Athapol Anunthavorasakul
5h
·
เห็นใจผู้ว่าฯ ชัชชาติ และทีม ที่แถลงผลงานแล้ว ก็ยังมีคนตามแซะว่าไม่มีผลงานนั่นนี่โน่น
ได้เข้าไปช่วยงานการศึกษาอยู่บ้างจึงพอรู้ว่ามีปัญหาเรื่องงบฯ ที่ทีมก่อนหน้าตั้งไว้หมดแล้ว ตั้งแต่ อาจารย์เข้ามารับตำแหน่งจนวันนี้ยังไงก็ต้องใช้งบฯ ตามแผนงบฯเดิม โครงการเดิม ๆ งบฯที่ตั้งใหม่ จะได้เริ่มหลัง ต.ค.66 หลายงานก็อาจจะยังพัวพันไปอีกหนึ่งรอบปีงบประมาณด้วยซ้ำ งานที่ทำ ๆ กันตอนนี้ต้องอาศัยเครือข่ายและภาคเอกชนช่วยสนับสนุนเยอะมาก ทำให้ยังไปสู่การทำงานเชิงลึกแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างหลายๆ เรื่องได้ยากมาก ๆ
เฉพาะส่วนงานที่ผมเข้าไปช่วยนี่สารพัดผู้คนทั้งร่วมด้วยช่วยกันแบบไม่คิดค่าตัว แถมยังช่วยกันวิ่งหางบฯ จากเครือข่ายนั่นนี่ เรียกว่าใช้ทุนสังคม ทุนเครือข่าย เพื่อให้เงินมาทำงานกันเต็มแม็กซ์
งานที่ทีมอยากผลักดัน อยากรื้อจริง ๆ ยังมีเรื่องต้องไฟต์อีกเยอะมาก
ระบบราชการที่ผูกทุกอย่างไว้กับ KPI บ่อนเซาะทำลายกลไกในตัวมันเอง และบั่นทอนคนทำงานในระบบอย่างมาก
ความคาดหวังสูงลิ่วก็จะเป็นภาระหนักที่ต้องแบกรับ นี่ว่าที่นายกฯใหม่เข้ามาก็คงต้องเจอแบบเดียวกัน
ประเทศนี้ เมืองนี้ ใช้เวลาหลายทศวรรษในการถูกแช่แข็ง ปล่อยให้ถดถอยทรุดโทรม จะรื้อฟื้น ลุกขึ้น ยืนให้มั่นคงใหม่ หรือจะขยับก้าว ไม่ง่ายเลย และนี่ไม่ใช่เรื่องของฮีโร่ขี่ม้าขาวมาฆ่ามังกรอย่างในหนังแฟนตาซี
นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง เป็นข้อเท็จจริงที่ต้องชวนคิดทบทวนให้มาก ๆ ก่อนจะบริภาษบ่อนเซาะบั่นทอนกำลังใจคนทำงาน ทั้งข้าราชการ และภาคประชาสังคมที่กำลังหาทางจัดการกับความสลับซับซ้อนของปัญหา สู้กับวัฒนธรรมช้างใหญ่ยืนหลับตาของระบบราชการที่ฝังลึกกันมาเนิ่นนาน
Be realistic ในการทำความเข้าใจและยืนหยัดสู้กับปัญหา แก้ปัญหา และอย่าเพิ่งทดท้อ หมดหวัง หมดความเชื่อมั่นกันนะครับ
ภัควดี วีระภาสพงษ์
4h
·
ต้องประคับประคองกันไป
ที่สำคัญ อย่านึกว่าจะมีคนดีย์ฟ้าประทานมาแก้ปัญหาให้
.....
