อนึ่ง ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกลผู้แถลง กล่าวในตอนท้ายๆ ประเด็นหนึ่งว่า ในครั้งก่อน ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการหาเสียงแก้ไข ป.อาญา ม.๑๑๒ ของก้าวไกลเป็นการล้มล้างการปกครองฯ และให้ยุติการกระทำดังกล่าวนั้น
“ตอนตรวจพยานหลักฐานพรรคก้าวไกลได้เห็นแล้ว ว่ามีเอกสารพยานหลักฐานที่เป็นเท็จ แต่ไม่ได้ออกมาโต้แย้งต่อสาธารณะแบบนี้ เพราะรอให้ศาล รธน.เปิดการไต่สวน แต่ปรากฏว่าศาลฯ ไม่ได้เปิดให้โต้แย้ง รวบรัดตัดสินไปเลย”
ครั้งนี้นอกจากจะเรียกร้องให้เปิดการไต่สวนตามหลักเกณฑ์อันควรแล้ว ยังระบุด้วยว่าเอกสารพยานหลักฐานที่ศาลฯ ใช้พิพากษาคดีครั้งก่อน (ต่อไปจะเรียกว่าคดี ๓/๖๗) นอกจากไม่เปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกลโต้แย้งแล้ว
“พยานหลักฐานเหล่านั้นมาจากหน่วยงานความมั่นคง (เช่น สตช.และสภาความมั่นคง) ที่เป็นเท็จ” จึงเรียกร้องให้มีการไต่สวนพยานบุคคล ตำรวจและเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคง ผู้รวบรวมเอกสารมอบให้แก่ศาล รธน.ใช้เป็นพยานหลักฐานด้วย
ในรายละเอียดเหล่านั้น ทำให้เห็นว่า กกต.ชุดนี้ทำงานในเรื่องนี้รวดเร็วมาก (ประมาณกามนิตแก่) โดยเฉพาะภายในวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๗ วันเดียวตั้งแต่เช้ายันเที่ยง ทำเรื่องตั้งแต่หาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ยังคาราคาซังอยู่ไปจนบ่าย
ลงท้ายไปรวบรัดในตอนเย็น ทำคำร้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกลได้เลย กรณีไม่มีการถามไถ่ผู้ถูกร้อง (ตามระเบียบของ กกต.เอง) ก็อย่างหนึ่ง
แต่การกระโจนจากที่มีรายงานกรรมการ กกต.ชุดหนึ่งเข้ามา เสนอให้ยืดเวลาการแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มอีก ๓๐ วัน ไปสู่การรับรายงานกรรมการอีกชุด ที่ศึกษาคำวินิจฉัยศาล รธน. ๓/๖๗ แล้วบอกว่าฟันได้ แต่ยังไม่ได้ส่งให้กรรมการชุดที่หาข้อเท็จจริงค้างอยู่
ก็มีการสรุปคำร้องใหม่ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเลย แล้วเอาข้อเท็จจริงที่สร้างทีหลังไปลบล้างกระบวนการเดิม ว่าได้มีการยื่นศาลฯ ตาม ม.๙๒ แล้ว ทุกอย่างยุติหมด ลงมติ ทำหนังสือ สั่งการ กรรมการขานรับ เสร็จสมอารมณ์หมายในเย็นวันนั้นเลย
เพื่อไม่ให้เยิ่นเย้อ ณ ที่นี้ เราจับภาพรายละเอียดบนสไลด์เป็นไทม์ไลน์ของการแถลงมาให้อ่านเพื่อลงลึก จะได้ไม่ต้องฟังยาวรวดเดียวกว่าชั่วโมงไว้แล้ว ส่วนคลิปเต็มก็ดูได้ที่นี่ >>>
https://www.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/videos/=djo4xzIISbsi2Jri
