‘คนโน้น’
น่ะเพิ่งโผล่ที่ลันดั้น หลังจากกบดานมาสามเดือน (ประเมินเอาเองว่าน่าจะเป็นตัวจริง)
เมื่อมีทั้งแชร์และแฉว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินช้อปปิ้งในมอลที่เวสต์ลอนดอน
จนคนงาน คสช.ต้องวิ่งวุ่นเช็คข่าว แล้วบอกได้อย่างเคยที่ควร ไม่มีคำตอบ ไม่ได้เบาะแส
ทั้งจาก กต.อังกฤษและอินเตอร์โพล
ส่วน ‘คนนี้’
ยังกล้อมแกล้มตอบคำถามเมื่อสามวันที่แล้ว
ไปนครปฐมถ่ายรูปหมู่กับตระกูล ‘สะสมทรัพย์’ ให้ วัฒนา เมืองสุข เอามาสับว่าเดินสายช้อนอดีต ส.ส.รอเลือกตั้ง
เฉพาะที่ฮือฮาเพราะเป็นอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย
รู้กันแล้วจากปากเจ้าของสนามฯ “ไม่ได้พูดการเมืองสักแอะ”
แค่ไปตีกอล์ฟ แต่เพิ่งรู้จากปากของสองในสาม คสช. ที่ปรากฏในรูป
ทั่นหัวหน้าใหญ่ยืนยันไม่มี ‘ดีล’ อันใด จะไปไหนมาไหนได้ทุกจังหวัด
ใครขอถ่ายรูปด้วยไม่เกี่ยงพรรคไหน ไม่ได้เป็นคนเสนอเอง
เขามาขอแล้วจะรังเกียจได้หรือ
แค่บอกเขาว่า “วันข้างหน้าช่วยดูแลประเทศชาติหน่อย...ผมได้แต่ขอร้อง
(เขา) ว่า ช่วยดูแลประชาชนให้ดี...ผมพูดกับทุกคนที่เป็นนักการเมือง
พูดแค่นี้มันผิดตรงไหน”
โอ๊ย ทั่นเล่าว่าพูดยาวกว่านี้เยอะ
ทั้งที่ทั่นก็บอกเองว่าตระกูลสะสมทรัพย์ที่ได้พบนั้น ตอนนี้ “จำไม่ได้ นานมาแล้ว” ใช่
นานมาก ตั้งแต่เมื่อ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ โน่นแน่ะ
สำหรับ คสช.อีกคนในรูป เป็นทั่นรองฯ ฉายา ‘บิ๊กฉัตร’ ดูเหมือนจะยอมรับนะว่าเป็นคนจัดฉากเอง “ตนเห็นว่าพล.อ.ประยุทธ์ ทำงานหนัก
ก็อยากหาโอกาสได้ผ่อนคลายบ้าง เวลาอยู่ในสนามกอล์ฟมีโอกาสพูดคุยภาษาเพื่อน
ทำให้ท่านได้หัวเราะสนุกสนาน”
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ
ย้ำอย่างเดียวกับที่ทุกคนพูดมา “ระหว่างการพบไม่เห็นว่ามีการพูดคุยอะไร
เป็นการพบโดยบังเอิญ” ครั้นนักข่าวถามว่าแล้ว ‘บิ๊กแดง’ พล.อ.อภิรัชต์
คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ตัวเต็ง ผบ.ทบ.คนต่อไปด้วยล่ะ
บังเอิญไหม
ทั่นฉัตร “กล่าวว่า ตนไม่เห็น เพราะพล.อ.อภิรัชต์ ไม่เล่นกอล์ฟ” แต่จะมาติดอยู่ในรูปด้วยอย่างไร ไม่รู้ (โว้ย)
(http://www.thairath.co.th/content/1165340)
ทั่นฉัตร “กล่าวว่า ตนไม่เห็น เพราะพล.อ.อภิรัชต์ ไม่เล่นกอล์ฟ” แต่จะมาติดอยู่ในรูปด้วยอย่างไร ไม่รู้ (โว้ย)
(http://www.thairath.co.th/content/1165340)
เข้าใจตรงกันนะ หัวหน้าใหญ่ใช้ท่ากระบี่ย้อนรอย
“วันนี้เป็นปัญหาของนักการเมือง ไม่ใช่ปัญหาของผม” ไม่รู้ว่าปัญหาเดียวกับที่ Thanapol
Eawsakul แซะไว้ไหมหนอ เรื่องที่รำๆ
จะถูก ‘รีเซ็ท’ เนื่องจากถ้าโดนอย่างนั้น พรรคที่เดือดร้อนสุดจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ เพราะ
“๑.พรรคเพื่อไทย ที่มีฐานคะแนนความนิยมเดิมที่ทิ้งห้างพรรคประชาธิปัตย์” และ “๒.พรรคทหาร ที่จะมาตกปลาในบ่อพรรคประชาธิปัตย์เอง และมี ส.ว. อยู่ในมือ ๒๕๐ คน”
ด้วย
ทั้งสองกรณี
พรรคเพื่อไทยและพรรคทหาร ‘ลอยตัว’ ด้วยกันทั้งคู่ โดยเฉพาะคนที่รอเสลี่ยงจากพรรคทหารมารับ
ในเมื่อจะปีใหม่แล้วอะไรๆ ล้วนแต่ดีขึ้นทั้งนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่งประกาศ “มั่นใจเศรษฐกิจสดใส
ปีหน้าจีดีพีมีโอกาสขยายตัวได้ ๓.๙%”
แม้นว่า “ในประเทศมีความท้าทายจากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง
ทำให้การบริโภคภาคเอกชนยังโตได้แบบค่อยเป็นค่อยไป” และ “ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน
พ.ย. เกินดุล ๕,๓๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากการส่งออกและท่องเที่ยวที่ดี ขณะที่เงินทุนไหลออก ๑,๕๐๐ ล้านดอลลาร์
เป็นผลจากคนไทยไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น”
รวมทั้งตลอดปี ๖๐ นี้ “เงินไทยออกต่างประเทศ
๒.๗๖ แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น ๙.๕๙% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา”
อันล้วนเป็นปัจจัยถ่วงดึงที่ยังปรากฏชัดอยู่ แต่รัฐบาล คสช. ทำไขสือก็ตาม
ทางด้านพรรคเพื่อไทยลอยตัวแค่ไหนไม่แจ้ง รู้แต่ว่าถ้าวัดจากปัจจัย
‘ชินวัตร’ หลังจาก ‘พานทองแท้’ ประกาศไม่ยุ่งการเมือง ตามด้วย ‘ว้อยซ์’ ถอยด้านทีวีดิจิทัล เลิกจ้างพนักงาน ๑๒๗
รายแล้ว
ก็เห็น ‘แม้ว’ ไปผัดอาหารให้หลานตารับประทานกันที่ญี่ปุ่น และจู่ๆ ‘ปูว์’ ก็มาโผล่ในลันดั้นให้พวกสลิ่มต๊กกะใจ