วันพฤหัสบดี, เมษายน 23, 2563

“เงินทองเดี๋ยวหาใหม่ได้" ใช่สิ ยานเกราะต้องซื้อ คลังมีกำไรแล้วนิ แล้วไฉนตัดงบบัตรทองล่ะ

ด็อกเต้อโฆษกคนดังอีกนิ วานนี้สวมบท ว.วชิรเมธี ขึ้นธรรมาสน์โปรดสัตว์ “เงินทองเดี๋ยวหาใหม่ได้ รักษาสุขภาพ รักษาชีวิตไว้ก่อน” ก็พูดถึงโควิด-๑๙ นี่ละ ว่าทำให้รัฐบาลต้องบังคับภาวะฉุกเฉินต่อ และเกิดเดือดร้อนเรื่องเงินๆ ทองๆ กัน

“ต้องมีความเข้าใจตรงนี้ก่อน” นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.ปลอบประชาชน ว่าถ้าหากควบคุมโรคได้แล้ว “ความสูญเสียทางด้านจิตใจ ร่างกาย หรือสูญเสียคนที่เรารักไปนั้นก็จะน้อยลง เมื่อน้อยลงก็จะเหลือเงินมากขึ้นที่จะมาดูแล”

เออ เขาพูดให้มันวนเข้าไปหาเป้าจนได้ มิใยหลายคนยังงงว่าถ้าไม่มีจะกินจริงๆ โควิดอยู่หรือไปมันค่าเท่ากันนะ สำหรับชีวิตที่ต้องปากกัดตีนถีบ แล้วไปเจอเจ้าหน้าที่ห้ามคนใจบุญเอาอาหารมาบริจาค ล่าสุดที่สมุยกลุ่มฝรั่งแจกอาหารแรงงานต่างด้าว ถูกจับและตั้งข้อหาทำประเทศไทยเสียภาพลักษณ์

หรือในระดับมหภาคเรื่องงบประมาณ ๔ แสนล้านจากเงินเตรียมกู้สำหรับอุ้มตราสารหนี้บรรษัทเอกชน ปรากฏว่าบริษัททรู (แท้ๆ) ของเจ้าสัวซีพี ธนินท์ เจียรวนนท์ ว่องไวปานกามนิตหนุ่ม “ออกหุ้นกู้ ๒ ชุด เพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้ชุดเดิมที่หมดอายุเดือนนี้ มูลค่า ๙ พันล้านบาท”

songkiet chartwattan @songkietchartwa ทวี้ตแซะ “ไม่ต้องกังวลว่าจะขายไม่ออก เพราะรัฐฯ ทุ่มเงิน ๔ แสนล้านเข้าซื้อตามโครงการพยุงตลาดตราสารหนี้แล้ว เจ้าสัวได้ประโยชน์เต็มๆ” แล้วยังมีหุ้นกู้ของ ซีพีเอฟอีก ๖,๕๐๐ ล้าน กับของ ซีพีออล๑,๕๐๐ ล้าน สำหรับเดือนมิถุนา

นั่นเป็นความฟายที่จะมาแทรก ขณะที่ความงัวยังอุ่นๆ ที่สรรพาวุธทหารบกจะซื้อยานเกราะล้อยางอีก ๕๐ คันจากสหรัฐ ราคา ๔,๕๐๐ ล้านบาท ที่ทำให้ทั้ง ผบ.ทบ. และโฆษกทัพบกรีบแก้ข่าวว่ายังไม่ได้ซื้อวันนี้ แค่ชงเรื่องรอไว้
 
รองโฆษก พ.อ.หญิงไม่ค่อยเน้นเรื่องเงินเท่าไร แต่ไปหนักเรื่องสื่อ “ขณะนี้เราอยู่ในสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-๑๙ ประชาชนมีความเดือดร้อนและอ่อนไหวต่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร” ศิริจันทร์ งาทอง เธอว่า

“เนื่องจากข่าวสารที่นำเสนอมีความสำคัญต่ออารมณ์ของคนไทยที่อยู่ในสภาวะตึงเครียด มีบางเพจนำเข้าข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ใส่อารมณ์ต่อว่ากองทัพบกและผู้บังคับบัญชาระดับสูง ขอให้เบาๆ ลงหน่อย” เนื่องจาก “กองทัพบกไม่อยากใช้มาตรการทางกฎหมาย”

