วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 08, 2559

ฮุนต้าไทย มิควรที่จะทำให้รัชกาลใหม่หม่นหมองกับการดำเนินคดีต่อบีบีซีไทย ด้วยการใส่ไคล้อย่าง ‘ลำเอียง เล่นพวก และมดเท็จ’





ดูท่าจะเอาแน่ ซัดบีบีซีไทยครบถ้วนกระบวนกฎหมายที่ฝรั่งเรียกว่า draconian ชนิดฟัดให้บรรลัย วินาศสันตะโร โดยใช้ทั้ง ม.๑๑๒ ม.๑๑๖ และ พรบ.คอมพิวเตอร์

นั่นหากตีความคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา literally ตามเนื้อถ้อยสำนวนคำที่ทั่นปล่อยออกมา “ในต่างประเทศเขาอาจจะเห็นว่าไม่ผิด ตรงนี้ตนไม่รู้ แต่ในประเทศไทยถือว่าผิด ยกเว้นไม่ได้...

อย่าไปทำผิดที่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวคนอื่นเขา จนทำให้เกิดความวุ่นวายสับสน มาตรา ๑๑๖ ก็มี ถ้าทำผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ก็ต้องดำเนินคดี ตนไม่ได้ขู่นะ” ข่าวไทยรัฐว่างั้น

(http://www.thairath.co.th/content/804522)

รวมทั้ง catch phrase วลีทีเด็ด “เมื่อทำผิดกฎหมายไทยก็ต้องดำเนินคดี ก็แค่นั้น”

แต่คงไม่แค่นั้นอย่างที่คิด ก่อนอื่นต้องดูที่ฐานความผิด มีการหมิ่นประมาทจริงหรือเปล่า มีข้อความเท็จไหม เป็นการให้ร้ายหรือแค่เสนอข้อมูลจริงที่มีปรากฏอยู่ ถ้าเนื้อหาไม่ใช่เสแสร้งประสงค์ร้าย ก็ไม่เข้าข่าย ๑๑๒ และพ่วง พรบ.คอมพิวเตอร์ด้วยไม่ได้

ส่วนจะยัด ๑๑๖ แทน ก็ต้องคิดดีๆ นี่ไม่ใช่นักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ จะได้ตั้งข้อหา ‘ยุยงปลุกปั่น’ ง่ายๆ มันไม่ง่ายนักแล้ว เพราะผู้ถูกกล่าวหาเขาก็มีมาตรฐานของเขา ข้อสำคัญมันเป็นมาตรฐานสากล

จะไปบอกเขาว่าคุณพูดความจริงไม่ได้ เพราะฉันไม่ชอบ ขืนทำอย่างนั้นจะเป็นการประจานตัวเองว่าป่าเถื่อน ขาดสติปัญญาอารยะ





แค่การประเมินผลของโครงการนานาชาติวัดระดับความสามารถนักเรียน หรือ PISA จากปีที่ผ่านมาพบว่า เด็กนักเรียนไทยล้าหลังกว่าเด็กเวียตนามทุกๆ ด้าน ก็ประจานภาพพจน์แห่งการด้อยปัญญา พออยู่แล้ว

(http://www.bbc.com/thai/thailand-38223294)

หรือเป็นเพราะรายงานข่าวของบีบีซีไทยในเรื่องดังกล่าวด้วย เลยทำให้พวกคนโตๆ ของ คสช. ตั้งแต่ รมว.กลาโหม ผบ.ทบ. ไปถึงหัวหน้าใหญ่ ประสานเสียงกันว่าจะต้องจัดการกับบีบีซีให้ได้

เรื่องมาตรา ๑๑๖ นี่น่าที่จะไปดูบทวิเคราะห์ของ ‘ไอลอว์’ ที่ชี้บ่งไว้สักหน่อยว่า “ข้อหานี้ถูกใช้มากขึ้นเรื่อยๆ ต่อกลุ่มคนที่แสดงความคิดเห็นทางการเมืองในทิศทางตรงข้ามกับรัฐบาลทหาร

จนเข้าลักษณะเป็นการตั้งข้อหาเพื่อหวังผลทางการเมือง และตอกย้ำว่ากฎหมายมาตรานี้เป็นข้อหาที่อยู่คู่กับการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองมาทุกยุคทุกสมัย”

(https://freedom.ilaw.or.th/blog/116NCPO)

พฤติกรรมก้าวร้าว กลั่นแกล้ง และรังควาญ ของเจ้าหน้าที่ทหาร คสช. ต่อนักกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านรัฐประหาร เป็นเครื่องยืนยันความชั่วร้าย

