วันอาทิตย์, มิถุนายน 18, 2566

หยก อธิบายการกระทำของเธอ - จาตุรนต์ ชี้ เด็กไม่มีผู้ปกครอง แล้วโรงเรียนปฏิเสธที่จะรับ สังคมจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไม่ได้ ต้องคุ้มครองช่วยเหลือ ให้นักเรียนได้รับการศึกษา - ยิ่งชีพ รับไม่ได้ ท่าทีเตรียมพัฒน์เลือกใช้กับ หยก ยัน ร.ร.ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้


สำนักข่าวราษฎร - Ratsadon News
5h
·
“จาตุรนต์” ชี้ เด็กไม่มีผู้ปกครอง แล้วโรงเรียนปฏิเสธที่จะรับ สังคมจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไม่ได้ ต้องคุ้มครองช่วยเหลือ ให้นักเรียนได้รับการศึกษา
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2566 นายจาตุรนต์ ฉายแสง ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แสดงความคิดเห็น ถึงกรณี ธนลภย์ (สงวนนามสกุล) หรือ หยก เยาวชนนักเคลื่อนไหวทางการเมือง
.
นายจาตุรนต์ ระบุว่า “เด็กไม่มีผู้ปกครอง โรงเรียนปฏิเสธที่จะรับ โดยโรงเรียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ช่วยกันหาทางแก้เพื่อคุ้มครองเด็ก เป็นเรื่องใหญ่ สังคมไทยจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปแบบธุระไม่ใช่ ไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องมาถกกันละครับว่าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ได้หรือ”
“หลายคนอาจไม่ทราบว่าประเทศไทยเรานี้มี มติ ครม.ดีๆที่ให้ความคุ้มครองเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยและเด็กไร้สัญชาติทุกคนที่อยู่บนผืนแผ่นดินไทย มีสิทธิ์ได้นับการศึกษาในโรงเรียนของรัฐ ระบบการศึกษาจะจำกัดสิทธิ์เด็กเหล่านี้ไม่ได้ แล้วทำไมเด็กไม่มีผู้ปกครองจะไม่พึงได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือ”
ทั้งนี้เมื่อมีชาวเน็ตถามว่า “ฟ้องศาลปกครองได้ไหม คำสั่งไม่รับเด็กเข้าเรียนเพราะไม่มารายงานตัวคือไม่น่าจะทำได้ อุทธรณ์คำสั่งไม่รับเข้าเรียนให้น้องหน่อย น้องอาจจะผิด แต่เด็กทุกคนควรมีสิทธิเรียนตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.การศึกษา”
นายจาตุรนต์ ตอบว่า ฟ้องศาลปกครองก็เป็นทางหนึ่ง แต่ผมยังคิดว่าใช้ช่องทางฝ่ายบริหารนี่แหละครับ น่าจะแก้ปัญหาได้ โดยไม่ต้องให้ไปขึ้นศาล
#สำนักข่าวราษฎร #RatsadonNews #จาตุรนต์ฉายแสง #การศึกษา
...



(https://www.facebook.com/RatsadonNews/posts/662834802530882?ref=embed_post)
.....
หยก อธิบายการกระทำของเธอว่า ไม่ได้ต่อต้านโรงเรียน แต่ต่อต้านระเบียบ/วิชา/ประเพณีที่ไร้สาระ

