วันพฤหัสบดี, เมษายน 16, 2563

พูดผิดรอลูกน้องแก้ให้จนเป็นนิสัยติดตัวต่อไป 'ไม่ได้' ความสามารถแก้โควิดของไทยเวลานี้เต็มพิกัดแล้ว


แค่ ‘hick up’ สะอึกเท่านั้น ให้โปรเฟสเซ่อโฆษกคอยตามตบหลังก็หาย คำพูดเป็นนายของนายกฯ “ตอนนี้มีเงินจ่ายเยียวยา ๕,๐๐๐ บาทแค่เดือนเดียว เดือนต่อไปต้องรอ พ.ร.ก.เงินกู้ ๑ ล้านล้านบาท” จากคลิปที่ @jin_Somroutai ช่อง ๗ เอามายัน

นั้นนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีช่วยแก้ไขใหม่ให้กระชับว่า ไอทู้บผู้โอบอ้อม ไล่แจกจ่ายอุปกรณ์การแพทย์แก่มิตรประเทศเพื่อนบ้าน หมายถึงงบประมาณปี ๖๓ เท่านั้นที่หมด ยังมีเงินกู้ของปีหน้าไว้สำรอง

ปลัดคลังฯ มายันอีกคน “ว่าท่านพูดชัดเจนในข้อเท็จจริง...ซึ่ง พ.ร.ก.เงินกู้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ และการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้นจึงจะหาเงินกู้เพื่อนำมาจ่ายเยียวยาประชาชนในเดือนที่ ๒ และเดือนที่ ๓ ต่อไป”

ช่วยกันประคับประคอง ไข่ในหิน ใบนี้ให้ไปตลอดสมัยสองหน่อยได้ไหม โถ ต้องฟังเขาโอด “หากมาทำตรงนี้ แล้วจะรู้ว่ามันยากแค่ไหน มันเสี่ยงอันตรายแค่ไหน ในการใช้จ่ายงบประมาณเหล่านี้” โฆษกทหารWassana Nanuam บอก
 
เข้าใจตรงกันแล้วนะว่าลูกหลานประชาชนมีส่วนร่วมแก้วิกฤตประเทศถ้วนหน้า ด้วยการตามใช้หนี้เงินกู้ที่ว่านั่น แต่สิ่งดีๆ ที่นายกฯ ดันลืมพูด ตรงที่มีการทบทวนงบประมาณปี ๖๔ พิจารณาตัดงบฯ ทุกกระทรวงลง ๒๕-๕๐ เปอร์เซ็นต์เพื่อเอาไปอัดสู้โควิด

เลยได้รู้ว่า งบประมาณที่ตั้งไว้มากมายชนิดขาดดุลสะสมนั้น แท้จริงแล้วตัดได้ ลดได้ โดยเฉพาะในส่วนที่จะเอาไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย เช่น ประชาสัมพันธ์ จ้างที่ปรึกษา สัมมนา ดูงานต่างประเทศ ค่าจัดอีเว้นต์ จ้างออร์แกไน้เซอร์ ไรงี้เกินต้องการไปตั้ง ๒๕%


ปัญหามีแต่เพียงว่าผู้นำพูดผิด พูดตกหล่น พูดเกินจริง พูดพล่อย ปากเปรอะเลอะเทอะแบบผู้นำอเมริกันคนนี้ไม่ได้ เพราะผิดแล้วผิดเลย จะให้ลิ่วล้อคอยช่วยแก้ประชาชนก็ยังไม่ไว้ใจ ไม่เหมือนในอเมริกาที่มีการแยกอำนาจชัดเจน

เมื่อประธานาธิบดีมั่ว เอาแต่ใจตัวเป็นที่ตั้ง พวกผู้ว่าการรัฐเขาก็ไม่เอาด้วย จากกรณีที่ทรั้มพ์หน้าแตกหลังประกาศอำนาจเบ็ดเสร็จ จะทำการเปิดปิดประเทศตามความคิดส่วนตน (ชี้ไปที่หัว) ผู้ว่านิวยอร์ค แมสซาชูเส็ท และอิลลินอยส์ ประกาศไม่เอาด้วย เช่นเดียวกับผู้ว่าฯ แคลิฟอร์เนีย ออเรกอน และวอชิงตัน