ล่าสุดเมื่อวานนี้เอง เมื่อ ‘ตูน’ ชนกนันท์ รวมทรัพย์ นักกิจกรรมกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ เขียนแจ้งไว้บนหน้าเฟชบุ๊คของเธอ ว่า





“Chanoknan Ruamsap
16 hrs ·
เมื่อกี้แม่โทรมาจากไทยบอกว่าทหารโทรมาหาครอบครัว คุยเรื่องที่เราโพสต์สเตตัสในเฟสบุ๊คเกี่ยวกับสถาบันเมื่อ 3 วันที่แล้ว บอกว่าเราอาจจะถูกกักตัวที่สนามบินตอนเรากลับไทย หรืออาจถูกกักตัวที่ศาลทหารตอนเราไปขึ้นศาลคดีราชภักดิ์วันที่ 23 ธันวานี้ เพราะผิดพรบ.คอมและม.112

ถ้าทหารคนไหนได้อ่านข้อความนี้ ช่วยส่งต่อไปที่หน่วยที่รับผิดชอบด้วย การกดดันครอบครัวเราไม่ได้มีผลให้เราเลิกพูด เลิกเคลื่อนไหวได้เลย เราบอกมาตลอดว่าเรากับครอบครัวมีความเห็นทางการเมืองต่างกันมาก ต่างกันมานานแล้ว แล้วเราอยู่กับความขัดแย้งนั้นมาตลอด ไม่มีทางที่คนนอกจะใช้ความสัมพันธ์ทางครอบครัวมาหยุดการกระทำของเราได้

ทหารกลุ่มนี้ไปเยี่ยมบ้านเราเกือบทุกเดือนมาเป็นปีจนสนิทกับแม่กับพ่อ อย่าหลงดีใจว่าจะส่งข้อความผ่านครอบครัวบอกให้เราทำหรือไม่ทำอะไรได้ เราไม่ต้องการคำอนุญาตจากใครทั้งสิ้น ไปฝึกมาใหม่

อีกอย่างเราเชื่อว่าสิ่งที่เราโพสไม่เป็นความผิด ใครคิดว่าผิดก็ชี้แจงมา

ป.ล. แนบหมายคดีราชภักดิ์ที่เราต้องไปขึ้นศาลวันที่ 23 ธันวานี้ พอดีวันนี้ครบรอบ 1 ปี คดีฉาวของสถาบันทหารไทยพอดี โกงอย่างหน้าด้านๆ บอกเลย หลักฐานความโกงนี้จะอยู่ไปชั่วลูกชั่วหลานอ่ะ

#สุขสันต์วันโกงแห่งชาติ
#โกงอย่างจงรักหักหัวคิวอย่างภักดี

ทางบีบีซีสำนักแม่ในอังกฤษจึงได้เสนอข่าวเรื่องคณะทหารฮุนต้าของไทยมุ่งหมายจะดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ต่อบทความเรื่องพระราชประวัติของพระมหากษัตริย์ไทยองค์ใหม่

“แต่บีบีซีก็ยังไม่ได้รับแจ้ง ว่าได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีหรือยัง”

พร้อมกันนั้นก็ประกาศจุดยืนตอกย้ำไว้ด้วยว่า “บีบีซีไทย ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อการเสนอข่าวที่ไม่ลำเอียง เป็นอิสระ และเสนอแต่ความจริง ในประเทศที่การสื่อสารมวลชนเผชิญกับการปิดกั้น

เรามีความมั่นใจว่าบทความนั้นยึดถือหลักการเกี่ยวกับการบรรณาธิการของบีบีซีไว้อย่างมั่นคง”

(http://www.bbc.com/news/world-asia-38238779)

หากว่ามีการดำเนินคดีในข้อหา ม.๑๑๒ ม.๑๑๖ และ พรบ.คอมฯ โดยควบรวมหรืออย่างใดอย่างหนึ่งละก็ จะเป็นการฝังลึกภาพอัปลักษณ์ของการบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ‘เพื่อเอาเปรียบทางการเมือง’ ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาในประเทศไทย

ฮุนต้าไทย คสช. มิควรที่จะทำให้รัชกาลใหม่หม่นหมองกับการดำเนินคดีต่อบีบีซีไทย ด้วยการใส่ไคล้อย่าง ‘ลำเอียง เล่นพวก และมดเท็จ’ เหมือนดังข้อกล่าวหาของทีนิวส์