สองสามวันก่อน ทั่นรองฯ สมคิด จาตุฯ คุยเรื่องปีหน้าเศรษฐกิจจะ
‘เหินฟ้า’ พูดถึงตอนอียู
ยูเอส บอยคอตไทย “เขาคือผู้เสียประโยชน์ แต่เราต้องการมิตรสหาย”
วานนี้ (๒๑ ธ.ค.) วันเปิดรถไฟไทย-จีนที่ ต.กลางดง
อ.ปากช่อง โคราช ทั่นหัวหน้าใหญ่ คสช. ประกาศ “จีนคือเพื่อนของเรา”
แถมเดาะภาษาปักกิ่ง “ธงซิน
เซี่ยลี่ ซื่อซื่อ ฉุนหลี่” ที่วาสนา นาน่วม ให้คำแปลว่า “น้ำหนึ่งใจเดียว
ทุกเรื่องราบรื่น”
นั่นยังไม่สำคัญเท่าคำกล่าวกับเด็กนักเรียนที่มาต้อนรับ
“ลุงทำให้พวกเรานะ...ขอให้เรียนหนังสือสำเร็จปลอดภัยทุกคนและนำเรื่องราวเหล่านี้ไปบอกกับพ่อแม่ด้วยว่านายกฯ
ทำให้”
ไม่ยักบอกด้วยว่าไอ้ที่ล่าช้ามาถึงคราลุงนี้น่ะ เพราะรัฐบาลก่อนๆ
อืดอาด มัวแต่จะรอให้ถนนลูกรังหมดก่อน ตามที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั่นสั่ง
ดูเหมือน ตลก.คนนั้น (สุพจน์ ไข่มุกด์) ตอนนี้เป็นรองประธานคนที่หนึ่งของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญให้แก่
คสช.อยู่
แล้วยังมีคำพูดที่สำคัญเป็นพิเศษในโอกาสเดียวกันนี้ที่
‘Quai Thu’ บอกเด็กๆ อีกว่า “ต้องรีบโตรีบเรียนให้จบเพื่อหาเงินแล้วขึ้นรถไฟ
อนาคตข้างหน้าก็มาช่วยกันสร้างต่อ”
แน่ะนี่ มิทันไร โยนภาระให้เด็กแล้วไง ก็ไอ้เมกกาโปรเจ็คทั้งหลายของ
คสช. โดยเฉพาะโครงการรถไฟไทย-จีนนี้นั้น
“รัฐบาล คสช.ไม่เคยเปิดเผยตัวเลขจำนวนเงินกู้
อัตราดอกเบี้ย ตลอดจนเงื่อนไขและระยะเวลาที่ชำระหนี้คืนต่อสาธารณชนแต่อย่างใด”
ข่าวอิศราเขาคอมเม้นต์ตามที่นักวิชาการ ‘ทีดีอาร์ไอ’ วิเคราะห์วิจัยไว้
“แม้ว่ารัฐบาลจะบอกว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน
แต่ที่ผ่านมาเขายังไม่ปล่อยข้อมูลอะไรออกมา
เราก็เลยไม่รู้ว่าโครงการคุ้มหรือไม่คุ้ม เพราะอะไร” ดร.สุเมธ องกิตติกุล ผอ.วิจัยการขนส่งและโลจิสติกส์
ทีดีอาร์ไอ แจ้งไว้เมื่อ ๑๘ ธ.ค. นี้เอง
นอกเหนือจากนั้น ดร.สุเมธท่านนี้ยังชี้อีกว่า “สิ่งที่ทำให้รัฐบาลลงทุนโครงการต่างๆได้เร็ว...และเร็วกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาด้วยซ้ำ
เนื่องจากโครงการเหล่านี้มีการเตรียมการมาหลายรัฐบาลแล้ว”
อ่า ถ้าลุงตุ่นจะเอาเครดิตคนเดียวก็ได้แหละ
เพราะเวลานี้จะมีใครกล้าหือ
เพียงแค่ว่าผ่านนี้ไปแล้วลุงจะส่องกระจกดูหน้าตัวเองไหวไหม
หรือจะอยู่ครองเมืองให้ครบยี่สิบปีตามยุทธศาสตร์ชาติตะหาน คงต้องดูกัน
อันค่าใช้จ่ายโครงการรถไฟความเร็วสูงสุดที่
๒๕๐ ก.ม.ต่อชั่วโมง ด้วยเทคโนโลยี่ของจีนล้วนๆ นี้ตก ๑ แสน ๗ หมื่น ๙ พัน ๔ ร้อยล้านบาท
สำหรับตลอดระยะทางกรุงเทพฯ-ราชสีมา ๒๕๒ ก.ม.
