อูย...ฟังทั่นรองฯ ผู้กุมบังเหียนเศรษฐกิจปาฐกถาแล้วขนลุกซ่า
“ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นประเทศนี่มันสำคัญ
ต่อให้มีรัฐประหารหรือไม่รัฐประหารนั่นไม่สำคัญ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นประเทศไทยต้องมีศักดิ์ศรี”
ทั่นพูดอย่างนี้เกี่ยวเนื่องท้าวความไปถึง “ตอนพวกผมเข้ามาใหม่ๆ”
เศรษฐกิจไทยย่ำแย่ แค่ ๐.๙ มาคราวนี้สามปีกว่าให้หลัง จีดีพีไตรมาส ๓ ปาเข้าไป
๔.๓ แล้วแน่ะ ส่งออกกำลังจะเหยียบ ๑๓.๐ เชียวละ
ทำมาสามปีอาจจะยังไม่ดีเต็มที่อย่างที่หวัง
แต่ว่าปีหน้า กำลังจะ ‘เทคออฟ’ ร่อนขึ้นเหินฟ้ากันละเพ่ ทั่นสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มั่นใจแน่นอน แถมอ้างด้วยว่าบอกไว้ใน
ครม. ‘ควอเตอร์’ แรก ไตรมาส ๑ ของปีหน้าสำคัญมาก
อย่าให้ได้มีอะไรมา ‘อินเทอรัป’ ขัดขาเชียวนะ
โดยเฉพาะจีดีพีจะไปได้ถึง ๔.๖ แน่ะเธอว์
ทั่นรองฯ ไปยืนเด่นพูดบนโพเดี้ยมรายการ #DINNERTALK ของ ‘ฐานเศรษฐกิจ’ น่ะ ไม่รู้หมายถึงใครที่ว่าอย่าขัดขา
“เรารู้จะเลือกตั้งแน่นอน ไม่ปลายปีหน้าก็ต้นปีโน้น...
นี่เป็นโอกาส
พรรคการเมืองจะมีอยู่อย่างนี้ไม่ได้
พรรคการเมืองที่มีอยู่แล้วต้องใช้เวลานี้พัฒนาตัวเอง คิดสิ่งดีๆ คิดนโยบายดีๆ
รวบรวมคนดีๆ นำเสนอออกมา”
พอจะนึกออกกันแล้วนะว่าทั่นรองฯ หมายถึงใครที่สามารถจ้อกันได้
ไม่เหมือนหมวดเจี๊ยบ ที่แค่พูดเรื่องทั่นหัวหน้า คสช. รักประชาชนนักกิจกรรมไม่เท่ากัน
ม็อบหนึ่งคุยดีแต่อีกม็อบโดนตี เท่านั้นละฟ้องสองข้อหาหนักกันเลย
มิหนำซ้ำเมื่อมีตัวแทนการทูตยุโรป-สหรัฐไปให้กำลังใจ
ร.ท.หญิง สุนิสา (เลิศภควัต) ทิวากรดำรง วันไปรายงานตัว ตำรวจหน่วย ปอท.
การกระทำผิดทางเทคโนโลยี่ กลับทำหนังสือไปคุกคามนักการทูตเหล่านั้นเสียนี่
ทำยังกะนี่เกาหลีเหนือ
อ้อ แล้วทั่นรองฯ ยังอ้างนายกฯ ด้วยละ
ว่าที่ฝ่ายกฎหมายออกแบบให้เกิดพรรคเล็กพรรคน้อยแย่งเค้กกันนั้น มาจากอุดมการณ์ “ยิ่งมากพรรคก็ยิ่งดี
พรรคไหนสร้างความเชื่อถือไม่ได้ก็หมดไป”
ทั่นคงไม่ทันได้สนใจเรื่องพรรคการเมืองนั่งร้านบ่นกันขรม
คสช.ไม่ปลดล็อคเสียทีเตรียมตัวกันไม่ทัน ที่ท้ายสุดวันนี้เห็นว่าทั่นนายกฯ จะใช้
ม.๔๔ ยืดเวลาให้
แต่พวกสุเทือกกับนิติตะวันอยากให้ล้างไพ่โละพรรคใหญ่ๆ
เสียก่อน ที่กำลังชงกันโคล้งเคล้งใน สนช.
