหมดประโยชน์ไปแล้ว
ถ้าปล่อยให้มีชีวิตอยู่ก็จะเป็นภาระเกินไป เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะปากโป้งขึ้นมาอีก
ประวัติศาสตร์การหักหลังคนของสนธิเป็นอย่างไร ถามทักษิณดูได้
ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะโป้งปาก สนธิ ลิ้มทองกุลเสียก่อนที่สนธิจะปากโป้ง
จึ่งเป็นที่มาของการสังหารสนธิ เช้าวันที่ 17 เมษายน 2552
ถึงแม้ในเวลานั้นรัฐบาลยังประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรมว.กลาโหม
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายของ พล.อ.ประวิตร ดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.
ปฏิบัติการยิงหัวสนธิ บริเวณแยกบางขุนพรหม โดยกล้องวงจรปิดเสียทุกตัว และจับมือใครดมไม่ได้สักคน
ถ้าไม่ได้กินแกลบก็รู้ว่าคนที่จะทำได้คือทหารอย่างเดียวเท่านั้น
(ยังมีข่าวบอกมาด้วยว่า เมื่อยิงสนธิแล้ว มือปืนก็ขับรถเข่าไปที่กองบัญชาการกองทัพบกที่อยู่ใกล้ ๆ นั่นแหละ)
ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ก็พูดไปแบบเสียไม่ได้วา
"การลอบยิงเป็นเรื่องอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเมื่อใดก็ได้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องสืบสวนสอบสวน ยอมรับว่าอาวุธสงครามยังคงมีใช้อยู่ในสังคมไทยซึ่งฝ่ายทหารก็พยายามแก้ปัญหานี้อยู่ แต่ไม่ขอแสดงความเห็นว่าเกี่ยวกับทหารหรือไม่ ซึ่งขณะนี้มีกำลังนายทหารตรึงกำลังอยู่เวรยาม เขตละ 2 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร เพื่อรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ฝ่ายทหารได้รับคำสั่งและได้สั่งการเด็ดขาดว่าหลังคืนวันที่ 13 เมษายน 2552 ห้ามทหารใช้อาวุธโดยเด็ดขาด แม้เห็นตัวผู้ร้าย หรือ มีเหตุป่วนเมือง เช่น โยนระเบิดปิงปอง ระเบิดเพลิงขนาดเล็ก ส่วนเหตุการณ์ลอบยิงจะเป็นการป่วนเมืองหรือไม่ มองว่าการป่วนเมืองในขณะนี้ไม่ใช่ยุทธศาสตร์ที่ถูกต้องเพราะจะทำให้สังคมไม่ยอมรับ"
ผ่านมา 11 ปี สนธิ ก็ไม่กล้าทวงคืนความยุติธรรมให้ตนเอง เพราะรุ้ว่าไม่มีประโยชน์ และไม่ควรที่จะจดจำมันด้วย
สนธิ คงจะรอเวลา "เอาคืน" ชนชั้นนำฝ่ายอำมาตย์ ย่างเดียวเท่านั้น เหมือนกับที่ทำกับทักษิณนั่นแหละ