https://www.youtube.com/watch?v=n4aKVWzbjNs
เปลี่ยนโหมด"ความรุนแรง"สู่..สุนทรีย์"มาลายู"
jom voice
Published on Aug 28, 2015
นายสุไลมาน เจ๊ะแม ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมมาลายูปาตานี ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia เพื่อเปิดโลกวัฒนธรรมาลายูปาตานีกับธรรมชาติอันเอกอุดมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ท่ามกลางความหวาดกลัว และวิตกกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัยว่า มาลายูปาตานี เป็นแหล่งวัฒนธรรมทีเป็นเอกลักษณ์เพราะผสมผสานด้วยวัฒนธรรมหลายเชื้อชาติ ศาสนา และเผ่าพันธุ์ ทั้งจากในภูมิภาคเอเชียและยุโรป เพราะอาณาจักรปาตานีเดิมเป็นเมืองท่าที่สำคัญในภูมิภาคนี้เมื่อ 700 ปีที่แล้ว เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้คนในพื้นที่เกิดจิตสำนึกอนุรักษ์ ส่งเสริม และสานต่อวัฒนธรรมมาลายูกันเพิ่มขึ้น แต่คนภายนอกต่างหากที่ไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับความงดงามทั้งธรรมชาติ และวัฒนธรรมของความเป็นมาลายูมุสลิม เรื่องราวนี้..จะเชิญชวนให้คนไทยทั่วประเทศและคนทั่วโลกเดินทางไปสัมผัสความงดงามของวัฒนธรรม และธรรมชาติแห่งความเป็นมาลายูในสามจังหวัดชายแดนใต้อย่างปลอดภัย
ooo
https://www.youtube.com/watch?v=N-MY0xzTt34
Published on Aug 27, 2015
นายสุไลมาน เจ๊ะแม ผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมท้องถิ่นมาลายู ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia ตอนหนึ่ง เกี่ยวกับการพูดคุยสันติสุข ระหว่างรัฐบาลทหารไทย กับ กลุ่ม มาร่าปาตานี ที่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 25 - 28 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า ในฐานะเป็นคนมาลายูปาตานี สิ่งแรกที่รัฐไทยควรทำก่อนคือ การยอมรับการมีอยู่จริงของมาลายูปาตานี และยอมรับว่า คนมาลายูเป็นเจ้าของแผ่นดิน ซึ่งจะทำให้บรรยากาศการพูดคุยดีขึ้น และเห็นด้วยที่กลุ่มมาร่าปาตานี จะเชิญชวนคนในพื้นที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพูดคุย เพราะหากไม่เปิดพื้นที่ให้คนในพื้นที่มีสิทธิ์มีที่นั่งในวงพูดคุยด้วยแล้วจะสำเร็จได้ยาก และเห็นด้วยที่จะให้กำหนด การพูดคุยเพื่อสร้างสันติสุขใต้ให้เป็นวาระแห่งชาติ เพราะเป็นการพิสูจน์ความจริงใจของรัฐไทย และทำให้่เกิดความต่อเนื่องไม่ว่า รัฐบาล หรือการเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร ส่วนการจะขจัดความเคลือบแคลงสงสัยของผู้มีอำนาจในรัฐไทยที่ว่า หากยอมรับการมีอยู่จริงของมาลายูปาตานี จะนำไปสู่การเรียกร้องเป็นเอกราชจากรัฐไทยนั้น รัฐไทยคิดไปเอง ต้องคุยกันให้เข้าใจ เพราะการคุยกันย่อมดีกว่าการยิงกันทุกวัน