ที่มา FB
iLaw
|
112 The Series: ยุทธศักดิ์ บทสนทนาราคาแพงของคนขับแท๊กซี่
ยุทธศักดิ์ เป็นคนขับรถแท็กซี่ธรรมดาๆคนหนึ่ง รถแท็กซี่ที่เขาขับเช่ามาจากอู่ในย่านห้วยขวาง ยุทธศักดิ์ไม่เคยไปร่วมชุมนุมทางการเมือง ไม่ว่ากับเสื้อสีใด เนื่องจากต้องทำมาหากิน
8 มกราคม 2557 ยุทธศักดิ์รับผู้โดยสารคนหนึ่งจากซอยสุขุมวิท 55 ไปส่งที่ซอยอารีย์ ช่วงนั้น บรรยากาศทางการเมืองในประเทศกำลังคุกรุ่น มีชุมนุมยืดเยื้อเพื่อประท้วงรัฐบาล และเรื่องการเมืองกลายเป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนาระหว่างยุทธศักดิ์กับผู้โดยสาร
ขณะรถแล่นบนถนน แม้เครื่องปรับอากาศจะทำให้อากาศในรถเย็นสบาย แต่บทสนทนาระหว่างยุทธศักดิ์กับผู้โดยสารก็ทำให้บรรยากาศในรถร้อนระอุขึ้นมา เมื่อการถกเถียงในประเด็นการเมืองเริ่มร้อนแรงขึ้น และพาดพึงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ฯ ผู้โดยสารก็ใช้โทรศัพท์บันทึกเสียงบทสนทนาไว้ และเมื่อยุทธศักดิ์ขับรถไปส่งผู้โดยสารถึงที่หมาย เขาก็ขับรถจากไปโดยไม่ได้เอะใจเลยว่า การถกเถียงประเด็นการเมืองระหว่างเขากับผู้โดยสาร จะกลายเป็นหลักฐานที่ใช้ดำเนินคดีเขาในเวลาต่อมา
ซึ่งผู้โดยสารนำคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างเธอกับยุทธศักดิ์ไปมอบให้พนักงานสอบสวนหลังเกิดเหตุ 1 วัน แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่มีการจับกุม
ยุทธศักดิ์ยังคงใช้ชีวิตและทำมาหากินตามปกติ กระทั่งมีรัฐประหารในปลายเดือนพฤษภาคม 2557 และเจ้าหน้าที่เร่งรัดนำตัวผู้ถูกกล่าวโทษในคดี 112 มาเข้ากระบวนการยุติธรรม ยุทธศักดิ์ถูกจับกุมวันที่ 2 มิถุนายน 2557 เขาถูกควบคุมตัวจากบริเวณใกล้ๆอู่แท็กซี่ย่านห้วยขวางไปที่สถานีตำรวจนครบาลพญาไท สถานที่ที่ผู้โดยสารมาร้องทุกข์ไว้
เนื่องด้วยยุทธศักดิ์ป่วยโรคเบาหวาน ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ หลังนอนที่โรงพักได้หนึ่งคืนเขาจำเป็นต้องฉีดอินซูลินอีกครั้ง จึงพยายามประสานขอให้เพื่อนที่ขับแท็กซี่อู่เดียวกันนำมาให้ ยุทธศักดิ์ขออนุญาตร้อยเวรที่เฝ้าห้องควบคุมตัวฉีดยา แต่ไม่ได้รับอนุญาต เพราะเกรงว่า หากยุทธศักดิ์เป็นอะไรไปก็จะต้องรับผิดชอบ ยุทธศักดิ์พยายามอธิบายว่าเขาฉีดยาเองเป็นประจำอยู่แล้ว และหากไม่ได้ฉีดอาการจะกำเริบ แต่ร้อยเวรก็ไม่ยอม พร้อมยืนยันว่าต้องให้แพทย์มาฉีดให้เท่านั้น ซึ่งก็คงเป็นไปได้ยาก
สุดท้ายยุทธศักดิ์จึงขอให้ร้อยเวรติดต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนเพื่อขออนุญาต ซึ่งพนักงานสอบสวนก็เข้าใจและบอกกับร้อยเวรว่าให้ยุทธศักดิ์ฉีดยาได้ ยุทธศักดิ์จึงถูกนำตัวออกมานอกห้องขังชั่วคราวเพื่อให้ฉีดยาได้สะดวก
ในวันเดียวกันนี้ มีคนขับแท็กซี่คนหนึ่ง ซึ่งไม่เคยรู้จักกับยุทธศักดิ์มาก่อน หิ้วขนมและน้ำมาฝากยุทธศักดิ์ โดยบอกว่ามาเยี่ยมในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพ ร้อยเวรผู้รับฝากของอนุญาตให้ยุทธศักดิ์นำขนมและน้ำบรรจุขวดพลาสติกเข้าไป แต่ไม่อนุญาตให้นำเครื่องดื่มบรรจุกระเป๋องเข้าไป โดยอธิบายว่าเป็นระเบียบของโรงพักเพราะกระป๋องน้ำอัดลมอาจใช้เป็นอาวุธได้
