...สมมติว่าละกัน..จดหมายเปิดผนึกจากกลิน เดวีส์ ถึง อภิสิทธิ์ !...
ที่มา เวปพันทิป
มร.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่รัก
ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ท่านได้กรุณามีไมตรี ออกมาชี้นำพร่ำสอนถึงข้อควรปฏิบัติในวัฒนธรรมไทยของท่านและวัฒนธรรมตะวันตกของผมที่ถูกต้อง ในฐานะที่ท่านเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ได้รู้วิธีคิดที่ซับซ้อน ลึกลับ และลงลึกของท่าน ต้องขอกราบพระคุณอย่างยิ่ง
มร.อภิสิทธิ์ครับ ก่อนผมจะเข้ามารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ผมได้ติดตามการทำงานของท่านด้วยความสนใจอย่างสำคัญ ได้เรียนรู้ประวัติของท่าน และได้ศึกษาแนวทางและวิธีคิดทางการเมืองของท่านอย่างละเอียด จึงเข้าทราบว่าท่านนั้น ไม่เหมือนนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยคนใดในโลก ท่านมีความโดดเด่นเกินกว่าที่ผมจะบรรยายได้หมด
ท่านสามารถบอยคอตการเลือกตั้งถึง 2 ครั้ง ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี เพราะเห็นว่าหากลงเลือกตั้ง ท่านก็ต้องพ่ายแพ้ จึงทำให้ท่านตัดสินใจเช่นนั้น ซึ่งคนในระบอบประชาธิปไตยในอเมริกาหรืออังกฤษ ไม่สามารถคิดได้อย่างนี้เด็ดขาด ต้องชื่นชมเป็นประการแรก
ประการต่อมา ในขณะที่ท่านเป็นฝ่ายค้าน ท่านตั้งตัวเองเป็น “รัฐบาลเงา” และตั้ง "คณะรัฐมนตรีเงา" ทำให้พวกตะวันตกอย่างผมได้หัวเราะ เพราะไม่อยากเรียกตัวเองว่าฝ่ายค้าน อาจเนื่องมาจากความพ่ายแพ้จนบอบช้ำ จึงรังเกียจคำว่า “ฝ่ายค้าน” ซึ่งคนในระบอบประชาธิปไตยในอเมริกาคิดไม่ถึงจริงๆ
ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่มีการจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมา ท่านกล่าวว่า “เลือกตั้งไม่ใช่ทางออกของประเทศ” หรือ “ประชาธิปไตยไม่ใช่เลือกตั้งอย่างเดียว” ซึ่งเป็นวาทะกรรมแปลกใหม่น่าสนใจ ที่นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยในอเมริกาไม่เคยคิด แปลกใจว่าเหตุใดท่านจึงคิดได้
ท่านออกมาขับไล่รัฐบาล ในขณะที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่ออกไปเล่นการเมืองข้างถนน พาคนมาประท้วงขับไล่รัฐบาลโดยไม่สนใจสภา ท่านสามารถสร้างวาทะกรรม “เผด็จการรัฐสภา”จนประเทศมาถึงทางตันในปัจจุบันนี้ นักการเมืองอเมริกันทำไมคิดไม่ได้
ประวัติย้อนหลังอันโดดเด่นยิ่งของท่าน สมัยนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร บ้านเมืองปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่ท่านกลับ ขอนายกฯ ม.7 และเมือครั้งจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เสียงไม่พอ ท่านกล้าหาญไปขอเสียงจากฝ่ายรัฐบาลเพื่อจะให้เสียงครบ 200 เสียง เป็นสิ่งที่ฝ่ายค้านในอเมริกันคิดไม่ได้จริงๆ
เคยได้ยินว่า พรรคท่าน และพวกท่านอยู่เบื้องหลังคนที่ล้มนายกรัฐมนตรีชื่อสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วยการให้คนไปอยู่ร่วมกับกลุ่มพันธมิตร กล่าวหา โจมตี ประท้วง สุดท้ายก็ยึดทำเนียบ ปิดสนามบิน และท่านได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะถูกแต่งตั้งในค่ายทหาร เป็นสิ่งที่แปลกมากสำหรับคนอเมริกัน
จากประวัติของท่าน อายุเพียงเท่านี้ แต่ท่านสามารถสร้างความหายนะให้กับประเทศและสร้างความเสียหายให้กับระบอบประชาธิปไตยได้อย่างมากมายเกินขนาด จนประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยในโลก ต่างหันมาดูท่าน และรู้สึกแปลกใจในความสามารถอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ที่ไม่เคยปรากฏกับใครมาก่อน
สุดท้าย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โอกาสหน้า หากผมจะขอนำบรรดานักการเมืองชาวอเมริกันก็ดี อังกฤษ เยอรมัน หรือในรัฐสภายุโรปก็ดี เพื่อมาศึกษา ดูงานกับท่านและพรรคประชาธิปัตย์ของท่าน คงจะได้รับเกียรติและความร่วมมืออย่างดียิ่งจากท่าน ถ่ายทอดวิทยายุทธ์และชี้แนะแนวทางปฏิบัติของท่าน เพื่อก้าวถึงจุดสุดยอดแห่งประชาธิปไตยเช่นเดียวกับท่าน โดยมีท่านเป็นวิทยากรบรรยายหลัก จักเป็นพระคุณยิ่ง ซึ่งผมขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้า ณ โอกาสนี้
