https://www.youtube.com/watch?v=XEvrs8xXlbc
ที่มา มติชนออนไลน์
เมื่อเวลา 20.45 น. วันที่ 29 มีนาคม ที่กรมการขนส่งทหารบก ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เดินทางกลับมาจากการเดินทางไปเยือนประเทศสิงคโปร์เพื่อร่วมพิธีศพ นายลี กวน ยิว อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ที่ถึงแก่อสัญกรรม
โดยพล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ตอบคำถาม น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าว สถานีโทรทัศน์สี ช่อง 7 ถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ว่า "เราทำเต็มที่ทุกอย่าง ทำมากกว่ารัฐบาลที่คุณชอบสมัยก่อนด้วย" โดยปัญหามันมาตามลำดับ แต่ตนจะไม่โทษใคร และจะทำให้ดีที่สุด ยกตัวอย่าง วานนี้ตนไปมาเลเซีย ก่อนเครื่องบินลง ตนก็มองสวนยาง สวนปาล์ม ก่อนจะให้ทูตไปถามรายละเอียดข้อมูล ว่าเหตุใดมาเลเซียจึงไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ ซึ่งได้รับคำตอบมาว่า มาเลเซียได้เปลี่ยนวิธีปลูกยางมาเป็นปลูกปาล์มมาเป็น 20 ปีแล้ว เพื่อใช้ประโยชน์ได้มากกว่า และประเทศเรามีการลดได้บ้างหรือไม่ รัฐบาลอะไรก็แล้วแต่เคยทำได้หรือไม่ ก็ต้องอุดหนุนกันไปเรื่อยๆ จนถึงทุกวันนี้ และปล่อยให้มีการปลูกยางในพื้นที่อุทยาน ฉะนั้น ราคายางก็ไม่มีทางดีขึ้นมาได้ เราจึงต้องโซนนิ่ง ตนบอกให้ทำให้ได้ในสมัยตน มีเวลาเท่าไหร่ก็เท่านั้น อยากให้คุณสมจิตรฟังบ้าง ไม่ต้องมาเป็นตัวแทนอะไรกับเรา เราไม่โมโหคุณหรอกวันนี้ เพราะอยากทำใจให้สงบหลังจากไปร่วมพิธีศพนายลีกวนยิวมา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ตนได้ถามทางประเทศอินโดนีเซียว่ามีปัญหาเรื่องยางและเศรษฐกิจหรือไม่ ได้รับคำตอบมาว่ามีเหมือนกันแต่ไม่มาก เพราะการนำเข้าและส่งออกของเขาสมดุลกัน ส่วนเรื่องยาง ได้มีการผลิตเพื่อใช้ในประเทศก่อนส่งต่างประเทศ ตนอยากถามกลับว่าแล้วประเทศไทยทำอะไร ก็ขายวัตถุดิบทั้งสิ้น ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศไม่ถึง ร้อยละ 10 ซึ่งตนกำลังตั้งโรงงานผลิตอยู่ เพื่อลดพื้นที่การปลูกยาง ไปปลูกปาล์มน้ำมัน เพื่อเตรียมทำไบโอดีเซล เพื่อให้ราคายางดีขึ้น ซึ่งตั้งแต่สมัยเราเรียนหนังสือ การส่งออกของเรานั้นมีข้าว ยาง ไม้สัก สมัยนี้ก็ยังต้องเป็นอย่างนั้น เลยต้องปรับเปลี่ยนใหม่โดยเราดูตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ ทำไมคนอย่างนายลีกวนยิว ถึงเป็นวีรบุรุษ ซึ่งไม่ได้แปลว่าตนอยากจะเป็น แต่เอาข้อเรียนรู้ของเขามา ทำไมเขาถึงเป็นตำนาน สมัยที่เขาลำบากยากแค้น ไม่มีความเจริญเท่านี้ ประชาชนเขาถูกห้ามนู่นห้ามนี่ จนถึงวันนี้ 30 ปี 50 ปี วันนี้เขามีอะไรไม่รู้เท่าไหร่ ซึ่งผ่านความลำบากยากเข็ญ แต่พวกเราสบาย ขณะนี้ยังสบายมากกว่านี้อีก ไม่ต้องมีกฎหมาย ไม่ต้องมีอะไรทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่บังคับใช้ไม่ได้ วางแผนอะไรไม่ได้เลย เพราะมีคนมุ่งหวังทางการเมืองส่วนหนึ่งอยากให้ไปคิดดู ถ้าจะมีลูกมีหลานในวันหน้า
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีเปรียบว่าระบบสิงคโปร์เหมาะสมกับสถานการณ์ในประเทศไทย ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดอย่างนั้นว่าต้องใช้ระบบสิงคโปร์ แต่เอาตัวอย่างที่ดีมา อย่ามาถามแบบนี้อีก ตนเคยพูดหลายครั้งแล้ว พอได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบสัมภาษณ์ นายกฯได้เดินทางกลับ โดยก่อนก้าวขึ้นรถได้หันมาพูดว่า "นักข่าวคนไหนที่ถามเรื่องกฎอัยการศึก ผู้หญิง 1 คนผู้ชาย 1 คน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้คสช.ไปดูว่าเขาเดือดร้อนไหมจากกฎอัยการศึก"