แถลงการณ์ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง ฉบับที่ 2
ในช่วงเดือนเศษที่ผ่านมาได้ปรากฏข้อมูลทางสื่อมวลชนถึงความไม่โปร่งใสในโครงการอุทยานราชภักดิ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แม้ทางกองทัพบกจะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วมีผลสรุปว่าไม่มีการทุจริตใดๆ แต่ก็ไม่อาจลดทอนความเคลือบแคลงในหมู่ประชาชนได้ เนื่องจากเป็นการตรวจสอบกันเองภายในหน่วยงานเดียวกัน ทำให้นักศึกษาและประชาชนกลุ่มต่างๆ รณรงค์ให้รัฐบาลและกองทัพบกตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส แต่ความพยายามดังกล่าวกลับถูกขัดขวางข่มขู่โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ปัจจุบันการข่มขู่คุกคามได้เพิ่มระดับความรุนแรงถึงขั้นเพียงการส่งข้อมูลข่าวสารการตรวจสอบทุจริตหรือเพียงการกดปุ่ม “ไลค์” บนหน้าสื่อออนไลน์ กลับถูกจับกุมคุมขัง ตั้งข้อหาร้ายแรงตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร มีประชาชนสองคน คือ นายฐนกร ศิริไพบูลย์ และนายธเนตร อนันตวงษ์ ได้ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจับกุมและนำตัวไปกักขังในสถานที่ไม่เปิดเผยรวมทั้งไม่อนุญาตให้ญาติและทนายความเข้าพบด้วยความผิดในข้อหาดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองจึงเรียกร้องไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ดังนี้
หนึ่ง ยุติการขัดขวาง ข่มขู่ คุกคาม หน่วงเหนี่ยวนักศึกษาและประชาชนที่ตั้งข้อสงสัยและต้องการให้มีการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ เพราะการเคลื่อนไหวของนักศึกษาและประชาชนเป็นไปตามสิทธิพลเมืองขั้นพื้นฐาน อีกทั้งรัฐบาลเป็นหน่วยงานสาธารณะที่ประชาชนย่อมวิพากษ์วิจารณ์ติชมได้ หากการวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นใด ไม่อยู่บนฐานของข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง รัฐบาลมีหน้าที่ต้องชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องเพื่อหักล้างข้อสังสัย มิใช่การปิดกั้นคุกคามการตั้งคำถามและข้อสังสัยของประชาชน ด้วยการจับกุมดำเนินคดีด้วยข้อหาที่รุนแรง
สอง ยุติการดำเนินคดี “ความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง” ต่อการแบ่งปันข้อมูลการทุจริตในโครงการอุทยานราชภักดิ์และการกดปุ่ม “ไลค์” บนหน้าสื่อออนไลน์ และยุติการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 ในศาลทหารเป็นเครื่องมือในการดำเนินคดีบุคคลที่เรียกร้องให้มีการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์
สาม ยุติการจับกุมโดยพลการและการควบคุมตัวที่ตัดขาดจากโลกภายนอก รวมทั้งยกเลิก “เรือนจำชั่วคราว” ในกองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ต้องคดีที่ถูกคุมขัง ณ ที่แห่งนี้ได้เสียชีวิตโดยไม่มีทราบสาเหตุแจ้งชัด ทั้งนี้ ให้นำวิธีปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาใช้ อนุญาตให้ผู้ต้องหาเข้าถึงทนายและญาติตลอดจนการรักษาพยาบาลที่จำเป็น รวมทั้งเปิดให้ศาลพลเรือนตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายของการควบคุมตัว
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมืองยืนยันว่า “การตรวจสอบทุจริตไม่ใช่อาชญากรรม” และ “ประชาชนที่กระตือรือร้นในการตรวจสอบทุจริตไม่ใช่อาชญากร” ประชาชนไทยมีสิทธิสงสัยและเรียกร้องให้ตรวจสอบโครงการของรัฐ มีสิทธิตั้งคำถามและแบ่งปันข้อมูลความไม่โปร่งใสในโครงการนั้นๆ การข่มขู่คุกคามดำเนินคดีร้ายแรงจะยิ่งก่อให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในโครงการดังกล่าวมากขึ้นไปอีก อีกทั้งมีแต่จะนำมาซึ่งความขัดแย้งในสังคมมากยิ่งขึ้น
ด้วยความเชื่อมั่นในสิทธิ เสรีภาพ และเสมอภาค
เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง
14 ธันวาคม 2558
คุณฟ้ารุ่ง ศรีขาวมีคลิปแถลงการณ์
https://www.facebook.com/300084093490011/videos/527734517391633/?video_source=pages_finch_main_video&theater
16.37 น. 14 ธ.ค.58 ที่คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง หรือเครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง(ชื่อเดิม) แถลงข่าว เรียกร้องให้ยุติการจับกุมคุมขังประชาชนที่ตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์
16.37 น. วันนี้ (14 ธ.ค.58) ที่คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง...
Posted by Fahroong Srikhao ฟ้ารุ่ง ศรีขาว on Monday, December 14, 2015