ข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกลคดียุบพรรคที่สำคัญอันหนึ่ง ประเด็น กกต.ฟ้องมั่วสุกเอาเผากิน ไม่ปฏิบัติตามระเบียบ กกต.เอง ที่แก้ไขไว้เมื่อเดือนกุมภา ๖๖ ที่ยื่นเรื่องส่งศาลรัฐธรรมนูญไปเลยโดยไม่มีการรับฟังคำชี้แจงของผู้ถูกร้องก่อน นั้น
ประธาน กกต.แก้ต่างแบบเอาสีข้างถูแล้วนะ ทั้งที่ยอมรับว่า ระเบียบดังกล่าวมีอยู่จริง แต่ กกต.ใช้คนละข้อกัน อิทธิพร บุญประคอง บอกว่า กกต.ใช้ ระเบียบว่าด้วยการตรวจสอบข้อเท็จจริง ข้อ ๖ วรรค ๓ “ไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ผู้ถูกร้อง” ทราบ
ประธานฯ อิทธิพรว่า กกต.ไม่ได้ดำเนินตามระเบียบสืบสวนไต่สวน เช่นที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อ้างในการแถลงของเขาเมื่อเช้าวันที่ ๙ มิถุนา พิธาพูดถึงกฏระเบียบข้อ ๗ เกี่ยวกับการใช้มาตรา ๙๒ ฟ้องยุบพรรค ที่ กกต.มิได้พ่วงมาตรา ๙๓ ไปด้วย
พิธาบอกว่ามาตรา ๙๓ จำเป็น คือกระบวนการเสนอข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน ที่นายทะเบียนต้องทำ โดยยึดถือระเบียบ “การแจ้งให้ผู้ถูกร้อง...รับทราบข้อเท็จจริงอย่างเพียงพอ และมีโอกาสได้โต้แย้ง และแสดงพยานหลักฐานของตน” ด้วย
น่าเสียดายที่ กกต.มักง่าย ไม่เห็นความสำคัญในสิทธิของผู้ถูกร้องอันนี้ จึงหันไปยึดถือระเบียบที่ว่าไม่ต้องแจ้งผู้ร้องก็ได้เป็นสรณะ ซึ่งเราตั้งข้อสันนิษฐานว่ามันเป็นระบบ ‘ยุติธรรมตามสั่ง’ นั่นละ สิทธิของพรรคก้าวไกลจึงถูกตัดไป