ยุทธศักดิ์ถูกควบคุมตัวที่สถานีตำรวจอยู่สองคืน เจ้าหน้าที่ก็นำตัวเขาไปที่ศาลอาญาในวันที่ 4 มิถุนายน เพื่อขออำนาจศาลฝากขัง ทันทีที่มาถึงศาลในช่วงเที่ยงยุทธศักดิ์ก็รีบประสานให้ญาติมายื่นประกันตัว ยุทธศักดิ์รอญาติซึ่งอยู่ไกลถึงฝั่งธนอย่างกระวนกระวายใจ เพราะหากญาติมายื่นเอกสารไม่ทัน เขาก็ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าจนกระทั่งราวบ่ายสามโมง ชายชรากับหญิงวัยกลางคน ซึ่งเป็นญาติห่างๆของยุทธศักดิ์เดินทางมาที่ศาล
ทันทีที่มาถึง ญาติของยุทธศักดิ์ก็รีบลงไปที่ห้องขังใต้ถุนศาล การพูดคุยของยุทธศักดิ์กับญาติเป็นไปอย่างยากลำบาก ระยะห่างจากห้องขังและเขตที่กั้นไว้ให้ญาติยืน ห่างกันราว 2 เมตร ขณะที่โทรศัพท์สายตรงที่ต่อไว้ให้คนด้านในและด้านนอกคุยกันก็ใช้ไม่ได้ ญาติและผู้ถูกควบคุมตัวจึงต้องตะโกนคุยกันท่ามกลางเสียงดังอึงอื้อตลอดเวลา ยุทธศักดิ์กับญาติจึงทำได้แค่ตะโกนทักทายกันสั้นๆ ก่อนที่ญาติจะรีบขึ้นมาที่ศาล เพื่อยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว
ชายชราซึ่งแทนตัวว่า "อาเจ๊ก" เล่าว่า ตอนนี้ยุทธศักดิ์ไม่มีใคร เพราะแยกออกมาอยู่ตัวคนเดียวหลายปีแล้ว อาเจ๊กเองก็ไม่ได้เจอหน้าเขามานานแล้ว แต่ก็เป็นญาติคนเดียวที่ยังติดต่อกันอยู่บ้าง เจ้าหน้าที่ศาลผู้รับคำร้องขอประกันตัวช่วยเหลือญาติของยุทธศักดิ์ ซึ่งไม่รู้เรื่องกฎหมายและไม่เคยขึ้นโรงขึ้นศาลในการเขียนคำร้องเป็นอย่างดีแต่ก็บอกด้วยว่า คงยากที่ศาลจะให้ประกันตัว
... ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น ....
หลังจากนั่งรอคำสั่งศาลได้ประมาณชั่วโมงเศษ เจ้าหน้าที่ศาลก็เรียกญาติของยุทธศักดิ์ไปที่หน้าเคาเตอร์พร้อมแจ้งว่า ศาลยกคำร้องประกันตัว เพราะคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ เป็นคดีร้ายแรง กระทบกระเทือนต่อจิตใจประชาชน และมีโทษสูง หากปล่อยตัวไปเกรงว่าจะมีการหลบหนี
เมื่อญาติบอกยุทธศักดิ์ว่าเขาไม่ได้ประกันตัว ยุทธศักดิ์ก็ตะโกนขอบคุณอาเจ็กและลูกสาวของอาเจ็กที่ช่วยเดินเรื่องประกันให้ พร้อมกับสั่งเสีย ว่าให้ช่วยจัดการเรื่องห้องเช่ารวมทั้งทรัพย์สินในห้องพัก เพราะตนเองคงจะไม่ได้กลับไปอีกนาน
----------------------------------------------------------
ยุทธศักดิ์ถูกศาลพิพากษาในเดือนสิงหาคม 2557 ว่ามีความผิดตามมาตรา 112 และถูกตัดสินจำคุก 5 ปี แต่ศาลลดโทษเหลือ 2 ปี 6 เดือน เพราะยุทธศักดิ์รับสารภาพ ทุกวันนี้คนขับแท็กซี่แปลกหน้าที่ส่งขนมและน้ำให้ยุทธศักดิ์ที่สถานีตำรวจยังเดินทางไปเยี่ยมยุทธศักดิ์ที่เรือนจำอยู่บ่อยๆ
*จนถึงวันนี้ (20 สิงหาคม 2558) ก็เป็นเวลา 1 ปี กับ 2 เดือนแล้ว ที่ยุทธศักดิ์ ต้องสูญสิ้น อิสรภาพ
อ่านคดียุทธศักดิ์ ทั้งหมดได้ที่ -->http://freedom.ilaw.or.th/th/case/575
อ่าน 112 The Series ตอนอื่นๆได้ที่ -->http://freedom.ilaw.or.th/blog/112series