Thanalop Phalanchai
8h
·
1. หนูไม่ได้เข้าเรียนตามเวลาที่ใจปรารถนา แต่ที่หนูเข้าห้องสายตอนนี้เพราะถูกกีดกันไม่ให้เข้าโรงเรียน มันยากลำบากมาก หนูเข้าคาบตามเวลาที่กำหนดตลอด คาบไหนออดดังแล้วก็รีบวิ่งขึ้นไปทันที
2. หนูไม่ได้เลือกเรียนเฉพาะวิชาที่ชอบ แต่หนูเห็นว่าวิชาจริยธรรม เป็นวิชาที่ไม่มีประโยชน์ หนูคิดว่าสอนกันมาแบบนี้ก็ไม่มีใครเป็นคนดีขึ้น จากการต้องฟังว่าเราต้องเป็นคนดี
3. หนูไม่ได้ต่อต้านทุกกิจกรรมของโรงเรียน เหมือนกับในคุกบ้านปรานีเช่นกัน หนูไม่ท่องอาขยานก่อนกินข้าว แต่ถ้าต้องทำความสะอาดตรงกลางหนูก็ทำ เรื่องไหว้ครู ต่างๆ หนูเห็นว่าไม่มีประโยชน์กับเยาวชนและนักเรียน
4.การกระทำนี้ ไม่ใช่หนูดื้อแพ่งโง่ๆ แต่หนูคิดว่า สิ่งที่ทำอยู่ในโรงเรียนในประเทศคือเรื่องไม่ปกติ เด็กหลายคนก็คงอยากแต่งตัวไปรเวทเหมือนกันแหละ แต่อาจจะถูกพ่อแม่ไม่ให้ สังคมไม่ให้ โครงสร้างที่กดทับ ถูกโรงเรียนกดทับ แล้วก็ไม่มีความสามารถที่จะเป็นเจ้าของร่างกายตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เริ่มมาตั้งแต่ในชั้นเป็นเด็กแล้วคุณจะคาดหวังว่าเราจะมีผู้ใหญ่ที่โตไปเป็นผู้พิพากษาหรือข้าราชการ หรือคนมีตำแหน่งแล้วให้เค้ากล้าหาญที่จะหักคำสั่งของเจ้านายในเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรได้ยังไงกันคะ
5. สังคมไทยก็ต้องเปลี่ยนตอนนี้ ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะเป็นตอนไหนคะ
หนูพูดในฐานะที่ตัวเองเป็นเยาวชนเพราะเปลี่ยนเพื่อให้หนูได้อยู่ต่อ
ให้เพื่อนๆทุกคนได้ไปต่อพร้อมกัน
การที่ผู้ใหญ่ชอบโลกแบบของผู้ใหญ่ก็คือเรื่องนึง แล้วพวกหนูในฐานะเด็กมีถ้าอยากเปลี่ยนแปลงเราต้องทำยังไง การร้องขอดีๆหลายสิบปีที่ผ่านก็ปรากฎชัดแล้วว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
ในวันนี้ สิ่งที่หนูทำไม่ได้เป็นเรื่องฆ่าคนตาย เป็นการแสดงออกทางความคิดผ่านสัญญะ การแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้ทำให้หนูเรียนไม่ได้ สิ่งที่ทำให้เรียนไม่ได้คือโรงเรียนและบุคลากร
เรื่องนี้เป็นบททดสอบของสังคมไทยทำให้เห็นว่า จะพิสูจน์อะไรอีก ถ้าตกลงแล้วสถานศึกษาหรือทัศนคติของสังคมไทย ว่าจะยังไง จะใช้วิธีปัดตกเขี่ยทิ้งกลบฝังคนที่อยากได้ความเปลี่ยนแปลงใช่ไหม

(https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=212124938403250&id=100088172342826&ref=embed_post)
.....
Yingcheep Atchanont
7h
·
ยังไม่พักต้องวิเคราะห์วิจารณ์กันอย่างลึกซึ้งหนักหนาว่า จะเห็นด้วยกับแนวทางหรือข้อเรียกร้องของหยกหรือไม่
ท่าทีและวิธีการที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการเลือกใช้ น่ารังเกียจ ไม่อาจรับได้จริงๆ
การปิดประตูใส่วันก่อนก็เกิดไปแล้ว แต่การมาออกแถลงการณ์ยืนยันว่า คนที่เคยเป็นนักเรียนวันนี้ไม่ใช่นักเรียนแล้วเพราะเหตุผลทางธุรการ แถม “ไล่” ให้ไปที่อื่น โดยจากการที่รายงานตัวไม่ถูกอ้างอิงกลายมาเป็นประเด็นถึง “ความปลอดภัย” ทำเสมือนหนึ่งอดีตนักเรียนหญิงอายุ 15 ปี กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่โรงเรียนต้องรบราฆ่าฟันเปิดศึกสงครามด้วย เป็นพิษเป็นภัยที่ต้องกำจัดอย่างรวดเร็ว นี่เป็นพฤติกรรมของผู้ใหญ่ที่ถืออำนาจอันน่าสยดสยองมาก
ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรที่ทำให้เยาวชนคนนี้ตัดสินใจแสดงออกเช่นนั้น แต่เค้าก็เคยเป็นนักเรียนและถูกอบรมสั่งสอนโดยคุณครูที่นี่มาแล้วหลายปี ผลผลิตที่เขาเป็นเขาในวันนี้ โรงเรียนจะปฏิเสธความรับผิดชอบ 100% เลยไม่ได้หรอก ตั้งแต่ที่หยกอายุน้อยกว่านี้ถ้าหากโรงเรียนและคุณครูเลี้ยงดูเขา โดยมีแนวทางที่อยากให้เขาเป็น และมีวุฒิภาวะของ “ครู” ค่อยๆ อธิบายให้เค้าฟังอย่างมีเหตุผลได้ว่าจะใส่ชุดนักเรียนและจะตัดผมไปทำไม จะอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมอย่างไร เค้าก็คงโตมาโดยมีทางเลือกมากกว่านี้
อยากให้เราข้ามเรื่องการวิจารณ์การตัดสินใจของเยาวชนอายุ 15 คนหนึ่ง ไปพิจารณาและสนใจการตัดสินใจ การใช้อำนาจรับมือกับเด็กคนหนึ่ง ของผู้ใหญ่ที่มีอำนาจในโรงเรียนกันให้มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหลักอันหนึ่งของการบ่มเพาะจนหยกตัดสินใจเลือกวิธีการเช่นนี้
หากเราสนใจประเด็นการใช้อำนาจของรัฐในระบบการศึกษา น่าจะเป็นประเด็นควรค่าแก่การถกเถียงในเชิงระบบและหาทางแก้ไขปรับปรุงกันมากกว่าการโฟกัสกับการตัดสินใจของมนุษย์หนึ่งคนที่ผ่านไปแล้ว

(https://www.facebook.com/pow.ilaw/posts/6532907223406548?ref=embed_post)