วันศุกร์, เมษายน 12, 2562

ประยุทธ์ออกคำสั่งมาตรา ๔๔ รัวๆ ให้เจ้าสัวสวาปามทั้งขนส่งมวลชน อสังหาริมทรัพย์ และสื่อสารดิจิทัล อย่างเปรมปรีดิ์


เฮ้ นี่มันเล่นเต้นสลับขาล่อให้พะวง เสร็จแล้วแอบไปข้างหลังนั่งฟัดพุงปลาสบายสิ จากที่ กกต.ฟ้องหมิ่นประมาทคนแชร์เรียกร้องให้ปลด กับกรณีเต้นแร้งเต้นกาหาว่าทูตานุทูตต่างประเทศขัดแข้งรายการหั่นเนื้อเถือหนัง ธนาธร นั่นแค่แย้ปๆ

ที่หนักต้องหมัดฮุกอัดประชาชนจุกละมรึง เมื่อประยุทธ์ออกคำสั่งมาตรา ๔๔ รัวๆ ให้เจ้าสัวสวาปามทั้งขนส่งมวลชน อสังหาริมทรัพย์ และสื่อสารดิจิทัล อย่างเปรมปรีดิ์

กรณี กกต.ฟ้องร้องกล่าวหาประชาชน ทำให้เสื่อมเสียนั้นรู้ไหมเขาอ้างถ้อยความอะไร ไอลอว์ แงะมาให้ดูกันว่ามันหนักหนาไหม กับแค่ “ขอพลังอำนาจประชาชนร่วมกันลงชื่อสนับสนุนแคมเปญ ล่ารายชื่อถอดถอนกรรมการการเลือกตั้งที่ส่อแววทุจริต และมีข้อครหามากที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย”

ส่วนเรื่อง บักดอน โวยวายทูตต่างชาติยกขบวนกันไปจุ้นจ้านที่ สน.ปทุมวัน ตอนธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไปรับฟังข้อกล่าวหาคดีความเก่าตั้งแต่ปี ๕๘ เล่นงานซะ ๓ มาตรา ทั้งยุยงปลุกปั่น ช่วยผู้ต้องหาหนี และชุมนุมเกิน ๕ คน นั้น

ฝ่ายทหารเผือกบ้าง ทั้งรู้ว่าทางการทูตทำอะไรเขาไม่ได้เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่สหประชาชาติสนับสนุน ผบ.ทบ. ก็เลย “ส่งจดหมายถึงทูตทหารในสถานทูตทุกประเทศที่ส่งเจ้าหน้าที่มาสังเกตการณ์คดีธนาธร บอกว่าการสังเกตการณ์นั้นไม่เหมาะสม”

อันนี้ Bow Nuttaa Mahattana @NuttaaBow เก็บ #เรื่องบ้าห้าปีคสช มาเล่า “บอกว่าประเทศเรามีความร่วมมือทางการทหารที่ดีต่อกันนะ และอยากให้เป็นเช่นนั้นต่อไป ขอให้คุณไปคุยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในสถานทูตของคุณให้เข้าใจด้วย”
 
คิดว่าทหารในประเทศประชาธิปไตยเค้าจะไปควบคุมรัฐบาลได้เหมือนคนแถวบ้านหรือคะ” เธอว่า ก็นั่นละ ทหารประเทศกะลานี้มีอำนาจ บาทาใหญ่เสียจนกร่างจัด ไม่พอใจใครก็ไล่ฟัดเขาดื้อๆ ส่วนที่ถูกใจได้ประโยชน์ จะเอาอะไรก็ประเคนให้

ต่อปัญหาการประมูลคลื่นความถี่กิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคม ที่พวกผู้ประกอบการสู้ราคากันไม่ไหว เพราะมีการแข่งขันสูง รวมถึงความพร้อมดำเนินการไปสู่ระบบ 5G เกิดผลกระทบทางรายได้เพื่อนำไปจ่ายค่าธรรมเนียม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กำลังผันตัวจากเผด็จการรัฐประหารไปสู่นักการเมือง ในระบอบเลือกตั้งแบบแบ่งสรรปันส่วน ก็ยังคงใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ ม.๔๔ ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ๒๕๕๗ อยู่อีก ออกคำสั่งที่ ๔/๒๕๖๒

ยืดการชำระใบอนุญาต 900 MHz “ให้สำนักงาน กสทช. พิจารณาแบ่งชำระเงินจากเงินประมูลคลื่นความถี่ทั้งหมดที่ผู้รับใบอนุญาตต้องชำระ ออกเป็นสิบงวด ปีละงวด งวดละเท่า ๆ กัน” โดยหวังเพิ่มเติมว่าจะมีผู้ประกอบการแห่ไปประมูลคลื่น 700 MHz และ 2600 MHz มากขึ้นด้วย
 
