วันศุกร์, มีนาคม 17, 2566

ป่วยฉุกเฉิน แต่ ไม่วิกฤต เข้าโรงพยาบาลเอกชน ระวังกระเป๋าฉีก ! ทำความเข้าใจกันใหม่ เรื่องสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ‘เจ็บป่วยฉุกเฉิน’ มีคำอยู่ 2 คำ ซึ่งคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน


มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
March 7
ป่วยฉุกเฉิน แต่ ไม่วิกฤต เข้าโรงพยาบาลเอกชน ระวังกระเป๋าฉีก !
ทำความเข้าใจกันใหม่ เอากันให้ชัดๆ จะได้บอกลาความสับสนกันสักที
สิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เรื่องการ ‘เจ็บป่วยฉุกเฉิน’ นั้น ขอให้เข้าใจกันตามนี้
มีคำอยู่ 2 คำ ซึ่งคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน
1. เจ็บป่วยฉุกเฉิน : คำนี้อาจจะมีการเรียกด้วยคำอื่นอีก เช่น เจ็บป่วยฉุกเฉิน (ธรรมดา) เจ็บป่วยฉุกเฉินไม่วิกฤต หรือรวมถึงกรณี ‘อุบัติเหตุ’ ไม่ร้ายแรงด้วย
2. เจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤตชีวิต : อาจเรียกว่า เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต เจ็บป่วยฉุกเฉินสีแดง หรือที่คุ้นชิ้นกันในชื่อสิทธิประโยชน์ UCEP
ทั้งสองคำนี้ใช้คำว่า “ฉุกเฉิน” เหมือนกัน แต่การใช้สิทธิการรักษาไม่เหมือนกันเลย
อธิบายอย่างง่ายดังนี้
“เจ็บป่วยวิกฤตชีวิต” คือหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีมีโอกาสเสียชีวิตสูง ตรงนี้จะมีเกณฑ์กำหนดอยู่ว่าอาการแบบใดถึงเข้าเงื่อนไข ‘สีแดง’ หรือ ‘วิกฤต’
เฉพาะผู้ที่เข้าเกณฑ์วิกฤตเท่านั้น!!! สามารถเข้ารับบริการ “โรงพยาบาลทุกแห่ง” ที่ใกล้ที่สุด โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง และใช้เอกสารเพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น เมื่อพ้นระยะวิกฤต 72 ชั่วโมง จะส่งรักษาต่อที่หน่วยบริการประจำตามสิทธิต่อ

The Coverage
March 6
ทำความเข้าใจกันใหม่ เอากันให้ชัดๆ จะได้บอกลาความสับสนกันสักที
สิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เรื่องการ ‘เจ็บป่วยฉุกเฉิน’ นั้น ขอให้เข้าใจกันตามนี้
มีคำอยู่ 2 คำ ซึ่งคล้ายกัน แต่ไม่เหมือนกัน
1. เจ็บป่วยฉุกเฉิน : คำนี้อาจจะมีการเรียกด้วยคำอื่นอีก เช่น เจ็บป่วยฉุกเฉิน (ธรรมดา) เจ็บป่วยฉุกเฉินไม่วิกฤต หรือรวมถึงกรณี ‘อุบัติเหตุ’ ไม่ร้ายแรงด้วย
2. เจ็บป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤตชีวิต : อาจเรียกว่า เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต เจ็บป่วยฉุกเฉินสีแดง หรือที่คุ้นชิ้นกันในชื่อสิทธิประโยชน์ UCEP
ทั้งสองคำนี้ใช้คำว่า “ฉุกเฉิน” เหมือนกัน แต่การใช้สิทธิการรักษาไม่เหมือนกันเลย
------------------------------
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.thecoverage.info/news/content/4638


สรุปง่ายๆ คือ ฉุกเฉินวิกฤตชีวิต = รักษาได้ทุกโรงพยาบาล = ฟรี
ส่วน “เจ็บป่วยฉุกเฉิน (ไม่วิกฤต)” คือมีอาการตามเกณฑ์ที่กำหนดเช่นกัน (สีเหลือง) แต่ก็จะไม่รุนแรงหรือเร่งด่วนเท่า ‘สีแดง’
ผู้ที่เจ็บป่วยฉุกเฉินแต่ไม่วิกฤต!!! เข้ารักษาได้ “เฉพาะโรงพยาบาลรัฐ” ที่ใกล้ที่สุด โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง และใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวเช่นกัน
ปัญหาก็คือ ... มีเคสจำนวนมากที่อยู่ใน ‘อาการสีเหลือง’ คือไม่วิกฤต แต่ถูกส่งตัวไปรักษา ณ ‘โรงพยาบาลเอกชน’ และถูกเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลในท้ายที่สุด
กรรณิการ์ กิจติเวชกุล กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) สัดส่วนภาคประชาชน อธิบายผ่าน “The Coverage” เพื่อให้ประชาชนเข้าใจอย่างง่ายที่สุดว่า ถ้าเป็นผู้ป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤต (สีแดง) เท่านั้น ถึงจะเข้าโรงพยาบาลเอกชน และใช้สิทธิตามโครงการ UCEP ได้ 72 ชั่วโมง
อย่างไรก็ดี ปัญหาที่พบบ่อยมากคือผู้ป่วยที่มี ‘อาการกำกึ่ง’ ระหว่างป่วยฉุกเฉินไม่วิกฤต (สีเหลือง) กับป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤต (สีแดง) ถ้าญาติผู้ป่วยคิดว่าเป็นสีแดงและพาผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาลเอกชน ทว่าโรงพยาบาลบอกว่าเป็นสีเหลือง ก็มีโอกาสสูงที่จะถูกเรียกเก็บค่ารักษาหลักแสนบาท ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเคสแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว
ดังนั้น ถ้าไม่แน่ใจว่า ‘สีแดง’ หรือ ‘สีเหลือง’ การส่งตัวผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลภาครัฐย่อมชัวร์กว่าในแง่ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลฟรี
The Coverage
https://www.thecoverage.info/news/content/4638
https://www.facebook.com/100067495502841/posts/538309555095557/?mibextid=Nif5oz