แต่ที่ไปวางศิลาฤกษ์กันวานนี้แค่ตัดไม้ข่มนาม ๓.๕ กิโลก่อนเท่านั้น
เนื่องเพราะ “ฝ่ายไทยรับภาระการลงทุนโครงการทั้งหมด
และดำเนินการก่อสร้างงานโยธา ฝ่ายจีนรับผิดชอบการออกแบบรายละเอียดงานโยธา
และควบคุมการก่อสร้างงานโยธา ออกแบบและก่อสร้างระบบรถไฟความเร็วสูง
ระบบอาณัติสัญญาณ และระบบควบคุมการเดินรถ โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จปี ๒๕๖๔ และเปิดให้บริการได้ในปี
๒๕๖๖”
นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการใหญ่กว่าชนิดอภิมหาเลยเชียวละ
คือจะไปเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟเร็วสูงกรุงเทพฯ-หนองคาย
อันจะไปเชื่อมอีกต่อกับรถไฟลาว-จีน เส้นทางเวียงจันทร์-บ่อเต็น
ที่ไปจ่อติดกับรถไฟจีนสายโมฮัน-คุนหมิงอีกที
ส่วนในประเทศไทยยังจะมีสายหนองคาย-มาบตาพุดมาจอยอีกเส้น
รวมเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ของจีนลงใต้ออกสู่ทะเลที่อ่าวไทย เรียกว่า ‘สายไหมยุคใหม่’ หรือ ‘One Belt One Road’ ทำให้ไตแลนเดียเป็นเพื่อนสนิทแนบแน่นกับจีน สมกับที่ตามสถิติล่าสุดพบว่าคนจีนโพ้นทะเลมีอยู่ในประเทศไทยมากที่สุดในโลก
และสำหรับโครงการรถไฟไทย-จีน (ขนาดราง
๑.๔๓๕ เมตร) ที่มีระยะทางทั้งสิ้น ๖๐๘ ก.ม.นี้ “จะเป็นรถไฟที่ให้บริการขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียว
ซึ่งจีนเขาก็บอกว่าคนไทยไม่ได้มากมายอะไร ทำไมไม่ใช้ขนส่งสินค้าด้วย
เราก็บอกว่าถ้าขนสินค้าเราก็ใช้รถไฟทางคู่ได้ เราไม่อยากให้ใช้ปนกัน”
ทั่น รมว.คมนาคม อาคม เติมพิทยาไพสิฐ เพิ่งคุยไว้เมื่อกลางเดือนนี้เองว่า
“การก่อสร้างในเฟสสองช่วงนครราชสีมา-หนองคาย สิ่งที่เราต้องการ คือ
การถ่ายทอดเทคโนโลยี ดังนั้น ในระยะที่สองฝ่ายไทยจะออกแบบก่อสร้างเอง”
ว้าว อย่างนี้อุตสาห-วิศวกรรมไทย น่าจะได้ ‘เหินฟ้า’ (‘take-off’)
ตามอย่างเศรษฐกิจดังที่ทั่นรองฯ สมคิด วาดให้สำหรับปีหน้าด้วยแน่
เพียงแต่ไอ้การที่
“เราจะเป็นตัวนำในการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงช่วงนี้เอง” ดังที่ รมว.
อาคมว่านั้นจะมาจาก “การเรียนรู้จากเขา” ทั้งนั้น (ดูบทความ ‘อิศรา’ ตามลิ้งค์ก่อนหน้า)
คงจำกันได้ว่า
คสช.พยายามเข็นโครงการรถไฟเร็วสูงไทย-จีนนี้ออกมาให้จนได้
หลังจากที่เจอปัญหาจีนหน้าเลือดจะเอาทุกท่า ค่าจ้างแพง ค่าวัสดุและภูมิรู้ หรือ ‘knowhow’ ไม่เบา แถมค่าดอกเบี้ยเงินกู้สูงลิบลิ่ว
จึงมาลงเอยที่ไทยออกเงินเอง
แล้วประเคนให้จีนทุกอย่าง ถึงขั้นใช้ ม.๔๔
ยับยั้งกฎหมายหลายฉบับเกี่ยวกับการควบคุมอาชีพวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมไทย
ทั้งหมดนี้เพื่อที่จะให้คุยได้ว่า ‘ลุงตูบเป็นคนทำ’
นะ
ขณะที่ปากก็คุยนักคุยหนารัฐบาลตะหานทำได้ ไม่แพ้นักการเมืองเลือกตั้ง
แต่ค่าใช้จ่ายที่ควักจากเงินคงคลังสะสมมาตั้งแต่รัฐบาลเลือกตั้งหาไว้ รวมทั้งที่ไปกู้ใคร
ค่าดอกเบี้ยเท่าไร ค่าคอมมิสชั่นแค่ไหน ค่าเก๋าเจี๊ยะให้ใคร ปิดกันเงียบเชียว