·
ถือฤกษ์ดี ครบ 1 ปี แถลงผลงาน “ทำงาน ทำงาน ทำงาน พลิกชีวิตคนกรุงฯ” ชี้แจงผลงานความร่วมมือจากภาคีแบบไร้รอยต่อ
(13 มิ.ย. 66) ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการแถลงข่าว “365 วัน ทำงาน ทำงาน ทำงาน กรุงเทพฯ” ชี้แจงผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี ภายใต้นโยบาย 9 ด้าน 9 ดี 216 นโยบาย รวมถึงทิศทางการการพัฒนากรุงเทพมหานครในระยะต่อไป โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร โฆษกสภากรุงเทพมหานคร และรองโฆษกสภากรุงเททพมหานคร ร่วมการแถลง
“365 วันที่ผ่านมา เป็น 365 วันที่สนุกและยังคงมีพลังเหลือเฟือในการทำงานต่อ ทั้งหมดที่เห็นไม่ใช่ผลงานของชัชชาติคนเดียว แต่เป็นผลงานของทีมทุกคนที่ร่วมมือกัน เป็นผลงานของผู้บริหาร พี่น้องข้าราชการ บุคลากรกรุงเทพมหานคร ทีมสมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่เป็นกำลังสำคัญในการออกกฎหมาย และเกิดจากความร่วมมือของภาคีเครือข่ายที่เป็นการทำงานแบบไร้รอยต่อจริง ๆ ในช่วงแรกที่เข้ามาในเดือนมิถุนายน 2565 งบประมาณปี 66 ของกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการเสร็จแล้ว แต่ได้เริ่มการใช้งบประมาณเพื่อนโยบายอย่างจริงจังคืองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 66 กว่า 9,000 ล้านบาท เป็นช่วงที่เริ่มเห็นการใช้งบประมาณเพื่อนโยบายของเรามากขึ้น และประชาชนสามารถเข้าไปดูสิ่งที่เราทำได้ทางเว็บไซต์ http://openpolicy.bangkok.go.th” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
● 5 เรื่องหลัก ที่ทำต่อเนื่อง
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า สำหรับช่วงแรกมี Key Driver 5 เรื่องหลักที่ได้ทำ คือ 1.การให้ความสำคัญกับเส้นเลือดฝอย โดยไม่ได้ละเลยเส้นเลือดใหญ่ที่เข้มแข็ง ซึ่งที่ผ่านมาเราเห็นว่ากรุงเทพฯ อ่อนแอที่เส้นเลือดฝอย หากทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและประสานกับเส้นเลือดใหญ่ให้เข้มแข็งได้ จะทำให้ทั้ง 2 ส่วนทำงานไปด้วยกันได้
2.การเปลี่ยน Mind set ข้าราชการ โดยใช้ People Centric คือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง หันหน้าหาประชาชน ตอบสนองประชาชนตลอดเวลา ทำให้เป็นหัวใจหลักในการทำงานและผู้บริหารต้องทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแก่ลูกน้อง
3.Technology Driver คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเปลี่ยน เป็นตัวเพิ่มประสิทธิภาพของเมือง เช่น Open Data การเปิดเผยข้อมูล การให้ใบอนุญาตออนไลน์ การให้บริการ Telemedicine เป็นต้น ซึ่งเห็นผลชัดเจน อนาคตต่อไปจะไม่หวนกลับไปในรูปแบบเดิมแล้ว เทคโนโลยีจะเข้ามาเปลี่ยนและจะถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสม เกิดประโยชน์ ตอบโจทย์ประชาชน
4.เรื่องของความโปร่งใส เป็นโจทย์ที่ประชาชนฝากให้ตั้งแต่เริ่มแรก การเปลี่ยน Mind set ผู้บริหารในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่เป็นธรรม ไม่เก็บส่วย เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยความโปร่งใส
5.สร้างภาคีเครือข่าย เพราะปีแรกเราไม่มีงบประมาณอะไรเลย มีเพียงความร่วมมือจากชุมชน หอการค้า หน่วยงานภาครัฐ เอกชน กิจกรรมที่เกิดขึ้นได้จึงเกิดจากภาคีเครือข่ายทำให้เมืองขับเคลื่อน และคาดว่าภาคีเครือข่ายจะร่วมขับเคลื่อนกทม.ต่อไปในปีที่ 2-4 ด้วย
สามารถอ่านข่าวฉบับเต็ม ได้ที่
https://pr-bangkok.com/?p=130314
● 9 ด้าน 9 ดี 216 นโยบาย เดิม สู่ 9 ด้าน 9 ดี 226 นโยบาย ใหม่
