วันอังคาร, กรกฎาคม 07, 2558

เสียงสะท้อนจากต่างประเทศกรณี การจับกุมตัว 14 นักศึกษาในนามขบวนการประชาธิปไตยใหม่นั้น เป็นเอกภาพยิ่ง เป็นความพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย ลองพิจารณา...




แนวรบ ตปท. แนวรบ คสช. จากกรณี จับ 14 น.ศ.

ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 02 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เป็นความพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมายคือข่าวการจับกุมตัว 14 นักศึกษาในนามขบวนการประชาธิปไตยใหม่

แม้เสียงสะท้อนในประเทศ-โดยเฉพาะจากสื่อหลัก-จะแยกเป็นสองทาง ทั้งที่สนับสนุนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ กับที่ออกมาคัดค้านและเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษากลุ่มดังกล่าว

แต่เสียงสะท้อนจากต่างประเทศนั้นเป็นเอกภาพยิ่ง

เป็นเอกภาพในทิศทางที่ตรงข้ามกับรัฐบาล และ คสช.

ลองพิจารณา

สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย

สหภาพยุโรปมีความเชื่อในสิทธิของคนทุกคนในการแสดงออกทางความคิดเห็นอย่างสันติ และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทางการไทยปฏิบัติตามข้อผูกพันของประเทศไทยภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง

การเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานนั้น จะต้องได้รับการค้ำชูและศาลทหารไม่ควรถูกนำมาใช้กับพลเรือน

องค์กรฮิวแมนไรต์สวอตช์

เจ้าหน้าที่รัฐควรยกเลิกข้อกล่าวหาและปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14 คน ซึ่งต้านการปกครองของรัฐบาลอย่างสันติ โดยไม่มีเงื่อนไข

การจับกุมครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ทำให้เห็นว่ารัฐบาลทหารไม่ได้เต็มใจจะผ่อนการปกครองที่กดขี่ของตัวเองลงเลย

ประกาศของ คสช. ฉบับที่ 37 ที่ให้อำนาจการตัดสินคดีอยู่ที่ศาลทหารแทนศาลพลเรือน ถือเป็นความล้มเหลวต่อมาตรฐานการตัดสินคดีนานาชาติภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)

ซึ่งกำหนดห้ามไม่ให้รัฐบาลให้พลเรือนขึ้นศาลทหารเมื่อยังมีศาลพลเรือนอยู่

สำนักงานเลขาธิการใหญ่ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

กรุงลอนดอน

ขอเรียกร้องให้ทางการไทยถอนหมายจับและยกเลิกข้อหานักศึกษาทั้งหมดที่ใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ

และเรียกร้องให้ทางการสอบสวนเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ใช้กำลังโดยไม่จำเป็นหรือเกินกว่าเหตุต่อผู้ประท้วงอย่างสงบในเหตุการณ์ดังกล่าว

โดยต้องมีการสอบสวนอย่างทันทีและรอบด้าน และให้ประกันว่าเจ้าพนักงานผู้บังคับใช้กฎหมายซึ่งใช้กำลังอย่างมิชอบด้วยกฎหมายต้องได้รับการลงโทษทางวินัยและหากเหมาะสมให้ดำเนินการเข้าสู่กระบวนการทางอาญาด้วย

ขอเรียกร้องอีกครั้งให้ทางการไทยปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและมาตรฐานระหว่างประเทศ รวมทั้งกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)

ซึ่งประเทศไทยให้สัตยาบันรับรอง

สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (OHCHR)

ขอเรียกร้องรัฐบาลไทยยุติการดำเนินคดีนักศึกษาที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมโดยสงบ และปล่อยตัวพวกเขาจากสถานที่ควบคุมโดยทันที

พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนการใช้กฎหมายที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุม

สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯมีความกังวลว่าการดำเนินคดีอาญาที่มีระวางโทษจำคุกยาวนานต่อการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและการแสดงออก

ถือว่าไม่มีความจำเป็นและไม่ได้สัดส่วน

กลุ่มสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน

ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยุติข้อกล่าวหาทั้งหมดและปล่อยตัวนักศึกษาที่ถูกจับโดยทันที ถึงเวลาแล้วที่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคจะต้องก้าวออกมายืนเคียงข้างผู้ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในประเทศไทย

ประเทศไทยไม่ได้กำลังมุ่งสู่การปรองดอง แต่มุ่งสู่การเผชิญหน้ากับระเบิดอีกลูก ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลทหารจะเปิดทางให้ประชาธิปไตยและการปกป้องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานกลับคืนมา

แม้จะแสดงท่าที "ไม่สนใจ" รวมทั้งยืนยันในความเป็น "เอกลักษณ์" ของการเมืองไทยและกฎหมายไทย ที่ต่างประเทศต่างหากจะต้องเป็นฝ่ายทำความเข้าใจ

แต่ข้อเท็จจริงที่ว่า มาตรฐานไทยแตกต่างกับมาตรฐานโลกส่งผลเสียมากกว่าผลดีทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม

หรือแม้กระทั่งการกีฬา

ก็มีตัวอย่างให้เห็นอยู่