อดีตประธานวุฒิฯเชื่อ"รัฐธรรมนูญใหม่"จะถูกฉีกอีกครั้ง
SUN, 03/01/2015 - 13:01 JOM
https://www.youtube.com/watch?v=GjzJddAXPjI
ที่มา Thai Voice Media
นายนิคม ไวรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณี สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ใช้สมาชิกในครอบครัวเป็นที่ปรึกษา ผู้ช่วย และผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ ส.ว.มาจากการสรรหาและให้อำนาจกับ ส.ว.มากขึ้นว่า แม้ว่าการให้ สมาชิกในครอบครัวเป็นที่ปรึกษา เป็นผู้ช่วยจะไม่มีกฎหมายห้ามไว้ แต่ไม่ควรทำเพราะผิดจริยธรรมของนักปกครอง อีกทั้งในทางปฎิบัติ สนช.ที่มาจากการแต่งตั้งไม่ต้องลงพื้นที่ แต่ ส.ว.ที่มาจากการเลือกตั้ง ต้องมีผู้ช่วยอยู่ในพื้นที่ เพื่อรับรู้ ปัญหาของประชาชน แต่ สนช.ควรจะใช้ข้าราชการที่เกี่ยวข้องช่วยงานจะดีกว่า การให้สมาชิกในครอบครัวมาทำงานให้เท่ากับทำให้ครอบครัว สนช.แต่ละคนมีรายได้เพิ่มขึ้น 8 หมื่นบาท ขณะที่ สนช. หลายคนก็นั่งหลายตำแหน่ง เช่นเป็น สปช. กรรมาธิการ เป็นบอร์ดรัฐวิสาหกิจ และยังได้รับเงินเดือนจากการเป็นข้าราชการอีกด้วย เบี้ยประชุมก็ได้อีก สรุปแล้ว สนช.แต่ละคนมีรายได้อย่างน้อย 3 แสนบาทต่อเดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าละอาย
นายนิคมกล่าวว่า การให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งทางอ้อม และเพิ่มอำนาจให้ด้วย จะทำให้กลาย ส.ว. กลายเป็น พรรคการเมืองที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประเทศไทย และทำให้ประเทศไทยเป็น รัฐข้าราชการ เต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตามเชื่อว่า ร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ คสช.นี้เมื่อมีการบังคับใช้ ก็จะนำไปสู่การถูกฉีกอีกอย่างแน่นอน เพราะเป็นกฎหมายที่สร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทยในทุกระดับ ส่วนใครหรือกลุ่มไหนจะฉีกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ไม่มีใครบอกได้ในเวลานี้ อนาคตจะให้คำตอบเอง
ooo
SAT, 02/28/2015 - 12:08 JOM
https://www.youtube.com/watch?v=MqrH2pkKQiA
ที่มา Thai Voice Media
ดร.บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia กรณีการวิพากษ์วิจารณ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ที่มีการนำ สมาชิกในครอบครัว มาทำหน้าที่ ให้คำปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ และการเป็นผู้ช่วยว่า เข้าทำนองว่าแต่เขาอีเหนาเป็นเอง เพราะ สนช.หลายคนที่เคยคัดค้าน สมาชิกวุฒิสภา ที่มาจากการเลือกตั้งว่าเป็นสภาผัวเมีย แต่สุดท้ายก็ทำเสียเอง แม้สมาชิกในครอบครัวจะมีความสามารถจริง แต่โดยหลักของจริยธรรมแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำและเป็นการขัดกันของหลักผลประโยชน์ทับซ้อน และเห็นว่า การร่างรัฐธรรมนูญให้ สมาชิกวุฒิสภามาจากการลากตั้ง หรือ การสรรหาจากกลุ่มวิชาชีพนั้น ก็เป็นการทำลายหลักการประชาธิปไตย เชื่อแน่ว่า รัฐธรรมนูญใหม่ที่กำลังจะออกมานั้น จะไปไม่รอด และถูกฉีกอีกครั้งอย่างแน่นอน เพราะจะทำให้เกิดปัญหาและความขัดแย้งอย่างรุนแรงขึ้นอีกในอนาคต เท่ากับว่า ทั้ง สนช.และรัฐบาล กำลังนำพาประเทศไปสู่ความหายนะ และความขัดแย้งที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้นในอนาต ทั้งที่ประเทศไทยในขณะนี้ถูกมองจากนานาชาติและประเทศเพื่อนบ้านเองว่า เป็นตัวปัญหาของภูมิภาคอาเซี่ยน ดังนั้น ผู้มีอำนาจหากยังไม่ยอมรับความจริง ก็จะพบกับหายนะแน่นอน
ooo
นายกฯคนนอก-ส.ว.ลากตั้ง สร้าง"ประชาธิปไตยแบบ..เศษเสี้ยว"
FRI, 02/27/2015
https://www.youtube.com/watch?v=BR9JfHt2iPs
ที่มา Thai Voice Media
อาจารย์พนัส ทัศนียานนท์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ Thaivoicemedia.com ถึงการร่างรัฐธรรมนูญ ของ คณะกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ คสช. ว่า เป็นการนำประเทศย้อนหลังไปมากกว่า 40 ปี เพราะยิ่งกว่าเลวร้ายยิ่งกว่า ประชาธิปไตยครึ่งใบ นอกจาก จะเปิดช่องให้ คนนอกมาเป็น นายกรัฐมนตรี ได้เพื่อการควบคุมของอำนาจที่ลากตั้งกันมาแล้ว คนที่เป็น ส.ส.ก็ยังจะต้องมีการตรวจสอบควบคุมจากองค์กรอิสระอีกเป็นจำนวนมาก ทั้งยังถูกควบคุมด้วยสมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ และยังจะต้องถูกควบคุมจาก วุฒิสภา ที่มาจากการลากตั้งด้วย ซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตยมากกว่า ประชาธิปไตยแบบครึ่งใบ แต่เป็นประชาธิปไตยแบบเศษเสี้ยว เท่านั้นเอง และการที่จะให้ สมาชิกวุฒิสภา สามารถออกกฎหมายได้ด้วยนั้น ก็ยิ่งจะทำให้เกิดความซ้ำซ้อน ขัดแย้ง ทะเลาะกันสับสนวุ่นวาย กับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
อาจารย์พนัสกล่าวว่า ถ้าอ่านใจ คสช. เพราะเชื่อมั่นว่าจะเอาอำนาจควบคุมประชาชนได้ เห็นว่าประชาชนไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อต้านคัดค้าน สุดท้ายประชาชนก็อาจจะรู้สึกคุ้นเคยและชินเหมือนกับประเทศพม่า ต้องการให้ย้อนกลับไปเหมือนพม่าเมื่อ 40 ปีที่แล้ว แล้วค่อยเริ่มต้นสร้างประชาธิปไตยกันใหม่ และเชื่อว่า การเลือกตั้ง จากรัฐธรรมนูญใหม่นี้ จะยังจำเป็นต้องมีกฎอัยการศึกอยู่ การเลือกตั้งภายใต้กฎอัยการศึกแน่นอน โดย คสช.จะไม่สนใจกระแสต่อต้านจากนานาชาติและจากคนไทยบางกลุ่มในประเทศ