● เป้าหมาย 9 ดี ในอีก 3 ปีข้างหน้า
ถือฤกษ์ดี ครบ 1 ปี แถลงผลงาน “ทำงาน ทำงาน ทำงาน พลิกชีวิตคนกรุงฯ” ชี้แจงผลงานความร่วมมือจากภาคีแบบไร้รอยต่อ
(13 มิ.ย. 66) ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการแถลงข่าว “365 วัน ทำงาน ทำงาน ทำงาน กรุงเทพฯ” ชี้แจงผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี ภายใต้นโยบาย 9 ด้าน 9 ดี 216 นโยบาย รวมถึงทิศทางการการพัฒนากรุงเทพมหานครในระยะต่อไป โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร โฆษกสภากรุงเทพมหานคร และรองโฆษกสภากรุงเททพมหานคร ร่วมการแถลง
“365 วันที่ผ่านมา เป็น 365 วันที่สนุกและยังคงมีพลังเหลือเฟือในการทำงานต่อ ทั้งหมดที่เห็นไม่ใช่ผลงานของชัชชาติคนเดียว แต่เป็นผลงานของทีมทุกคนที่ร่วมมือกัน เป็นผลงานของผู้บริหาร พี่น้องข้าราชการ บุคลากรกรุงเทพมหานคร ทีมสมาชิกสภากรุงเทพมหานครที่เป็นกำลังสำคัญในการออกกฎหมาย และเกิดจากความร่วมมือของภาคีเครือข่ายที่เป็นการทำงานแบบไร้รอยต่อจริง ๆ ในช่วงแรกที่เข้ามาในเดือนมิถุนายน 2565 งบประมาณปี 66 ของกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการเสร็จแล้ว แต่ได้เริ่มการใช้งบประมาณเพื่อนโยบายอย่างจริงจังคืองบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 66 กว่า 9,000 ล้านบาท เป็นช่วงที่เริ่มเห็นการใช้งบประมาณเพื่อนโยบายของเรามากขึ้น และประชาชนสามารถเข้าไปดูสิ่งที่เราทำได้ทางเว็บไซต์ http://openpolicy.bangkok.go.th” ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าว
● 5 เรื่องหลัก ที่ทำต่อเนื่อง
ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า สำหรับช่วงแรกมี Key Driver 5 เรื่องหลักที่ได้ทำ คือ 1.การให้ความสำคัญกับเส้นเลือดฝอย โดยไม่ได้ละเลยเส้นเลือดใหญ่ที่เข้มแข็ง ซึ่งที่ผ่านมาเราเห็นว่ากรุงเทพฯ อ่อนแอที่เส้นเลือดฝอย หากทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรงและประสานกับเส้นเลือดใหญ่ให้เข้มแข็งได้ จะทำให้ทั้ง 2 ส่วนทำงานไปด้วยกันได้
2.การเปลี่ยน Mind set ข้าราชการ โดยใช้ People Centric คือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง หันหน้าหาประชาชน ตอบสนองประชาชนตลอดเวลา ทำให้เป็นหัวใจหลักในการทำงานและผู้บริหารต้องทำให้เห็นเป็นตัวอย่างแก่ลูกน้อง
3.Technology Driver คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวเปลี่ยน เป็นตัวเพิ่มประสิทธิภาพของเมือง เช่น Open Data การเปิดเผยข้อมูล การให้ใบอนุญาตออนไลน์ การให้บริการ Telemedicine เป็นต้น ซึ่งเห็นผลชัดเจน อนาคตต่อไปจะไม่หวนกลับไปในรูปแบบเดิมแล้ว เทคโนโลยีจะเข้ามาเปลี่ยนและจะถูกนำมาใช้อย่างเหมาะสม เกิดประโยชน์ ตอบโจทย์ประชาชน
4.เรื่องของความโปร่งใส เป็นโจทย์ที่ประชาชนฝากให้ตั้งแต่เริ่มแรก การเปลี่ยน Mind set ผู้บริหารในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่เป็นธรรม ไม่เก็บส่วย เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ด้วยความโปร่งใส
5.สร้างภาคีเครือข่าย เพราะปีแรกเราไม่มีงบประมาณอะไรเลย มีเพียงความร่วมมือจากชุมชน หอการค้า หน่วยงานภาครัฐ เอกชน กิจกรรมที่เกิดขึ้นได้จึงเกิดจากภาคีเครือข่ายทำให้เมืองขับเคลื่อน และคาดว่าภาคีเครือข่ายจะร่วมขับเคลื่อนกทม.ต่อไปในปีที่ 2-4 ด้วย
สามารถอ่านข่าวฉบับเต็ม ได้ที่
https://pr-bangkok.com/?p=130314● 9 ด้าน 9 ดี 216 นโยบาย เดิม สู่ 9 ด้าน 9 ดี 226 นโยบาย ใหม่
● เป้าหมาย 9 ดี ในอีก 3 ปีข้างหน้า
