วันอาทิตย์, กรกฎาคม 14, 2567

ความเปลี่ยนแปลงของสุรพล สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ติดตาม ก็คงเซอร์ไพรส์ สุรพลกลายเป็นพยานก้าวไกล สำหรับ(พวก)แบกเพื่อไทย ก็นั่นไง พวกเกลียดทักษิณ ก็คงใช่แหละ แต่ 9 ปีประยุทธ์ รัฐธรรมนูญ 60 การใช้กฎหมายวิปริต (เกินกว่าที่สุรพลคิด 😂) ทำให้พวกที่เคยเชียร์รัฐประหาร 49 เชียร์พันธมิตรนกหวีด จำนวนหนึ่งเห็นว่าไม่ไหวแล้ว


Atukkit Sawangsuk
4 hours ago
·
ความเปลี่ยนแปลงของสุรพล
พวกแบกไม่ยักเอาไปแซวเนอะ แซวให้ก็ได้
:
สุรพล นิติไกรพจน์ เมื่อครั้งเป็นอธิการบดีธรรมศาสตร์ ปี 2549 หลัง “เลือกตั้งพรรคเดียว“ ก็เรียกร้องให้ทักษิณลาออกแล้วขอนายกพระราชทาน
(โดยสุรพลยืนกรานไม่ใช่ ม.7)
หลังจากนั้นเมื่อเกิดรัฐประหาร 49 สุรพลก็เข้าไปเป็น สนช. โดยอ้างคำคมกำลังภายใน
“หากเราไม่ลงนรก แล้วผู้ใดจะลงนรก“
:
ประชาไทเคยลงบทความ “แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า” เมื่อตอนปีใหม่ 2550 ในฐานะ Visible Man 2006
https://prachatai.com/journal/2007/01/11128
ทั้งนี้ ถ้า search สุรพลในประชาไท จะบันทึกความแสบในช่วง 49-57 ไว้ครบ
:
สุรพลยืนหยัดอย่างนั้นจนกระทั่งรัฐประหาร 57
“การเมืองก่อนรัฐประหารก็เผด็จการไม่ต่างกัน”
แต่ 8 ปีผ่านไป สุรพลปาฐกถา เมื่อเดือนพฤษภา 65
“8 ปีหลังรัฐประหาร กม.หลายมาตรฐาน-ทุจริตมากกว่ายุคนักการเมือง”
https://www.isranews.org/.../isranews.../108645-new-2.html
:
ตอนนั้นสุรพลเป็นประธานกรรมการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ผ่านยุคโควิด
บวกกับน่าจะเป็นช่วงม็อบคนรุ่นใหม่
(ที่จริง สุรพลแสดงออกมาแล้วในช่วงปาฐกถาอายุครบ 60 ปี เมื่อปี 63 แต่ตอนนั้นยังไม่ชัดมาก)
:
สำหรับคนที่ไม่ค่อยได้ติดตาม ก็คงเซอร์ไพรส์ สุรพลกลายเป็นพยานก้าวไกล
สำหรับแบกเพื่อไทย ก็นั่นไง พวกเกลียดทักษิณ
ก็คงใช่แหละ แต่ 9 ปีประยุทธ์ รัฐธรรมนูญ 60 การใช้กฎหมายวิปริต (เกินกว่าที่สุรพลคิด ) ทำให้พวกที่เคยเชียร์รัฐประหาร 49 เชียร์พันธมิตรนกหวีด จำนวนหนึ่งเห็นว่าไม่ไหวแล้ว
:
แน่ละครับว่า คนเคยเชียร์รัฐประหาร พันธมิตรนกหวีด บางคนก็กลับข้างโดยไม่ได้ขอโทษรับผิด
(เถียงกันก็อาจยืนกรานว่าถูก) แต่นี่แหละความเป็นแนวร่วม โดยไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกัน แค่ไม่เป็นสมคิด เจษฎ์ คมสัน ก็พอ
แต่ในอีกด้าน ก็ไม่ใช่ว่าเราจะเชื่อถืออดีตนักวิชาการสายพันธมิตรได้หมด วิธีคิดแบบเดิมๆ ที่เป็นหญ้าพิษอาจยังติดอยู่ ต้องว่ากันเป็นประเด็นๆ
:
ผมเคยไปงานเลี้ยงก้าวไกล กับวงวิชาการ
มีเรื่องขำๆ คือมีอดีตนักวิชาการสายพันธมิตรที่เปลี่ยนมาเชียร์ก้าวไกลไปร่วมงานด้วย (ไม่ใช่สุรพล)
ปรากฏว่าเขานั่งในวงตัวเอง 3-4 คน
พวกนักวิชาการประชาธิปไตยที่เคยถูกเรียกนักวิชาการแดง เฮๆ กัน 20-30 คน ไม่ค่อยมีใครไปคุยกับ 3-4 คนนั้น แค่ทักทายตามมารยาท มีแต่พวกแกนนำพรรคที่ไปนั่งคุยด้วย เพราะพรรคการเมืองเขาต้องเปิดรับความหลากหลาย
:
คำให้การสุรพล น่าจะมีผลทางการเมือง
ว่ามีคนเปลี่ยนมาหนุนก้าวไกลเยอะ
เพราะความที่ระบอบอำนาจวิปริต สูญศรัทธา
แต่ระบอบอำนาจวิปริตจะฟังไหมไม่รู้
:
ปล. ผมไปสัมภาษณ์สุรพลปี 47 แล้วสุรพลนี่แหละแนะนำให้ไปสัมภาษณ์วรเจตน์ ที่ตอนนั้นยังไม่เป็นที่รู้จัก

https://www.facebook.com/baitongpost/posts/pfbid0tmaQYSuYrcBLi5Enrg8Qp7BXWeKY5HkX3EV5oqGSAmnLZUUNMyJUxB9hKzzbiKTtl?ref=embed_post