วันอังคาร, มีนาคม 31, 2558

555 เผด็จการหลงยุค ยังนึกว่า ม 44 แก้ปัญหาได้ทุกอย่างในสมัยนี้ - บิ๊กตู่ จ่อใช้ม.44 แก้ปมซีไอเอโอ หลังญี่ปุ่นยกเลิกการเที่ยวบินเข้าประเทศ




บิ๊กตู่ จ่อใช้ม.44 แก้ปมซีไอเอโอ เตือน ปู คิดให้มากโพสต์เฟซ ปัดเจอแม้วที่สิงคโปร์

ที่มา มติชนออนไลน์
วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

นายกรัฐมนตรีระบุเตรียมใช้ม.44 เร่งแก้ไขมาตรฐานไอซีเอโอ หลังญี่ปุ่นยกเลิกการเพิ่มเที่ยวบินเข้าประเทศ ชี้ทุกฝ่ายต้องร่วมกันยอมรับการผิดพลาด เตือน"ยิ่งลักษณ์" ใคร่ครวญข้อเท็จจริงการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ยันให้เกียรติผู้หญิง เผยไม่พบทักษิณในงานศพลีกวนยิว

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 2/2558 ที่กระทรวงคมนาคม ถึงกรณีที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือ ไอซีเอโอ เตรียมงดการเพิ่มเที่ยวบินของไทยไปยังญี่ปุ่นและเกาหลีว่า ที่ผ่านมาปัญหามาตรฐานของไทยเกิดขึ้นมานานแล้ว เนื่องจากเดิมมีเที่ยวบิน 3 แสนเที่ยวต่อปี ขณะนี้ขึ้นมาเป็น 6 แสนเที่ยวต่อปี แต่บุคลากรที่ทำหน้าที่ดูแลมีเพียง 12 คนเท่านั้น และที่ผ่านมามีการขอปรับปรุงและเพิ่มงบประมาณแต่ไม่ได้รับการเอาใจใส่จากรัฐบาลที่ผ่านมา จึงขอให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลนี้และอธิบดีกรมการบินพลเรือนด้วย ยืนยันจะดูแลปัญหาอย่างเต็มที่และได้พูดคุยกับทางผู้นำของญี่ปุ่น รวมถึงเกาหลีแล้ว ซึ่งทั้งสองประเทศจะรับไว้พิจารณาและจะพยายามดำเนินการให้โดยเร็ว ส่วนกรณีทัวร์ต่างๆที่ได้ซื้อไปแล้วนั้นกำลังพยายามแก้ไขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่

อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีระบุว่าปัจจุบันญี่ปุ่นมีปัญหาการท่องเที่ยวเพราะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นทำให้ต้องจัดระเบียบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อไทยที่กำลังมีปัญหาจึงต้องเร่งจัดการ ซึ่งผลเสียอาจจะทำให้ในช่วงเทศกาลไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นได้น้อยลง และต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศได้น้อยลง

ทั้งนี้ทุกคนจะต้องยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ยอมรับว่าไม่ได้ช่วยดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น และประเทศไทยก็ต้องยอมรับความผิดที่ไม่ดำเนินการให้ได้ตามมาตรฐาน โดยอาจจะต้องหันกลับมาเที่ยวในประเทศให้มากขึ้น หรือคืนตั๋วแทน

พร้อมกันนี้อาจจะใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ออกคำสั่งแต่งตั้งบุคลากรของกรมการบินพลเรือนเพื่อให้ทันการพิจารณาของไอซีเอโอ และให้การบรรจุบุคลากรเกิดความรวดเร็ว ยืนยันไม่ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ไปลุกลามใคร แต่จะใช้อย่างสร้างสรรค์และจะไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้รัฐบาลใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แทนการใช้กฎอัยการศึกและมาตรา 44 นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า ที่ผ่านมาการใช้กฎอัยการศึกมีหลายฝ่ายยังไม่เกรงกลัว และใน10 ปีที่ผ่านมาการบริหารงานของ 2 รัฐบาลได้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการแก้ไขปัญหาความวุ่นวายในประเทศ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ โดยจากนี้ไปหากยกเลิกกฎอัยการศึกนักการเมืองจะต้องรับผิดชอบสิ่งเกิดขึ้นต่อจากนี้ร่วมกับตนด้วย

สำหรับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ในแรงงานประมงนายกรัฐมนตรีระบุว่าจะต้องมีความเข้มงวดในการจดทะเบียนผู้ใช้แรงงานให้มากขึ้นโดยเชื่อว่าในอีก4-5 ปีข้างหน้า จะสามารถดำเนินการให้เป็นรูปธรรมได้ ซึ่งต่อจากนี้ คสช.จะดูทุกท่าเรือจะจับขึ้นทะเบียนให้หมด หากซ้ำจะดำเนินการทันที พร้อมกันนี้ยังได้กล่าวถึงการโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ออกมาโต้กรณีละเลยการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ว่า ตนได้เห็นข้อความดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนก็ให้เกียรติเพราะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้หญิง แต่สิ่งที่กล่าวออกมาขอให้พิจารณาใคร่ครวญว่าจริงหรือไม่ด้วย

นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงการเดินทางไปร่วมพิธีศพนายลีกวนยิว อดีตนายกรัฐมนตรีคนแรกของสิงคโปร์เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา ว่า ไม่ได้มีการพบปะกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด เพราะตนเดินทางไปร่วมพิธีศพไม่ใช่จะพบเจอใครก็ได้ และทีมรักษาความปลอดภัยคงจะไม่ให้เข้าพบ

นอกจากนี้ในการเดินทางไปยังมาเลเซียเพื่อร่วมงานมงคลสมรสของบุตรีของนายกรัฐมนตรีนั้นได้หารือกับนายโจโกวีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซียถึงการประชุมอาเซียนที่อินโดนีเซียว่า เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ไฟป่าและปัญหาอื่นๆด้วย

ทั้งนี้การรวมตัวของกลุ่มพระสงฆ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการปฏิรูปศาสนาในวันพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีระบุว่าจะไม่ชี้นำเพราะเชื่อว่าพระสงฆ์อยู่ในสถานะที่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรควรไม่ควรซึ่งรัฐบาลจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปประสานเพื่อชี้แจงและยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่มีการปฏิรูปดังกล่าว



http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1427708527