พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ภาพจาก Spring News |
‘ใจ-ตั้ง-โรส-โกตี๋-เอนก’
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยเมื่อวันที่ 21 มีนาคม ถึงการติดตามตัวคนที่กระทำความผิดในประเทศไทย โดยเฉพาะการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีด้านความมั่นคง คดีหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ฝ่ายต่างประเทศที่แต่งตั้งขึ้นตามโครงสร้างคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายในคดีที่เกี่ยวข้องกับปัญหาคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ได้ดำเนินการติดตามตรวจสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคงซึ่งมีอยู่จำนวน 31 คน ซึ่งได้มีการออกหมายจับไปแล้ว 30 คน และอยู่ระหว่างการเตรียมออกหมายจับอีก 1 คน โดยมีคนที่หลบหนีไปอาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านและยุโรปประมาณ 7-8 ประเทศ ตอนนี้ได้มีการประสานกับอัยการ ศาลยุติธรรมเพื่อขอความร่วมมือ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดี ซึ่งเมื่อแยกกลุ่มเสร็จแล้วก็จะประสานให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการติดตามต่อไป
ยังติดตาม“เอนก”ใกล้ชิด
พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวถึงการติดตามตัว นายมนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน ผู้บงการก่อเหตุขว้างระเบิดที่ศาลอาญา รัชดาฯ ว่า นายมนูญเป็นหนึ่งในบัญชีรายชื่อในกลุ่มผู้ต้องหาตามหมายจับ 30 คนของหน่วยงานความมั่นคงด้วย ก็จะต้องดำเนินการติดตามต่อไปอย่างใกล้ชิด
เปิดชื่อแก๊งหมิ่นสถาบัน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายชื่อบุคคลที่เข้าข่าย 30 คนที่ถูกหมายจับในคดีหมิ่นสถาบัน มาตรา 112 ที่เคลื่อนไหวและหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ได้แก่
1. ตั้ง อาชีวะ หรือนายเอกภพ เหลือรา ที่ล่าสุดพบว่าได้รับการช่วยเหลือจาก UNHCR เพื่อพำนักอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์
2. “โรส”หรือ น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ ที่หลบหนีในอังกฤษ ล่าสุดมีกระแสข่าวว่า หลบหนีมายังประเทศแถบทวีปอเมริกา
3. “โกตี๋” หรือนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ แกนนำคนเสื้อแดง ที่กระแสข่าวระบุว่า พำนักอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
4. “อั้ม เนโกะ” หรือนายศรัณย์ ฉุยฉาย คาดว่าพำนักอยู่ในประเทศแถบยุโรป
5.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ล่าสุดได้สถาปนาตัวเองเป็นเลขาธิการองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย คาดว่าพำนักอยู่ในประเทศแถบยุโรป
6.นายจักรภพ เพ็ญแข ที่ตั้งตัวเป็น เป็นเลขานุการบริหารองค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย คาดว่าพำนักอยู่ในประเทศแถบยุโรป
7.นายสุนัย จุลพงศธร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย คาดว่าพำนักอยู่ในประเทศแถบยุโรป
8.นายชูพงษ์ ถี่ถ้วน อดีตผู้ดำเนินรายการวิทยุชุมชนคนรักทักษิณ อยู่ระหว่างหลบหนี คาดว่าอยู่ในประเทศแถบยุโรป
9.นายใจลส์ ใจ อึ้งภากรณ์ ผู้หลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไปยังประเทศอังกฤษ
10.นางมนัญชยา เกตุแก้ว หลบหนีไปต่างประเทศกรณีทำเอกสารและแผ่นซีดีเข้าข่ายปลุกระดมหมิ่นสถาบัน
11.นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ อดีตนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิแรงงาน ล่าสุดมีกระแสเคลื่อนไหวอยู่ประเทศแถบสแกนดิเนเวีย
12.นายจุติเทพ (เลอพงษ์) วิไชยคำมาตย์ หรือโจ กอร์ดอน คาดว่าพำนักอยู่ในสหรัฐฯ
13.บุคคลใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า “หน่วยงานลับ แดงใต้ดิน” เป็นการรวมพลคนหมิ่นสถาบัน
14.นายพิษณุ พรหมสร หรือแอนตี้ จัดรายการวิทยุกับนายชูพงษ์ คาดว่าจะหลบหนีอยู่กับนายชูพงษ์
15.นายเนติ วิเชียรแสน
16.นายองอาจ ธนกมลนันท์
17.นายอำนวย แก้วชมภู หรือวู้ดไซด์ นิวยอร์ก ก่อนหน้านี้มีผู้นำคลิปมาอ้างว่าเสียชีวิตแล้ว
18.นายมนูญ ชัยชนะ หรือ “เอนก ซานฟราน” นักธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวในซานฟรานซิสโก แกนนำสำคัญของชาวเสื้อแดงในอเมริกา
