วันจันทร์, มกราคม 16, 2566

ปรากฏการณ์รัฐถังแตก "ชักกระไดหนี" ดูเกณฑ์การขอตำแหน่งศาสตราจารย์ - เหมือนจะบ้าไปแล้ว

https://www.facebook.com/puangthong.r.pawakapan/posts/6088072837910091
Puangthong Pawakapan
18h
การซื้อ authorship ในวารสารวิชาการของสายวิทย์ฯอย่างน่าตกใจนี้ ซึ่งบางคนอาจจะซื้อถึง 50-100 ชิ้นทีเดียว จะเข้าใจว่าทำไมต้องซื้อมากมายขนาดนี้ ก็ต้องกลับไปดูเกณฑ์การขอตำแหน่งศาสตราจารย์ของสายวิทย์และสังคมศาสตร์บางสาย เช่น เศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ - มันบ้าคลั่งมากๆ ประเภท
- ต้องมีงานวิจัยอย่างน้อย 10 เรื่อง
- มี life-time citation ในวารสาร scopus อย่างน้อย 1,000 รายการ โดยไม่นับงานที่อ้างตัวเอง
- ต้องมี h-index ไม่น้อยกว่า 18
- ต้องเป็นหัวหน้าโครงการวิจัยมาไม่ต่ำกว่า 10 โครงการ
นี่มันบ้ามากๆ ฉะนั้น จะมี citation มากกว่า 1,000 ชิ้น ต้องทำอย่างใดอย่างหนึ่งคือ งานวิจัยของคุณเลิศหรูเยี่ยมยอดระดับโลก หรือกว้านซื้อบทความให้มากที่สุด แล้วผลัดกันอ้างไปมา
คำถามคือ กว่าจะเป็น ศ. อาจารย์และมหาลัยแห่งหนึ่งต้องจ่ายเงินกี่ล้านบาท? หาก 1 ชิ้นได้รางวัลตอบแทน 1 แสนบาท 50 ชิ้นจะทำกับเงินเท่าไร?
เราเชื่อว่าพวกผู้บริหารมหาลัยที่ส่วนใหญ่เป็น ศ. สายวิทย์ก็ทำไม่ได้ ศ. ของฝรั่งจำนวนมากก็ไม่น่าจะทำได้ คนพวกนี้คือต้นเหตุที่ทำให้วิชาการของไทยตกต่ำลงทุกด้าน
ปล. เกณฑ์นี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่มกราคม 2565 - บ้าเปลี่ยน-เพิ่มเกณฑ์ทุก 3-4 ปี ไม่มีที่ไหนในโลกจะปัญญาอ่อนเช่นนี้

.....
Atukkit Sawangsuk
17h
บ้าคลั่งไปแล้ว
ขอตำแหน่งศาสตราจารย์
ต้องเก่งกาจขนาดยอดมนุษย์ หรือไม่ก็เป็นคนขี้โกง