วันเสาร์, มิถุนายน 17, 2566

คนแม่งหลงประเด็น อารยขัดขืนก็คืออารยขัดขืน คือมันไม่ทำตามกรอบ กฎหมายหรือกฎหมู่ หรือสมาทานเสียงส่วนมากเพราะการกระทำเหล่านั้นคือ”การตั้งคำถาม”ว่าเสียงส่วนใหญ่ กฎหมายเหล่านั้นจำกัดขอบเขตเสรีภาพอันพึงมีพึงได้ ขัดสิทธิมนุษยชนหรือเปล่า


Kasemsun Rawvilai
15h
·
ปวดตับกับคนที่อ้างว่าเป็นหัวก้าวหน้า มาบอกว่า น่าจะมีการสำรวจประชามติ ให้โหวตกันให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยว่าจะให้ใส่ยูนิฟอร์มหรือไปรเวท อันไหนชนะก็ชนะไปเลย กลัวแต่ว่าถ้ายูนิฟอร์มชนะ พวกที่เลือกใส่ไปรเวทจะไม่ยอมรับมติมหาชนไม่ยอมรับการตัดสินแบบประชาธิปไตย ถถถ คนพวกนี้เข้าใจประชาธิปไตยแค่เรื่องโหวตเหรอ
คนแม่งหลงประเด็น อารยขัดขืนก็คืออารยขัดขืน คือมันไม่ทำตามกรอบ กฎหมายหรือกฎหมู่ หรือสมาทานเสียงส่วนมากเพราะการกระทำเหล่านั้นคือ”การตั้งคำถาม”ว่าเสียงส่วนใหญ่ กฎหมายเหล่านั้นจำกัดขอบเขตเสรีภาพอันพึงมีพึงได้ ขัดสิทธิมนุษยชนหรือเปล่า ต่อให้มติมหาชนว่าอย่างนั้น แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นประชาธิปไตย ประชาธิปไตยมีคือการมีส่วนร่วมวางกติการร่วมกัน มีการหาทางออกร่วมกัน มีการตัดสินโดยใช้กติกาที่ว่า และก็อยู่บนรากฐานของการไม่ขัดกับเรื่องมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่สำคัญประชาธิปไตยคือการให้พื้นที่คนเห็นต่าง ฉีกออกจากกรอบ ขัดขืน และมีการประเมินผลว่าสิ่งที่เราตัดสินใจไปนั้นสร้างผลกระทบอย่างไร
ดังนั้นเรื่องของมหาชนไม่ได้อยู่บนรากฐานของประชาธิปไตยเสมอไป และประชาธิปไตยต้องยอมรับการถูกตั้งคำถาม ถูกตั้งข้อสงสัยได้เสมอๆ
เกรต้า ธุนแบร์ยนั่งประท้วงหน้ารัฐสภา หรือเอ้ลิน เอิร์ชช่อน หญิงสาวที่ไม่ยอมนั่งบนเครื่องบิน เพื่อขัดขวางการส่งตัวกลับของผู้ลี้ภัยชาวแอฟกัน รวมไปถึงกลุ่ม เอ๊กซ์ตื่นชั่น รีเบลเลี่ยนในสวีเดนที่นั่งประท้วงปิดถนนเพื่อเรียกร้องการฟื้นฟู wetlands เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทั้งเอ้ลินและ เอ๊กซ์ติ้นชั่น รีเบลเลี่ยนต่างทำผิดกฎหมาย กฎหมายที่มีมติจากรัฐสภา จากนักการเมืองที่จากการเลือกของประชาชนผ่านระบอบประชาธิปไตย แล้วคนที่นี่ด่าว่าคนเหล่านั้นไม่เคารพประชาธิปไตยหรือ ก็เปล่า ก็แค่ถูกด่าว่าไม่เคารพกฎหมาย ไม่เห็นใจพวกคนขับรถหรือผู้โดยสารบนเครื่องบินคนอื่นๆ ประชาธิปไตยจึงไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยไปทุกเรื่องหรือน้อมรับไปทุกอย่าง และการขัดไปทุกอย่างก็ไม่ได้เกี่ยวกับประชาธิปไตย

https://www.facebook.com/kasemsun.rawvilai/posts/10167482867985315?ref=embed_post