https://www.facebook.com/reel/1174517253794415
สื่อฝรั่งเศส ทำสกู๊ปข่าว รื่องการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมไทย
.....
Thasnai Sethaseree
15 hours ago·
ผมเติบโตและเป็นผลิตผลของสังคมชายเป็นใหญ่ในอดีต เช่นเดียวกับคนอายุรุ่นเดียวกัน
ผมเคยเอากระเทย ตุ๊ด ทอม มาล้อเล่น ไม่ใช่ล้อเล่นในฐานะเพื่อนเล่นสนุกด้วยกัน แต่มีความคิดเหยียดหยามมองพวกเขาว่าผิดปกติ นอกจากนั้นการเอาคนลาว คนป่าคนดอยมาล้อเล่นก็เป็นเรื่องปกติในคนรุ่นผม รวมถึงมุขตลกที่เอาผู้หญิงมาคุยสนุกปากแบบผู้ชายด้วย ความคิดแบบนี้ค่อยๆ เบาบางลงตอนที่ได้เข้ามหาวิทยาลัย
แต่ก็เป็นพวกกระเทย เพื่อนผู้หญิงและเด็กบ้านนอกนี่หละ ที่คอยช่วยไอ้เด็กเหลือขออย่างผมในแทบทุกเรื่อง จะกินข้าวกินเหล้าก็พวกนี่หละเลี้ยง จะจีบสาวก็พวกนี้หละที่ช่วย ทำผิดอะไรที่โรงเรียนก็เป็นพวกนี้ที่ค่อยช่วยปกปิด จะชกปากคนก็พวกนี้เช่นกันที่พร้อมบวก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฝังหัวผมมาจากสังคมชายเป็นใหญ่ก็มักปรากฏอยู่ในภาษาที่ใช้ มุขตลกที่เหยียดผู้คนอยู่เสมอ มันเป็นสันดานที่ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องเรียนรู้หรือปรับปรุงตัว
จนกระทั่งได้ไปเรียนหนังสือในต่างประเทศ ได้เห็นผู้คนที่หลากหลายและต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในชั้นเรียน ความรู้ หนังสือหนังหามากมายที่อ่าน มันเปลี่ยนสันดานเลวๆ ผมไปมากตลอดกาล
ผมมีเพื่อนเป็นเกย์ที่แอบหลงรักในตัวผมอยู่หลายปี เพื่อน LGBTQ และเพื่อนคนผิวสีมากมายที่เข้าใจในเรื่องที่ผมศึกษามากกว่าเพื่อนผู้ชายด้วยกัน และพวกเขาไม่พยายามรุกล้ำอาณาบริเวณที่ผมเป็น เหล่านั้นสอนให้ผมรู้จักที่จะเคารพในสิ่งที่พวกเขาเป็นด้วย และพวกเราก็กอดกัน ด่ากัน ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ฟักยู ไอ้มืด ไอ้ดำ อีกระเทย ไอ้เอ็นเนื้อ ฯลฯ รวมถึงใช้คำเหล่านั้นเรียกและล้อเล่นกับตัวเองด้วย
สิ่งที่กำลังจะบอกคือ เราต่างเป็นผลผลิตของยุคสมัยที่มีปัญหาทางด้านความคิด และเราต่างผลิตซ้ำปัญหาเหล่านั้นโดยไม่ทันสังเกตตัวเอง แต่การศึกษา ความรู้ และการได้อยู่กับผู้คน จะทำให้เราเห็นถึงปัญหาของยุคสมัยและปัญหาที่มาจากตัวเราเองด้วย
สันดานแก้ไขได้ยากกว่าบุคคลิกภาพ แต่ก็แก้ไขได้ด้วยความรู้
ไม่มีอะไรที่สายเกินไป สำหรับอาการกระโหลกหนา ปัญญาอ่อน
สื่อฝรั่งเศส ทำสกู๊ปข่าว รื่องการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมไทย
.....
Thasnai Sethaseree
15 hours ago·
ผมเติบโตและเป็นผลิตผลของสังคมชายเป็นใหญ่ในอดีต เช่นเดียวกับคนอายุรุ่นเดียวกัน
ผมเคยเอากระเทย ตุ๊ด ทอม มาล้อเล่น ไม่ใช่ล้อเล่นในฐานะเพื่อนเล่นสนุกด้วยกัน แต่มีความคิดเหยียดหยามมองพวกเขาว่าผิดปกติ นอกจากนั้นการเอาคนลาว คนป่าคนดอยมาล้อเล่นก็เป็นเรื่องปกติในคนรุ่นผม รวมถึงมุขตลกที่เอาผู้หญิงมาคุยสนุกปากแบบผู้ชายด้วย ความคิดแบบนี้ค่อยๆ เบาบางลงตอนที่ได้เข้ามหาวิทยาลัย
แต่ก็เป็นพวกกระเทย เพื่อนผู้หญิงและเด็กบ้านนอกนี่หละ ที่คอยช่วยไอ้เด็กเหลือขออย่างผมในแทบทุกเรื่อง จะกินข้าวกินเหล้าก็พวกนี่หละเลี้ยง จะจีบสาวก็พวกนี้หละที่ช่วย ทำผิดอะไรที่โรงเรียนก็เป็นพวกนี้ที่ค่อยช่วยปกปิด จะชกปากคนก็พวกนี้เช่นกันที่พร้อมบวก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ฝังหัวผมมาจากสังคมชายเป็นใหญ่ก็มักปรากฏอยู่ในภาษาที่ใช้ มุขตลกที่เหยียดผู้คนอยู่เสมอ มันเป็นสันดานที่ผมไม่เคยคิดว่าจะต้องเรียนรู้หรือปรับปรุงตัว
จนกระทั่งได้ไปเรียนหนังสือในต่างประเทศ ได้เห็นผู้คนที่หลากหลายและต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในชั้นเรียน ความรู้ หนังสือหนังหามากมายที่อ่าน มันเปลี่ยนสันดานเลวๆ ผมไปมากตลอดกาล
ผมมีเพื่อนเป็นเกย์ที่แอบหลงรักในตัวผมอยู่หลายปี เพื่อน LGBTQ และเพื่อนคนผิวสีมากมายที่เข้าใจในเรื่องที่ผมศึกษามากกว่าเพื่อนผู้ชายด้วยกัน และพวกเขาไม่พยายามรุกล้ำอาณาบริเวณที่ผมเป็น เหล่านั้นสอนให้ผมรู้จักที่จะเคารพในสิ่งที่พวกเขาเป็นด้วย และพวกเราก็กอดกัน ด่ากัน ไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ฟักยู ไอ้มืด ไอ้ดำ อีกระเทย ไอ้เอ็นเนื้อ ฯลฯ รวมถึงใช้คำเหล่านั้นเรียกและล้อเล่นกับตัวเองด้วย
สิ่งที่กำลังจะบอกคือ เราต่างเป็นผลผลิตของยุคสมัยที่มีปัญหาทางด้านความคิด และเราต่างผลิตซ้ำปัญหาเหล่านั้นโดยไม่ทันสังเกตตัวเอง แต่การศึกษา ความรู้ และการได้อยู่กับผู้คน จะทำให้เราเห็นถึงปัญหาของยุคสมัยและปัญหาที่มาจากตัวเราเองด้วย
สันดานแก้ไขได้ยากกว่าบุคคลิกภาพ แต่ก็แก้ไขได้ด้วยความรู้
ไม่มีอะไรที่สายเกินไป สำหรับอาการกระโหลกหนา ปัญญาอ่อน