ด้วยความนับถือและความคาดหวัง(สุดๆเชียวนะ)
กลิน ที. เดวีส์
ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ท่านได้กรุณามีไมตรี ออกมาชี้นำพร่ำสอนถึงข้อควรปฏิบัติในวัฒนธรรมไทยของท่านและวัฒนธรรมตะวันตกของผมที่ถูกต้อง ในฐานะที่ท่านเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองและเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้ได้รู้วิธีคิดที่ซับซ้อน ลึกลับ และลงลึกของท่าน ต้องขอกราบพระคุณอย่างยิ่ง
มร.อภิสิทธิ์ครับ ก่อนผมจะเข้ามารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ผมได้ติดตามการทำงานของท่านด้วยความสนใจอย่างสำคัญ ได้เรียนรู้ประวัติของท่าน และได้ศึกษาแนวทางและวิธีคิดทางการเมืองของท่านอย่างละเอียด จึงเข้าทราบว่าท่านนั้น ไม่เหมือนนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยคนใดในโลก ท่านมีความโดดเด่นเกินกว่าที่ผมจะบรรยายได้หมด
ท่านสามารถบอยคอตการเลือกตั้งถึง 2 ครั้ง ในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี เพราะเห็นว่าหากลงเลือกตั้ง ท่านก็ต้องพ่ายแพ้ จึงทำให้ท่านตัดสินใจเช่นนั้น ซึ่งคนในระบอบประชาธิปไตยในอเมริกาหรืออังกฤษ ไม่สามารถคิดได้อย่างนี้เด็ดขาด ต้องชื่นชมเป็นประการแรก
ประการต่อมา ในขณะที่ท่านเป็นฝ่ายค้าน ท่านตั้งตัวเองเป็น “รัฐบาลเงา” และตั้ง "คณะรัฐมนตรีเงา" ทำให้พวกตะวันตกอย่างผมได้หัวเราะ เพราะไม่อยากเรียกตัวเองว่าฝ่ายค้าน อาจเนื่องมาจากความพ่ายแพ้จนบอบช้ำ จึงรังเกียจคำว่า “ฝ่ายค้าน” ซึ่งคนในระบอบประชาธิปไตยในอเมริกาคิดไม่ถึงจริงๆ
ประเทศไทยปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ในขณะที่มีการจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมา ท่านกล่าวว่า “เลือกตั้งไม่ใช่ทางออกของประเทศ” หรือ “ประชาธิปไตยไม่ใช่เลือกตั้งอย่างเดียว” ซึ่งเป็นวาทะกรรมแปลกใหม่น่าสนใจ ที่นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยในอเมริกาไม่เคยคิด แปลกใจว่าเหตุใดท่านจึงคิดได้
ท่านออกมาขับไล่รัฐบาล ในขณะที่เป็นผู้นำฝ่ายค้าน แต่ออกไปเล่นการเมืองข้างถนน พาคนมาประท้วงขับไล่รัฐบาลโดยไม่สนใจสภา ท่านสามารถสร้างวาทะกรรม “เผด็จการรัฐสภา”จนประเทศมาถึงทางตันในปัจจุบันนี้ นักการเมืองอเมริกันทำไมคิดไม่ได้
ประวัติย้อนหลังอันโดดเด่นยิ่งของท่าน สมัยนายกรัฐมนตรีชื่อทักษิณ ชินวัตร บ้านเมืองปกครองในระบอบประชาธิปไตย แต่ท่านกลับ ขอนายกฯ ม.7 และเมือครั้งจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่เสียงไม่พอ ท่านกล้าหาญไปขอเสียงจากฝ่ายรัฐบาลเพื่อจะให้เสียงครบ 200 เสียง เป็นสิ่งที่ฝ่ายค้านในอเมริกันคิดไม่ได้จริงๆ
เคยได้ยินว่า พรรคท่าน และพวกท่านอยู่เบื้องหลังคนที่ล้มนายกรัฐมนตรีชื่อสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ด้วยการให้คนไปอยู่ร่วมกับกลุ่มพันธมิตร กล่าวหา โจมตี ประท้วง สุดท้ายก็ยึดทำเนียบ ปิดสนามบิน และท่านได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะถูกแต่งตั้งในค่ายทหาร เป็นสิ่งที่แปลกมากสำหรับคนอเมริกัน
จากประวัติของท่าน อายุเพียงเท่านี้ แต่ท่านสามารถสร้างความหายนะให้กับประเทศและสร้างความเสียหายให้กับระบอบประชาธิปไตยได้อย่างมากมายเกินขนาด จนประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยในโลก ต่างหันมาดูท่าน และรู้สึกแปลกใจในความสามารถอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ ที่ไม่เคยปรากฏกับใครมาก่อน
สุดท้าย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โอกาสหน้า หากผมจะขอนำบรรดานักการเมืองชาวอเมริกันก็ดี อังกฤษ เยอรมัน หรือในรัฐสภายุโรปก็ดี เพื่อมาศึกษา ดูงานกับท่านและพรรคประชาธิปัตย์ของท่าน คงจะได้รับเกียรติและความร่วมมืออย่างดียิ่งจากท่าน ถ่ายทอดวิทยายุทธ์และชี้แนะแนวทางปฏิบัติของท่าน เพื่อก้าวถึงจุดสุดยอดแห่งประชาธิปไตยเช่นเดียวกับท่าน โดยมีท่านเป็นวิทยากรบรรยายหลัก จักเป็นพระคุณยิ่ง ซึ่งผมขอกราบขอบพระคุณล่วงหน้า ณ โอกาสนี้
ด้วยความนับถือและความคาดหวัง(สุดๆเชียวนะ)
กลิน ที. เดวีส์