นอกจากนั้นยังเปิดช่องทางให้ทีวีดิจิทัลคืนใบอนุญาตได้ภายใน ๓๐ วัน เลยมีคนถาม @arthitv “แบบนี้ไม่เป็นการเอื้อประโยชน์เอกชนเหรอครับ ต่างกับตอนทักษิณขยายสัญญาสัมปทานอย่างไร”

และก็มีคนตอบเช่นกัน @KillerPress “ขำอีพวก #สลิ่ม โดยเฉพาะ TDRI ที่จะเป็นจะตาย เกือบแทบสิ้นชาติ กับบริษัทมือถือของแม้ว เรื่องภาษีสรรพสามิต”

ทางด้านคมนาคม “บิ๊กตู่งัด ม.๔๔ ปลดล็อกสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว สั่งเจรจา BTS ให้เสร็จ พ.ค.นี้” ข่าวพาดหัววานนี้ อ้างว่า “เพื่อให้การดำเนินการคัดเลือกเอกชนเข้ามารับสัมปทานโครงการทั้งโครงข่ายแล้วเสร็จโดยเร็ว”

เพราะถ้าใช้กรรมวิธีประกวดราคาตามขั้นตอนปกติ จะต้องใช้เวลาดำเนินการถึง ๑ ปีเป็นอย่างน้อย กว่าจะเสร็จก็ผ่านเข้าไปในรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง แม้อาจเป็นนายกฯ คนเดียวกัน แต่ตอนนั้นไม่ได้ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จแล้ว ก็เลยรีบ ปิดดีลเสียตั้งแต่ตอนนี้
 
ยังมีอีก ไม่หมดง่ายๆ เรือง ดีลเนี่ย เกี่ยวกับรถไฟเร็วสูงเชื่อม ๓ สนามบิน ดอนเมือง-หนองงูเห่า-อู่ตะเภา ที่ยกให้ซีพีและเพื่อนไปแล้ว แต่เจ้าตัวยังอิดออด เงินไม่พอ กู้ยาก อยากให้กู้เพื่อน (จีน) อะไรเหล่านั้นน่ะ ซีพีอ้อนว่าเป็นเส้นทางที่ต้องพึ่งพารายได้จากผู้โดยสารเป็นหลัก

นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ขณะนี้ไปนั่งกินเงินเดือนของซีพี ออกมาบ่นว่ามีความเสี่ยงสูงเรื่องจำนวนผู้โดยสาร อาจจะทำให้รายได้ไม่เป็นไปตามเป้า อีกทั้ง “เอกชนยังคงต้องลงทุนอีกหลายแสนล้านบาท เป็นภาระหนัก”

อย่ากระนั้นเลย จึงต้องพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามเส้นทางไปด้วยให้เหมือนเส้นทางชินกันเซ็น โตเกียว-โอซาก้าของญี่ปุ่น “ที่ทุกคนอยากจะอยู่เมืองรอบนอก แล้วนั่งรถไฟเข้ามาทำงานในเมือง ซึ่งประเทศไทยควรจะมี” นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่บริษัทเพื่อนซีพีอ้าง

อีกทั้งที่ดินมักกะสันติดย่านพระราม ๙ –อโศก ที่ตั้งสถานี แอร์พอร์ต เรล ลิ้งค์จำนวน ๑๕๐ ไร่ เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับพัฒนาในเชิงพาณิชย์ ซึ่ง กทม.รับปากจะปรับโซนนิ่งให้เป็นพื้นที่ สีแดงรองรับสำหรับเพื่อนซีพีอย่าง กลุ่มทรูฯ และแม็กโนเลีย เข้าไปสวม

ยังมีที่บริเวณสถานีศรีราชาอีก ๒๕ ไร่ที่กลุ่มซีพีเริ่มดำเนินการก่อสร้างคอนโดมีเนี่ยม ร้านค้าปลีก สถานบริการ และโรงแรมแล้ว ส่วนอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ตามเส้นทางตั้งแต่แปดริ้ว (๑ หมื่นไร่) ชลบุรี และระยอง (๓ พันไร่) ที่ซีพีไปกว้านซื้อรอไว้ก่อนแล้ว ก็จะมีการพัฒนาต่อไปเช่นกัน


รวมความว่าสัมปทานรถไฟเร็วสูงเชื่อม ๓ สนามบินนี่ ซีพีอ้างว่ายาก แต่ก็แค่เฉพาะหน้า ระยะยาวแล้วกลุ่มซีพีรอกอบโกยมหาศาล แต่ก็ยังดั๊นบ่นอุบจะเอาทั้งถูกและดีลดีอยู่นั่นแล้ว พ่อค้าหน้าเลือดเพื่อน คสช.ก็อย่างนี้ละ