ทางด้านตัวโฆษก พ.อ.วินธัย สุวารี บอกว่าเงินที่จะใช้ซื้อสไตร๊เกอร์ชุดใหม่นี่ใช้งบฯ ปี ๖๓ แค่ ๔๕๐ ล้านเท่านั้นนะ ที่เหลือไปเอาจากงบฯ ปี ๖๔ แต่ว่าอันนี้ดีลดีมาก นอกจากซื้อ ๕๐ แถม ๓๐ คันแล้วยังมีแจกรถติดปืน รถผู้บังคับบัญชา รถพยาบาล ฯลฯ โอ๊ยเยอะ
 
โครงการนี้ ต้อง ซื้อแน่ๆ อยู่แล้วเพราะเป็นส่วนสำคัญในการตั้ง กรมยานเกราะขึ้นใหม่ในยุคสมัย ผบ.ทบ. แดง ด้วย จะได้มียานเกราะล้อยางชนิดปรับสภาพใหม่ ‘refurbished’ แต่ก็ เมดอินยูเอสเอ๑๓๐ คันประจำการ

ถึงกระนั้นต้องไม่ลืมบุญคุณ ทบ.นะ เพราะทั่น ผบ.ใจเด็ดยอมเฉือนไขมันตนเองออกไปตั้ง ๑๘,๐๐๐ ล้านบาทแน่ะ “กระทรวงกลาโหมปรับลดงบประมาณจาก ๗ หน่วยงานในสังกัดยอดรวมประมาณ...ถือเป็นตัวเลขที่สูงเมื่อเทียบกับกระทรวงอื่น”


ทั้งหมดนั่นจะหาว่ารัฐบาลตูบนี้ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายอีกไม่ได้นะ ทหารเตือนแล้ว เป็นสื่อต้องระวังปาก หากใครสังเกตุต้องดูที่ธนาคารแห่งประเทศไทยแถลงสถานะการคลังปี ๖๒ ต่อเนื่องไตรมาสแรกปี ๖๓ ได้เปลี่ยนจาก ขาดทุน มาเป็น กำไร แล้วละ

เกือบทั้งหมดเกิดจากการผันลงผันขึ้น (หรือกลับกัน ‘literally’ ในทางลายลักษณ์อักษร) ที่ค่าเงินบาทแข็งโป๊กเมื่อปี ๒๕๖๒ ที่ประมาณ ๓๐ บาทต่อดอลลาร์ จนมาเมื่อต้นปี ๖๓ กลับอ่อนยวบไปอยู่ที่ ๓๒ บาทกว่าๆ ทำให้ ธปท.มีกำไรตั้ง ๒๕๙ บิลเลี่ยนดอลลาร์แน่ะ

ฉะนั้นใครอย่าว่ารัฐบาลประยุทธ์ถังแตกอีกไม่ได้ กระนั้นพลเมืองออนไลน์สงสัย และโดยเฉพาะ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพโวยวายว่าไฉนรัฐบาล ตัดงบฯ บัตรทองออกไปตั้ง ๒,๔๐๐ ล้านบาท หรือถึง ๔๐% เลยทีเดียวล่ะ

อ้างว่า “นำไปตั้งเป็นงบสำรองฉุกเฉินแก้ไขปัญหา ช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาผลกระทบ จากการแพร่ระบาดโควิด-๑๙” ในเมื่อ “กองทุนฯ ที่มีบทบาทรักษาพยาบาลผู้ป่วย กลับต้องได้รับจัดสรรหรืออุดหนุนงบประมาณเข้ามาเพิ่มเติมด้วยซ้ำ”


มันเป็นเสียเช่นนี้แหละพี่น้อง จะไม่ให้สื่อชวนกันด่ารัฐบาล ตูบ (ทั้ง ๑ และ ๒) ได้อย่างไรเล่า ในเมื่อประชากรมีแต่ร้องไห้ สุดร้ายตรงที่มีคนฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจแบบ ไอทู้บ เนี่ย จะเรียกว่าเป็นเบือก็ได้นะ

ช่วงตั้งแต่วันที่ ๑ ถึง ๒๑ เมษามานี่ มีคนเก็บสถิติจากข่าวรายวันไว้ พบว่าคนไทยฆ่าตัวตายเพราะความแร้นแค้น รวมแล้ว ๒๑ ราย เฉลี่ยวันละ ๑ ศพพอดี ไม่เชื่อไปดูกันได้ที่ https://drive.google.com/file/d/1p1989H4B00vqypN43WeUh7EmuC43TgGM/view ไม่ต้องอ่านรายละเอียดก็ได้ มันเศร้ามาก