ฮือฮากันน่าดู ไข่เจียวปู ‘เจ๊ไฝ ประตูผี’ ที่ได้ ๑ ดาว ‘มิเชลิน’ เรทติ้งอาหารลั่นโลกของฝรั่งเศส กำลังจะไปทำให้ลุงตูบกินถึงทำเนียบฯ
อันว่าร้านเจ๊ไฝเจ้าเก่าตรงข้ามโรงจำนำสำราญราษฎร์นี่
มีชื่อเสียงในหมู่นักชิมมานานพอควรก่อนที่ ‘มิเชลินไกด์
แบงค็อก’ จะมาให้ ๑ ดาว ในประเภท ‘สตรีทฟู้ด’ อาหารริมทาง นัยว่าสำนักจัดอันดับร้านอาหารชื่อก้องโลกแห่งนี้ไม่เคยจัดให้ที่ไหนมาก่อน
เจ๊ไฝเป็นรายแรก
อาหารจานเด็ดของเจ๊ไฝ
นอกจากไข่เจียวห่อปูก้อนเบ้อเริ่ม กรอบนอกนุ่มใน ที่ละ ๑ พันบาทแล้ว
ยังมีราดหน้าทะเลเครื่องปรุงสดมาก และก๋วยเตี๋ยวคั่วทะเลที่เจ๊ไฝ หรือสุภิญญา
จันสุตะ มักจะลงมือผัดเองบนเตาถ่านอั้งโล่ไฟลุกโชน
ที่เล่ามาเป็นตุเป็นตะ
ไม่ใช่จะเปลี่ยนสไตล์บล็อกกิ้งมาเป็นนักชิมแบบลุงชูวิทย์หรอกนะ
เพียงจะบอกว่าอาหารของเขาน่าประทับใจควรแก่การยกย่อง ไม่ยิ่งหย่อนกว่าร้านหรูอีกสามแห่งในกรุงเทพฯ
ที่ได้ ๒ ดาวมิเชลิน
แล้วทำไมมิเชลินถึงได้ใส่ใจมาไล่แจกดาวร้านอาหารไทยในแบงค็อกถึงสามสี่แห่งในปีนี้
นี่ต่างหากที่น่าสนใจกว่าการฮือฮา ชิมไปบ่นไป ‘แพงชิหา’
สตรีทฟู้ดอะไรจานละพัน (ก่อนหน้านี้เล็กน้อยยังแค่ ๘๐๐)
ได้ความรู้จาก ‘VoteNoจ้า @iamasiam14’ เอามาแฉ “ของฟรีไม่มีในโลก” เขาว่า “บ.ขายยางมาจัดอันดับร้านอาหารใน กทม.ก็ไม่ได้มาทำให้ฟรีๆ
เช่นกัน ครม.อนุมัติเงินสนับสนุนเมื่อ 14/02/2560 งบ 140 กว่าล้าน บ.
มีเอกสารขออนุมัติมาให้ดูในฐานะเกร็ดความรู้ของผู้เสียภาษีชาวไทย คุ้มหรือไม่
ไม่มีความเห็น”
เอกสารระบุว่ามีการขออนุมัติโครงการ The
Michelin Guide Thailand เป็นระยะ ๕
ปีงบประมาณ ๒๕๖๐-๖๔ “โดยให้ความสำคัญต่อนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์...
กำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาภาพลักษณ์ไปสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม...เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับ
luxury-หรู- เข้าสู่การเป็น Premium Destination
จุดหมายปลายทางชั้นสุดยอด”
เสร็จแล้วก็ทำการอนุมัติงบประมาณ ๔.๑
ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ๑๔๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท ออกมาเมื่อกุมภา ๖๐ มิเชลินก็ว่องไวทันใจ
ถึงปลายปีได้แจกดาวแล้ว ๗ ดวง
ถามว่าคุ้มไหม ไม่ตอบ แต่มีความเห็น :อันว่ามิเชลินไกด์ แบงค็อก (ไทยแลนด์) ในเมื่อมิเชลินมาทำเอง แน่ละย่อมควรชื่นชม
แต่จะให้เทียบเท่ามิเชลินปกติที่ออกมาจากปารีส คงจะไม่ถึงขั้นนั้น
นี่เป็นการขยายข่ายงานและธุรกิจของมิเชลินไกด์
เป็นคู่มือเก๋ไก๋สำหรับผู้ที่ตั้งใจเข้ามาท่องเที่ยวในไทยแล้วมากกว่าที่จะใช้ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ยังไม่ได้มองประเทศไทยเป็นเป้าหมาย
หนึ่งดาวที่ให้เจ๊ไฝ หรือสองดาวที่ให้ร้านเลอแมริเดียน
โรงแรมโอเรียนเต็ล ไม่ได้ทำให้แบงค็อกกลายเป็นจุดหมายพรีเมี่ยมสุดหรู
แม้ว่าไข่เจียวหุ้มปูจะขึ้นราคาไปเป็น ๑ พันก็เถอะ
‘ของฟรีไม่มีในโลก’ มันจึงกลายมาเป็นยันต์ปะหน้า คสช. ไปโดยปริยาย
ยิ่งเมื่อนำไปทาบกับโครงการจัดสร้างศูนย์ธุรกิจครบวงจร ‘ไอคอนสยาม’
ของกลุ่มสยามพิวรรธ์กับซีพี มูลค่ากว่า ๕ หมื่นล้านบาท ที่รัฐบาล
คสช. กระโดดเข้าร่วมทันควันด้วยการจัดสร้างรถไฟฟ้าสายสีทองผ่าน
ก็อีกนั่นแหละ จะไม่ให้ คสช.
รีบเข้าร่วมได้อย่างไร ลองดูรายชื่อผู้ถือหุ้นแล้วจะร้องอ๋อ
ดังที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการทำสกู๊ปบทความไว้ว่า “รถไฟฟ้าไอคอนสยาม
เส้นไม่ใหญ่จริง ทำไม่ได้” (https://mgronline.com/daily/detail/9600000124531)
“รถไฟฟ้าสายสีทองนี้ไม่ใช่ ‘ของฟรี’ ที่ไอคอนสยามสร้างให้อย่างที่ กทม.บอก
เพราะไอคอนสยามขอสิทธิสัมปทานใช้พื้นที่สถานีขบวนรถทั้งหมดของรถไฟฟ้าสายนี้
สำหรับการโฆษณาประชาสัมพันธ์เป็นเวลานาน ๒๐ ปี
ซึ่งมูลค่าการใช้ประโยชน์พื้นที่โฆษณานี้อาจจะเท่ากันหรือมากกว่าค่าก่อสร้างที่ไอคอนสยามออกให้ก็ได้”
Thanapol
Eawsakul สรุปขอเท็จจริง
“โครงการรถไฟฟ้าสายสีทองนี้
ถ้าไม่ใช่เป็นความต้องการของไอคอนสยาม ไม่มีทางได้เกิด เพราะมีระยะทางสั้นๆ ไม่ถึง
๒ กิโลเมตรในพื้นที่ที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ไม่หนาแน่น ศูนย์การค้าขนาดเล็ก วัด
และโรงพยาบาลรัฐ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีระบบขนส่งมวลชน”
แม้นว่า “กทม.และบริษัท กรุงเทพธนาคม
จะบอกกับสาธารณะว่า รถไฟฟ้าสายสีทองนี้จะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดงในอนาคต
สายหัวลำโพง บางบอน มหาชัย และจะมีการขยายรถไฟฟ้าสายสีทองให้ยาวต่อไปอีก ๑ กิโลเมตร
บนถนนสมเด็จเจ้าพระยาไปเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยายเส้นทางบางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ”
ก็ตาม
แต่นั่นก็เป็นอนาคต
ที่อาจยืนยาวถึง ๒๐ ปี พอดิบพอดีกับยุทธศาสตร์ชาติ