วันอาทิตย์, พฤษภาคม 12, 2562

ปีหน้าถ้าตู่มา จะแก้ปัญหาล้งทุเรียนได้ไง ปีนี้ติดด่าน ๓ พันตู้คอนเทนเนอร์


อย่าไปมัวพะวงกับข่าว “กสทช. เฉือนเนื้อ ๓ หมื่นกว่าล้าน” เยียวยา ๗ ทีวีดิจิทัลและเอื้ออาทรอีก ๑๕ ช่องที่ยังดันต่อ แม้นว่าหลายช่องเป็นของสามเจ้าสัวระดับอภิมหาก็ตาม

ท้ายที่สุดแล้วเงินที่ว่าถอนจากกองทุน กสทช. มาจ่าย ก็เป็นเงินที่ได้มาจากการประมูลเมื่อปี ๒๕๕๖ นั่นเอง หักลบที่ยังจ่ายกันไม่หมดแล้วได้ไว้ประมาณ ๓ หมื่น ๔ พันล้านบาท ส่วนค่าเยียวยาและยกเว้นค่าเช่ายังไม่รู้ตัวเลขแน่ ประเมินอยู่ที่ ๓ หมื่น ๑ พันล้าน (ประชาชาติธุรกิจ)

ถือเสียว่าให้โอกาส กสทช.เขาหน่อย ไหนๆ ก็หวังผลคนเช่าคลื่น ๗๐๐ เมกะเฮิ้ร์ซ เตรียมรับคลื่น ๕จี ซึ่งเห็นว่าตอนนี้มีแสดงความจำนงรายเดียว รายอื่นๆ ล้วนเกี่ยงว่าแพงไป รอรัฐบาลหน้าถ้าตู่ไม่มาคงจะกระปี้กระเป่าบรรยากาศดีกว่านี้

 
สำหรับท่านที่ยังติดใจเรื่องดิจิทัลทีวี ไปหารายละเอียดกันที่ https://www.prachachat.net/ict/news-325975, https://www.prachachat.net/ict/news-325836 และ https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1565021-q5k)

ควรต้องใส่ใจมากกว่าขณะนี้ก็คือกรณีตลาดส่งออกผลิตผลเกษตรอย่างจีน ที่ คสช.คุยนักคุยหนาว่า ฮ้อมันกลายเป็น เฮ้ยทำให้ชาวสวน ระเหี่ยกันเป็นแถว นี่พูดถึงเฉพาะผลิตผลทุเรียน ที่เป็นข่าวน่าสะพรึงว่าคอนเทนเนอร์ไปติดอยู่ที่ด่านชายแดนจีนประมาณ ๓ พันตู้

ทั้งนี้เนื่องจาก “เจ้าหน้าที่ศุลกากรของจีนได้ปรับเปลี่ยนระบบการตรวจสอบสารตกค้างและศัตรูพืช จากเดิมเคยสุ่มตรวจเพียงไม่กี่ตัวอย่างใช้เวลา ๒-๓ วัน ปัจจุบันเน้นตรวจสอบ ๑๐๐% ต้องใช้เวลานานถึง ๗-๘ วัน” เป็นผลให้ทุเรียนสุกและปริแตก คุณภาพตก

ข่าวระบุว่า “รถตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิที่บรรทุกทุเรียนของไทยต้องจอดรอเข้าคิวค้างที่ด่านลางเซิน ประเทศเวียดนาม เพื่อรอผ่านด่านโหย่วอี้กวน มณฑลกว่างซี ประเทศจีน รวมแล้วกว่า ๑,๐๐๐ ตู้ รถติดยาวจากหน้าด่านคิดเป็นระยะทางกว่า ๑๐ กม.”

ผู้ส่งออกบางรายเลี่ยงไปส่งทางเรือก็ล่าช้าเช่นกัน ประการหนึ่งเรือต้องรอให้ได้ตู้คอนเทนเนอร์ครบ ๒๐๐ จึงจะออกจากท่า ไหนจะใช้เวลาเดินทาง ๗-๘ วันกว่าถึงเมืองท่า เช่นฮ่องกง เสิ่นเจิ้น ซินโจ เพื่อต่อทางบกไปยังเซี่ยงไฮ้ กวางโจว หรือเมืองอื่น

ข้อสำคัญศุลกากรจีนที่ท่าเรือใช้มาตรการเดียวกันกับที่ด่านรถ คือตรวจละเอียด หลังจากที่รัฐบาลจีนจัดระเบียบใหม่การนำเข้าสินค้าที่ชายแดน “ให้มีความเป็นสากล มีเจ้าหน้าที่กระทรวงศุลกากรจากส่วนกลาง (ปักกิ่ง) มานั่งให้คำปรึกษาที่ด่านโหย่วอี้กวน มีการเปิดตรวจมากขึ้น”