19.นายเสน่ห์ ถิ่นแสน หรือ“เพียงดิน” เคยเป็นอาจารย์สอนอยู่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีข่าวว่าหนีใช้หนี้ทุนมหาวิทยาลัยไปอยู่รัฐอินเดียนา สหรัฐฯ
20.นายภิเษก สนิทธางกูร หรือนามแฝง“ครอบครัวมาเฟีย” ที่ถูกผู้ใช้เว็บบอร์ดพันทิปโต๊ะเฉลิมไทย แจ้งจับในมาตรา 112 เมื่อปี 2550 อยู่ระหว่างหลบหนี
22.นายสันติ วงศ์ไพบูลย์
23.นางณหทัย ตัญญะ หรือ พ.ต.อ.หญิง ณหทัย ตัญญะ อดีตอาจารย์โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นต้น
ฝากขัง3ผู้ต้องหาเอี่ยวบึ้ม
วันเดียวกัน เมื่อเวลา 10.20 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพฯ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) ได้นำตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีปาระเบิดใส่ลานจอดรถของศาลอาญา รัชดาฯ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายวสุ เอี่ยมละออ, นายสุรพล เอี่ยมสุวรรณ และ นายสมชัย อภินันท์ถาวร มาขออำนาจศาลทหารฝากขัง หลังครบกำหนดควบคุมตัว 7 วันตามกฎอัยการศึก เพื่อให้ศาลทหารอนุญาตฝากขังผลัดแรก
ตรวจร่างกายยืนยันไม่ได้ซ้อม
ทั้งนี้ ก่อนที่จะนำตัวมาฝากขัง ตำรวจได้นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ตรวจร่างกายกับแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ โดยให้สื่อมวลชนร่วมสังเกตการณ์ เพื่อยืนยันว่าระหว่างอยู่ในความควบคุมของทหารไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด
รับสารภาพ-ทำแผนโอนเงิน
จากการสอบสวนที่ผ่านมา ผู้ต้องหา ทั้ง 3 รายได้ให้การรับสารภาพกับพนักงานสอบสวนแล้ว ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจริง รวมทั้งได้มีการนำตัวผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายวสุและสมชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในจุดที่ผู้ต้องหาใช้เป็นสถานที่ในการโอนเงินแล้ว โดยในวันนี้ พนักงานสอบสวนได้แนบท้ายคำร้องฝากขังคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคงและเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี
สมชัยยันไม่รู้โอนเงินค่าจ้างบึ้ม
อย่างไรก็ตาม นายสมชัย หนึ่งในผู้ต้องหา ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เพียงแต่ลูกชายโทรมาบอกว่าเจ้าของร้านอาหารที่สหรัฐฯ ซึ่งลูกชายทำงานอยู่ด้วยต้องการให้โอนเงินให้คนไทย จึงมาร้องขอให้ช่วยโอนเงินให้ ซึ่งก็ไม่ทราบว่าบุคคลที่รับโอนเป็นใคร
ศาลอนุมัติฝาก-ไม่ให้ประกัน
จากนั้น คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพ ได้ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาอ่านคำร้องที่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวน บช.น.ยื่นขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 คน โดยพนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่า ยังคงต้องสืบพยานเพิ่มเติม โดยคณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอ จึงอนุญาตให้ฝากขังตามที่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขังผลัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 21มีนาคม-1เมษายน จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดย ศาลทหารไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากมีโทษร้ายแรง และเกี่ยวกับความมั่นคง จึงเกรงว่าจะหลบหนี และจะเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน
ยังหลบหนีอีก3ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการออกหมายจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 19 ราย สามารถจับกุมตัวมาดำเนินคดีได้แล้ว 16 ราย ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 รายอยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมตามหมายจับ คือ นายมนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน, นายวีระศักดิ์ โตวงจร หรือใหญ่พัทยา และ นายธนาวุฒิ อภินันท์ถาวร พนักงานที่ทำงานอยู่ในร้านอาหารไทยที่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นร้านของ เอนก ซานฟราน
“แจ๊ค-วัชระ”แถลงจี้แดงคืนปืน
มีรายงานว่า ในวันอาทิตย์ที่ 22 เมษายนนี้ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ จะเปิดแถลงข่าวเรียกร้องให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) คืนอาวุธปืนที่ยึดจากเจ้าหน้าที่ทหารในเหตุการณ์ชุมนุมในเดือนเมษายน 2553 ให้กับทางราชการอีกด้วย