“ประยุทธิปไตย”
รัฐธรรมนูญกำหนดกระบวนการสร้างความชอบธรรมให้กับกฎหมายพรรคการเมือง โดยกำหนดให้ กรธ. เป็นผู้ร่างแล้วนำเข้า สนช. ให้ความเห็นชอบ จากนั้นส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ และ กกต. เป็นผู้ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้วจึงได้นำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยบังคับใช้เป็นกฎหมาย แต่หัวหน้า คสช. คนเดียวกลับแสดงความยิ่งใหญ่ออกคำสั่งที่ 53/2560 แก้ไขกฎหมายที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว
ในวรรคสามของคำสั่งก็อ้างเองว่าบ้านเมืองสงบแล้วแต่ “เพื่อไม่ให้มีผู้ฉวยโอกาสอ้างการดำเนินการตามกฎหมายไปทำกิจกรรมทางการเมืองอื่น ที่อาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและความปกติสุขในบ้านเมือง” จึงเป็นการใช้การคาดเดาออกคำสั่งที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ สร้างความไม่เป็นธรรมกับพรรคการเมือง และทำให้การจัดการเลือกตั้งไม่ทันตามโรดแมปที่ตัวเองประกาศไว้ จึงมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากต้องการเลื่อนการเลือกตั้งเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบ มีการเดินสายพบปะนักการเมืองที่มีแนวทางสนับสนุนตน เอางบประมาณแผ่นดินไปหาเสียงด้วยโครงการประชานิยมสารพัด ในขณะเดียวกันก็กดหัวพรรคการเมืองคู่แข่งไม่ให้ทำกิจกรรม เท่ากับเป็นการเอาเปรียบคู่แข่งอย่างไร้ยางอาย
อันที่จริงอยากอยู่ในอำนาจต่อก็ไม่เห็นต้องทำกันทุกทางด้วยต้นทุนของบ้านเมืองขนาดนี้ ไปที่ไหนเห็นคุยโวว่ามีแต่คนอยากให้เป็นนายกต่อ แล้วทำไมไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบแมนๆ ให้สมชื่อชายชาติทหาร เป็นพลเอกแห่งกองทัพไทยแต่เที่ยวไปสัญญากับประชาคมโลกเอาตัวรอดไปวันๆ จนชาวโลกคิดว่าคนไทยชอบโกหก พี่ใหญ่อ้างแหวนแม่นาฬิกาเพื่อน พี่กลางเซ็นชื่อยกป่าให้กระทิงแดงแล้วอ้างลูกน้องหมกเม็ดชงเรื่องขึ้นมา น้องเล็กไม่ยอมน้อยหน้าออกคำสั่งที่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่อ้างประชาธิปไตยที่มีธรรมาภิบาลเป็นของขวัญปีใหม่แต่ที่จริงคือเพื่ออยู่ในอำนาจต่อ ไปร่ำเรียนมาจากไหนใครสอนมาถึงได้ออกมาเป็นพิมพ์เดียวกันหมด
วัฒนา เมืองสุข
27 ธันวาคม 2560
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/E/317/7.PDF
Watana Muangsook added 6 new photos