ในกาลข้างหน้าหลังจากโควิดสยบ พันธะหนักยิ่งกว่าอยู่ที่ไม่สามารถออกมายืนเกาะโพเดี้ยม แถลงเรียกร้องความร่วมมือจากประชาชน ว่าจะให้พวกเขาอดๆ อยากๆ เพื่อความพอเพียง ยึดมั่นปรัชญาแห่งชาติได้อีกแล้วนะ

เมื่อวันก่อน ไอเอ็มเอฟออกโรงเตือนไว้แล้วว่าปี ๖๓ นี้ เศรษฐกิจโลกติดลบ ๓ เปอร์เซ็นต์แน่นอน จีดีพีของประเทศต่างๆ ล้วนหดตัวถ้วนหน้า อเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น ไม่มีใครไม่ติดลบ เฉพาะไทยที่เคยฝันว่าจะโต ๓ เปอร์เซ็นต์ ก็หดตัวเหลือ -๖.๗%

ซ้ำร้ายการแก้ไขพิษภัยจากโควิด-๑๙ จะไม่จบง่ายๆ หลังจากที่การระบาดยุติแล้ว ณ เวลานี้ดูเหมือนว่าเส้นกร๊าฟการติดเชื้อจะเข้าสู่ระนาบแนวนอน ทว่าสมรรถนะในการรักษาผู้ป่วยเต็มพิกัดที่มีอยู่แล้ว เครื่องช่วยหายใจทั้งประเทศมีเพียง ๒๐๐ อัน

นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ ธนบุรีเฮ้ลต์แคร์กรุ๊ป โรงพยาบาลเอกชนอันดับสามของไทย บอกกับ นสพ.บางกอกโพสต์ว่า หากมีจำนวนผู้ป่วยใหม่ๆ ในอัตราวันละร้อยรายก็เต็มกำลังแล้ว มากกว่านี้แย่แน่ๆ ขณะนี้ทั้งโรงพยาบาลจุฬาและศิริราชเตียงคนไข้เต็มหมด
 
“เขาประเมินว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจริงๆ มากกว่าจำนวนที่มีการประกาศแล้ว ๔๐ เท่าเห็นจะได้ ในเมื่อ ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของคนที่ติดเชื้อไม่ปรากฏอาการ หมายความว่าอาจมีคนติดเชื้อถึง ๒ แสนรายโดยไม่รู้ตัว” ดังนั้นการสกัดโควิดระยะยาวได้ต้องไล่ตรวจให้ถ้วนทั่ว

ประเทศไทยตรวจหาผู้ติดเชื้อไปแล้ว ๓ หมื่นราย และปัจจุบันสามารถตรวจได้วันละ ๑ พันคน แต่การตรวจฟรีโดยรัฐบาลจะทำเฉพาะคนที่มีอาการแล้วเท่านั้น ผู้ต้องการตรวจเพราะสงสัยหรือเพียงสุ่มตรวจจะต้องไปโรงพยาบาลเอกชนซึ่งค่าตรวจ ๖ พันบาทต่อราย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมามีจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ ๓๔ ราย ซึ่งจัดว่าน้อยและทรงตัว แต่ความสามารถในการรับมือผู้ป่วยในไทยอยู่ที่ต้องมีการติดเชื้อใหม่แค่วันละ ๒๐-๓๐ รายเท่านั้นจึงจะรับไหว แสดงว่า ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยยังห่างไกลจากจุดอันตราย

ภาวะวิกฤตโควิด-๑๙ จะยืดเยื้อต่อไปเป็นเวลานานถึง ๑๘ เดือน แต่อีกไม่ช้าฤดูฝนกำลังจะมา รัฐบาลมีเส้นตายต้องระงับการแพร่เชื้อให้ได้ภายในก่อนเดือนกรกฎาคม เมื่ออากาศชื้นทำให้ผู้คนมักป่วยด้วยหวัดหรือไข้ธรรมดา อันเป็นช่องทางให้โคโรน่าไวรัสเข้าแทรกซ้อนได้ง่าย


ที่เป็นมาหมอบุญให้คะแนนการรับมือโควิดของรัฐบาลตูบที่เกรด B+So far so good.” เขาว่าปัญหาอยู่ที่การตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจฉับไวและขับเคลื่อนทันควันของรัฐบาล “อืดอาดไปนิด”

จะลองผิดลองถูก หรือให้ข้อมูลผิดๆ บ่อยๆ ไม่เป็นไรมีลูกน้องคอยแก้ให้เหมือนที่ทำมาจนเป็นนิสัยติดตัว อีก ไม่ได้ เพราะถ้าผู้นำยังขืนบ๊องๆ ตามสบาย #รจตกม