ครบเจ็ดวันแล้ว ได้อะไรบ้างรึยัง
เป็นคำถามจากทั่วโลกที่สนใจเหตุระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ
รวมทั้งผู้เป็นญาติพี่น้อง หรือผู้เกี่ยวข้องคนที่ตาย ไม่ว่าชาติเชื้ออะไร
คำตอบที่ไม่ได้ออกจากทางการ ประมาณนี้
Sleepless @Leeporter1967 : “ผ่านมา ๗ วัน จับมือโพสเฟสบุ๊คได้ ๒ คน กับนักข่าวที่เอาเสื้อเกราะเข้ามาสวมป้องกันตัวเพื่อรายงานข่าวได้อีก ๑ คน”
นักข่าวชาวฮ่องกงคนนั้นไปนอนห้องกรงหนึ่งวัน ได้ประกันตัวออกมาราคา ๑ แสน แต่พาสปอร์ตยังถูกยึดไว้ รอการส่งฟ้องอีกสองอาทิตย์
แถมโฆษกตำหวดบอกนักข่าวอาวุโสเนชั่นว่า “ยังตอบอะไรไม่ได้หรอก นี่แค่เจ็ดวัน ไม่ใช่เจ็ดปี” เหอๆ
ส่วนสำนวนทางการตำรวจบอก “ผลการระดมปราบปรามอาชญากรรมภายใต้ยุทธการ ‘ปิดเมือง’ ค้นรังโจร...ไม่พบเบาะแสของคนร้ายตามหมายจับหลบซ่อนอยู่...
เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอุปกรณ์การตรวจสอบคัดกรองบุคคลที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ตามจับผู้ก่อเหตุระเบิดเป็นไปด้วยความยากลำบาก ขอย้ำว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่าผู้ก่อเหตุวางระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วหรือไม่”
เหตุที่ช้าเนิ่นนานยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้เป็นเพราะ “อุปกรณ์การสืบสวนที่ตำรวจไทยใช้ขณะนี้ด้อยประสิทธิภาพ ขณะที่อุปกรณ์การสอบสวนที่ทันสมัยก็ไม่ได้จัดซื้อ จึงทำให้เป็นอุปสรรคในการตามจับกุมผู้ก่อเหตุ”
ฉะนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. “เสนอให้รัฐบาลจัดซื้อและนำระบบไบโอเม็ททริค เป็นระบบที่ตรวจสอบทั้งระบบ
ใช้งบประมาณจากค่าธรรมเนียมค่าปรับส่วนหนึ่งของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประมาณพันล้านบาท เพื่อติดตั้งตามด่านตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ”
ได้ยินไหมล่ะ เขาขออีกพันล้าน ‘จะทำให้การสืบ-สอบสวน’ พบกับสภาพคล่อง
(http://www.thairath.co.th/content/520572)
มิใยบางสื่อไทยถามไถ่ เอ๊ะ ก่อการร้ายใหญ่โตปานนี้ ไหงมีแต่น้ำเหลว
ระหว่างที่คณะยึดอำนาจไม่ปล่อยกำลังเพลิดเพลินกับการเปิดตัวทีมงานรุ่นเปลี่ยนปรุง
งบฯ ราชการลับตั้ง ๑,๘๐๐ กว่าล้าน ไฉนทำงานไม่ได้ผล
ในจำนวนนี้ ๑.๔ พันล้านอยู่ในกระเป๋าตะหานตามสัดส่วนของกองทัพ อีก ๖๙๖ ล้าน เป็นของฝ่ายข่าวกรอง
(http://manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx…)
ขณะที่มีสื่ออีกราย ฝรั่งให้เนื้อหาคาดคะเนกลุ่มรับผิดชอบวางระเบิดครั้งนี้คือ ขบวนการ Grey Wolves จากตุรกี
สมาชิกขบวนการนี้ปรากฏให้เห็นเมื่อครั้งมีการบุกโจมตีสถานกงสุลใหญ่ไทย ณ กรุงอิสตันบุล หลังจากที่ไทยส่งตัวผู้ลี้ภัยอัยกูร์ ๑๐๙ คนไปให้จีนเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม
ซูซาน คันนิ่งแฮม แห่งนิตยสารฟ้อร์บรายงานผลการวิเคราะห์ของนายแอนโธนี่ เดวิส ผู้เชี่ยวชาญก่อการร้ายขององค์กร IHS-Jane’s ว่าพวก ‘เกรย์วู้ล์ฟ’ ไม่พอใจที่ไทยส่งผู้ลี้ภัยกลับไปให้จีนข่มเหง
แต่ผู้เชี่ยวชาญคนนี้ไม่คิดว่าพวกอัยกูร์เองที่ส่วนหนึ่งเป็นนักรบอยู่ในขบวนการอัลไคดาร์ จะลงมือกระทำเอง แม้ว่าพวกนี้ก็มีศักยภาพพอที่จะจัดการวางระเบิดแบบที่เอราวัณ หากแต่ความสนใจมุ่งที่การโจมตีไปยังมณฑลซินเจียงภายในประเทศจีนมากกว่า
(http://www.forbes.com/…/thailands-shrine-bombing-the-case-…/)
แต่นั้นไม่ได้ทำให้อาการหวั่นระแวงของพวกเสื้อแดงที่ต้องหวาดผวากันมาตลอดอาทิตย์ หลังจากคนสำคัญในคณะยึดอำนาจอยู่ยาวออกมากล่าวหาไม่เลิกรา
ล่าสุดนักปฏิบัติการข้างถนนตัวเอกเพื่อรัฐประหาร หัวหน้าใหญ่หัวไม้แจ้งวัฒนะที่จำแลงเป็นบุคคลโกนหัวห่มผ้าบังสุกุล ออกมาตอกย้ำป้ายเปื้อนความจงเกลียดจงชังอีกครั้ง
จนเกิดข่าวลอยร่อนไปให้ช่วยกันลือทั่วไซเบอร์เรื่อง “มีนายทหารจากกองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้เดินทางเข้าไปที่สำนักงานตำรวจกองปราบ
ทาง กอ.รมน. ให้ทางตำรวจแถลงข่าวต่อเนื่องว่าการระเบิดเป็นฝีมือของกลุ่มความไม่สงบภายในประเทศ และเดี๋ยวไม่นานนี้ทาง กอ.รมน.จะมีการระเบิดเพื่อสร้างสถานการณ์ โดย กอ.รมน.จะรับดำเนินการให้
จากนั้นทหาร กอ.รมน. ได้สั่งการให้ตำรวจรวบรวมคดีอาวุธสงครามต่างๆ ในช่วงที่ผ่านๆ มาเอาไว้ เพื่อที่หลังจากสร้างสถานการณ์เสร็จแล้ว ทาง กอ.รมน.และตำรวจจะผูกเรื่องราวเตรียมโยนความผิดให้แก่ทาง นปช. (จะได้มาเป็นแพะ)”
จริงแท้แค่ไหนม่ายรุ อันนี้แค่เพจ ‘ต้องได้ ๑๐๐ ล้าน จากทักษิณแน่ๆ’ เขาย้ำว่า
“อย่าให้กูถึงกับต้องบอกเลยว่ามีใครในที่ประชุมบ้าง”