อย่างไรก็ดีต้องยอมรับฝีมือผู้เชี่ยวชาญฝ่ายไทย ที่ข่าวบอกว่า “มีการเจรจากับศุลกากรจีนส่วนกลางขอผ่อนผันการตรวจนำเข้าผลไม้ช่วงเดือนนี้ ให้ทันการบริโภคทุเรียนช่วงวันหยุดยาวของจีน” แล้ว “แต่ในระยะยาวต้องวางแผนแก้ปัญหาอย่างจริงจัง”


จะจริงจังอย่างไรก็ไม่ทราบละ ว่าปีหน้าปีโน้นต้องเจรจาให้เขาผ่อนผันอีกหรือเปล่า หรือว่าจีนจะยินดีผ่อนผันทุกปี เพราะทุเรียนเป็นผลไม้ยอดนิยมของคนจีน เห็นว่าที่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ขาดตลาด รัฐบาลอาจเป็นห่วงประชาชน ลงแดง อีกก็ได้

แต่มีเอกชนรายหนึ่งเสนอแนะนำไว้บนหน้าเฟชบุ๊ค เนื้อหาเข้าท่าดีรับทราบไว้ไม่เสียหลาย หากถูกต้องเป็นความรู้ ถ้าผิดเพี้ยนก็ถือเสียว่าได้ข้อมูลอีกทาง เขาอ้าง “ผมเคยค้าขายกับพวกนี้มา...จีนมักวางหมากแบบกินสามเข้าฮอร์ส ทำมาแล้วในธุรกิจมะพร้าวน้ำหอมภาคใต้ ชาวสวนก็ฉิบหายมาแล้ว”

ผู้ใช้นาม Suwaphun Utza เขียนเล่าตอนหนึ่งว่า “จีนเสนอให้ล้งผลไม้ทุกโรงในไทยลงทะเบียนมาตรฐานล้งสำหรับคัดบรรจุผลไม้ (GMP - Good Manufacturing Practice) จะได้ผ่านด่านได้ไว ซึ่งเขาก็รู้ว่านั่นคือจุดอ่อนของล้งทุเรียนไทย”

ทุนจีนเข้ามาตั้งล้งรับซื้อทุเรียนเองตามมาตรฐาน จีเอ็มพี ของเขา “เมื่อล้งจีนเป็นท่อระบายสินค้าหลัก หลายคนส่งมาที่ล้งของคนจีนเพราะเป็นช่องทางส่งออกที่ดี ล้งจีนก็จะอ้างนี่นั่นโน่น บอกไปว่าไม่สามารถรับซื้อได้แล้ว เช่นอ้างว่าทางการเข้มงวดกับโรคพืชและการตรวจสารเคมี”

นั่นคือทำให้เกษตรกรรายย่อยที่แห่ปลูกทุเรียนกันมาตั้งแต่ คสช.เอาแจ็ค หม่า มาล่อเมื่อปีที่แล้วนั่นละ บอกว่าจะซื้อทุเรียนคนไทยจำนวนมหาศาล หลังจากมีนายหน้าจีนที่พูดไทยคล่องมาเดินตลาดสี่มุมเมืองและตลาดไทรังสิต เก็บข้อมูลไปแล้วเพียบ

ทุเรียนที่ไม่ได้มาตรฐานจีเอ็มพี “ก็จำใจต้องลดราคาลง จากกิโลกรัมละสองร้อยก็เหลือกิโล ๘๐ หรือต่ำกว่านั้นได้ เกมส์ของตลาดพลิกไปอีกฝั่งแล้ว” ผู้เขียนว่า “ทุเรียนไม่ใช่มาม่า ขายปีนี้ไม่ได้ เก็บขายปีหน้าได้ ยิ่งปล่อยให้สุกยิ่งราคาตก”

ขั้นต่อไป “ล้งจีนทั้งหลายก็จะตั้งบริษัทลูกๆ ไปเก็บทุเรียนราคาถูก ชาวสวนก็ต้องจำใจขาย เก็บไว้นานราคายิ่งตก เค้าเสนอมาก็ต้องขาย ช้อนซื้อถูกไปขายราคาเดิมที่จีน แต่ได้กำไรเป็นสองเท่า” ผู้เขียนร่ายยาวกว่านี้เยอะ ใครใส่ใจตามไปอ่านกันที่ https://www.facebook.com/suwaphun/posts/2281373475277905

ข้อใหญ่ใจความที่เขาว่า นี่คือภาพระยะยาวของตลาดส่งออกทุเรียนไทยไปจีน ที่มีแต่หงอยกับเหงา ในเมื่ออาการเริ่มออกแล้วจากกรณีคอนเทนเนอร์ติดด่านกว่า ๓ พันตู้ ถึงปีหน้าปีโน้นถ้าเฮียตูบเขาเป็นต่อ จะรู้ทันจีนอย่างกรณีนี้ไหม เห็นอ่าน สรรนิพนธ์สีจิ้นเผิงอยู่น่ะ