นั้นยังไม่รู้จะออกหมู่หรือแค่นักเรียนเตรียมทหาร
เอาเป็นอันว่ารองฯ สมคิดคุยจ้อทีเดียว
เดี๋ยวนี้ยูเอสปลดธงแดงธงเหลืองออกหมด ‘ไอเคโอ’
ICAO ก็ลดระดับการจ้องจับตาจากชนิด ‘พิเศษ’ ลงมาเป็นแบบธรรมดาๆ แถมอียูขอกลับมาคืนดี
ว่าเอฟทีเอจะสามารถลงนามได้ทันทีเมื่อมีการเลือกตั้ง
“เราร้องขอเขาเหรอ เราไม่ได้ร้องขอ
นั่นคือประโยชน์ของเขา ถ้าเขาไม่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเราเขาคือผู้เสียประโยชน์
แต่เราต้องการมิตรสหาย เรายินดีมากกับสิ่งที่เขาตัดสินใจ
เอฟทีเอยังไม่เซ็นไม่เป็นไรผมไม่รีบร้อนเลย”
(https://www.facebook.com/SpringNewsonline/videos/vb.307513345840/10155087032205841/?type=2&theater)
นั่นสิ ถึงได้มีคนคอมเม้นต์ตามคำเชิญบนเว็บของ
‘สปริงนิวส์’ ให้ “ร่วมแสดงความคิดเห็นกันเข้ามา”
ตามนี้พอเป็นกระสาย
วรามร จินา · 59:00 “วันนี้ทีมท่านแก้ปัญหาเศรษฐกิจรากหญ้าไม่ได้เลย ซ้ำร้ายไปกว่าเดิม
ลงมาหาชาวบ้านเถิด ที่จริงท่านต้องแก้ไขที่ระบบนายทุน
ท่านให้นายทุนข้างบนกำหนดชีวิตรากหญ้า คนเลยจนต่อไป ทางท่านบังคับนายทุนได้ประเทศนี้สดใส
แต่ท่านไม่ทำ”
Kosol Maneevan · 0:00 “พวกท่านกำลังหลงละเมอ หลอกตัวเอง
ตราบเท่าทียังปกครองในระบอบที่ชาวโลกเขาไม่ยอมรับ นี่อย่าได้ไปเพ้อฝันว่าอะไรมันจะดีขึ้นเลย
มันคงแค่ฝันที่มากับลมหนาว”
Tassapol Saksilawanna · 59:43 “บ้านเมืองสงบมาสามปีแล้ว กว่าจะเริ่มบำรุงรักษาบ้านเมือง
เงินหมดคลังไปก่อนสามปีนี้แล้ว”
อันนี้ละมังที่ทำให้ประเทศไตแลนเดียยุค
คสช.กำลังของขึ้น มีปรากฏการณ์ใหม่ ‘บอดี้แสลมฟีเวอร์’
วิ่งให้คนบริจาคช่วยโรงพยาบาล จากเบตง ตอนนี้ผ่านเชียงราย
ปลายทางแม่สาย ได้ตัวเลขสวยเกือบ ๙๐๐ ล้านแล้ว
ทว่าหนีไม่พ้นคอมเม้นต์จาก ThaiPublica (December 18
at 8:06pm) “วิกฤติระบบสาธารณสุขไทย กางตัวเลข รพ.รัฐ
ขาดทุน ๕๕๘ แห่ง ๑๒,๗๐๐ ล้าน และที่ฐานะการเงินวิกฤติสุดๆ ๘๗
แห่ง...
โครงการก้าวคนละก้าวจากเบตง
- แม่สาย ๒,๑๙๑ กม.มาพร้อมๆ
กับปรากฏการณ์การขาดทุนต่อเนื่องจนเงินบำรุงโรงพยาบาลของรัฐติดลบ ๕๕๘ แห่ง
เป็นเงินกว่า ๑๒,๗๐๐ ล้านบาท”
ดังนั้น “พี่ตูนต้องวิ่งรอบโลก ๑ รอบถ้าจะหาเงินช่วยรพ.ขาดสภาพคล่อง”
ทีประเด็นอย่างนี้ (ใช้เงินมือเติบ
สามปีกินแต่ของเก่าที่รัฐบาลก่อนทำไว้) ละสิที่ ดร.สมคิด ไม่ยักคุย