วันศุกร์, สิงหาคม 09, 2567

ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ เหตุผลที่แท้จริงในการยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คือความนิยมทางการเมือง และนโยบายที่กระทบต่อกลุ่มผลประโยชน์เดิมทั้งหมด


Thanapol Eawsakul
·
ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์
เหตุผลที่แท้จริงในการยุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมือง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คือความนิยมทางการเมือง และนโยบายที่กระทบต่อกลุ่มผลประโยชน์เดิมทั้งหมด
.....................
(1)
ในปี 2563 นิดาโพลได้ทำโพลสำรวจความนิยมตัวเลขที่ออกมาน่าสนใจคือ
ในไตรมาส 1 ของปี 2563 ก่อนที่จะยุบพรรคอนาคตใหม่
ความนิยมทางการเมืองของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่สูงสุดคือ 31.42 %
ขณะที่อันดับ 2 ความนิยมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีเพียง 23.74 %
อันดับ 3 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อยู่ที 17.32 %
อย่างที่ทราบคือ 21 กุมภาพันธ์ 2563 มีการยุบพรรคอนาคตใหม่
และตัดสิทธิธนาธรและกรรมการบริหารพรรค 10 ปี
ขณะที่ อดีต สส.อนาคตใหม่ จำนวนหนึ่งไปร่วมก่อตั้งพรรคก้าวไกล อีกส่วนหนึ่งเป็นงูเห่า
เมื่อมีการสำรวจไตรมาส 2 ผลกลับออกมาตรงกันข้าม
ตัวเลข ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ เพิ่มสูงขึ้น 44.06 %
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นอันดับ 2 ความนิยม 25.47 %
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคเพื่อไทย 8.07 %
ส่;นพิธา ลิ้มเจริญรัตร์หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่
มาเป็นอันดับ 6 มีเพียง 3.93 %
ส่วนตัวเลขความนิยมมไตรมาส 3 ปี 2563
ตัวเลข ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ เพิ่มสูงขึ้น 54.13 %
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นอันดับ 2 ความนิยม 18.64 %
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ 10.54 %
ส่วนพิธา ลิ้มเจริญรัตร์หัวหน้าพรรคก้าวไกลคนใหม่มาเป็นอันดับ 4 มีเพียง 5.70 %
โพลชี้ไม่มีใครเหมาะนั่ง "นายกรัฐมนตรี"
https://www.thaipbs.or.th/news/content/296900
(2)
อย่างที่ทราบคะแนนความนิยมของพิธา เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนมาเป็นอันดับ1 ตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2566 และมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะพลาดตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ขณะที่เศรษฐา ทวีสินแม้จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก็มีความนิยมสูงสุดเพียง ร้อยละ 22.35 ในไตรมาสแรกที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
หลังจากนั้นก็ลดลงมาเรื่อย ๆ
ไตรมาส 1/2567 ร้อยละ 17.75
ไตรมาส 2 /2567ร้อยละ 17.75
ในการสำรวจ 3 ครั้งสุดท้าย
ไตรมาส 4 ปี 2566
อันดับ 1 ร้อยละ 39.4 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล)
อันดับ 2 ร้อยละ 22.35 ระบุว่าเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย)
อันดับ 3 ร้อยละ18.6 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 4 ร้อยละ 5.75 ระบุว่าเป็น นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย)
อันดับ 5 ร้อยละ 2.40 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ)
ไตรมาส 1 ปี 2567
อันดับ 1 ร้อยละ 42.75 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล)
อันดับ 2 ร้อยละ20.05 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 3 ร้อยละ 17.75 นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย)
อันดับ 4 ร้อยละ 6.00 นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย)
อันดับ 5 ร้อยละ 3.55 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ)
ไตรมาส 2 ปี 2567
อันดับ 1 ร้อยละ 45.50 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล)
อันดับ 2 ร้อยละ 20.55 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้
อันดับ 3 ร้อยละ 12.85 นายเศรษฐา ทวีสิน (พรรคเพื่อไทย)
อันดับ 5 ร้อยละ 6.85 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ)
อันดับ 4 ร้อยละ 4.85 นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย)
แต่ความนิยมอย่างเดียวไม่พอเหตุที่ พรรคอนาคตใหม่ ธนาธร พรรคก้าวไกล พิธิ โดยยุบและตัดสิทธิททางการเมือง เอาเข้าจริงไม่ใช่เรื่องการเสนอ 112 อะไรหรอกแต่คือการไปเหยียบตาต่อกลุ่มผลประโยชน์เดิม นั่นเอง
การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 2-2567
https://nidapoll.nida.ac.th/survey_detail?survey_id=705
ลำพังความนิยมทางการเมืองอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะโดนยุบ
แต่ต้องดูนโยบายและความเป็นได้ด้วย
ต่อให้ได้ความนิยมสูง แต่นโยบายไม่เป็นอันตรายต่อกลุ่มผลประโยชน์เดิ่มก็ไม่ถูกยุบ
หรือมีนโยบายที่ก้าวหน้าอย่างไร ถ้าได้เพียง 10-20 เสียงก็ปลอดภัย
แต่ถ้า ทั้ 2อย่างมาพร้อมกัน
ก็จะมีชะตากรรมเดียวกันทั้งอนาคตใหม่ และก้าวไกล
ใครเป็นใคร
https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/pfbid02XNdq4JhiueepNPNGczt7f3Pic3FecnDAwSsum2xLguM8CRkmKKyqrH5e11pMn3iYl

(https://www.facebook.com/thanapol.eawsakul/posts/pfbid0pQmc9GSiEDCvkUoUxZMmqKTA2Co8Bir8G2GLgmk64iiB6n7xBNF91ZVCBacTEQTJl)