ต้อนรับปีใหม่ ไปล็อคดาวน์กันที่ 'ไอค่อนสยาม' นะคะ นะคะ นั่งริมน้ำชมพลุตามสบายได้ถึงตีหนึ่ง

โควิดฮิตต่อไม่ยอมเหือดง่ายๆ ณ เวลานี้แพร่ไป ๔๐ จังหวัดแล้ว สมุทรสาครยังแช้มป์ เกือบพันห้าร้อยราย ตามด้วยกรุงเทพฯ ๕๘ ราย และอันดับสามที่ระยอง ๓๗ ราย ซึ่งมีฮือฮาเล็กน้อยเพราะที่พุ่งพรวดเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อจากบ่อนการพนัน วันเดียว ๒๙ ราย

ไหนคำสั่งห้ามมีอีเว้นท์และกิจการที่ซ่องสุมผู้คนจำนวนมากไง คงไม่มีบ่อนไหนผู้เล่นกับเจ้ามือสามารถจัดระยะห่าง ๒ เมตรได้ทั้งวง แล้วเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนสามารถสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา คนเล่นกินดื่มกันชุลมุนทั้งนั้น นี่คือความลักลั่นของระเบียบไทยๆ

และที่ตบหน้าคำสั่งประยุทธ์ ตามอำนาจ พรก.ฉุกเฉินฯ “ห้ามจัดชุมนุมทั่วประเทศ ป้องกันเชื้อโควิด-๑๙แพร่กระจาย” ก็เป็น ‘ไอค่อนสยาม’ อลังการริมน้ำ เตรียมการงานอีเว้นท์ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ คืนวันที่ ๓๑ ธันวา

เพิ่งมาแจ้งเปลี่ยนแปลงเมื่อวานนี้ว่าร่วมมือ “สอดรับกับมาตรการของรัฐ...งดกิจกรรมเค้าท์ดาวน์และคอนเสิร์ตทั้งหมด แต่ยังคงมีการแสดงพลุ” เริ่มการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์หลายช่องและเว็บไซ้ท์ออนไลน์ ตั้งแต่ ๕ ทุ่มครึ่ง

แต่ห้างยักษ์ของสำนักทรัพย์สินกษัตริย์แห่งนี้ มีลูกเล่นเล็กน้อย บอกว่าในวันที่ ๓๑ ธันวาเนี่ยนะ ไอค่อนสยามเปิดบริการถึงตีหนึ่งของวันใหม่ นะจ๊ะ นะจ๊ะ “ทุกท่านสามารถมาช้อปปิ้ง...ได้ตามปกติ...โดยเฉพาะร้านอาหารต่างๆ ภายในศูนย์”

ฟังดีๆ นะ ตอนนี้ท่อนฮุก “หากสนใจชมพลุ สามารถติดต่อสำรองที่นั่งในร้านอาหารริมน้ำของศูนย์ฯ ได้นะคะ” นะคะ ก็ยังมีคนอุตส่าห์พาซื่อถามว่า แสดงว่าคนยังรอดูพลุจากในศูนย์การค้า ตรงจุดไหนก็ตามที่เห็นท้องฟ้า จนกระทั่งตีหนึ่งใช่ไหม ก็ใช่สิคะ สิคะ

ความเป็นพิเศษต่างๆ นอกเหนือกฏระเบียบมันยังมีอยู่อย่างนี้แหละนาย ออกคำสั่งอย่างเน้นๆ ในข้อ ๒ ให้ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัด “พิจารณาสั่งปิดสถานที่ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการติดโรคและการแพร่” กรุงเทพฯ และธนบุรีก็เป็นจังหวัดและมีผู้ว่าฯ เช่นกันใช่ไหม ใช่ไหม

อีกข้อ เน้นเหมือนกัน “ห้ามมิให้มีชุมนุม ทำกิจกรรม หรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ในสถานที่แออัด” แบบร้านอาหารนี่ละตัวดี แต่ที่ต้องการเน้นกว่านั้นคือห้ามกระทำการ “อันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย” นั่นละ

อันนั้นเจาะจงห้ามม็อบโดยตรงเลยนะจ๊ะ นะจ๊ะ ทำให้ไม่เสียบุคคลิกเด่นของ พรก.ฉุกเฉิน คือมีโควิดเป้นแบ็คดร้อป แต่เป้าหมายอยู่ที่ห้ามเด็กประท้วง แต่ว่าคิดพลิกแพลงอย่างไรก็ไม่ทันเด็กหรอก จะเห็นได้จากกิจกรรมช่วงนี้ล้วนแต่เป็นการเคลื่อนที่

กิจกรรมขายกุ้งของวีโว่ก็เป็นการเกื้อหนุนชุมชนโดยตรง ทำกันเพื่อสาธารณะประโยชน์ห้ามไม่ได้แต่ก็ส่งนอกเครื่องแบบพกกระบองไว้ก่อกวน แล้วตอนท้ายก็เกิดชุลมุนจนได้ ตำรวจไล่ตะครุบคนที่เขียนกร๊าฟฟิติบนพื้น “ยกเลิก ม.๑๑๒”

อีกกิจกรรมชูป้ายเรียกร้องยกเลิกกฎหมายหมิ่นกษัตริย์เหมือนกัน แต่ต่างคนต่างถือของตนและเดินกันไปเรื่อยๆ บนทางเท้า จุดหมายหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่มีการชุมนุม ส่วนการประท้วงหลักในช่วงนี้ เป็นป้ายขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างโผล่ที่โน่นที่นี่อย่างปริศนา

อานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร ๖๓ คนหนึ่งโพสต์ว่า “ช่วงนี้ตำรวจจะเหนื่อยหน่อย มีป้ายยกเลิก ๑๑๒ ขึ้นทุกคืนเลย และเท่าที่ทราบ ไม่ใช่กลุ่มเดียวที่ทำ เป็นว่าคนแม่งหาที่หาทางแสดงออกกันเอง คืนนี้ป้ายจะขึ้นที่ไหน โปรดติดตาม”

นี่ก็เพราะการเรียกร้องต้องการของประชากรส่วนหนึ่ง เพื่อการปรับปรุง ปฏิรูป และ/หรือเปลี่ยนแปลง ให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางสังคม การเมือง รวมทั้งเศรษฐกิจ ใดๆ นั้นมักจะถูกเมินจากรัฐสภา แม้แต่สภาผู้แทนราษฎร

เนื่องเพราะสมาชิกสภาจำนวนมากพากันไปอิงแอบกับผลประโยชน์ฝ่ายรัฐบาล จนการตั้งฉายาประจำปีโดยผู้สื่อข่าวประจำรัฐสภา เรียกสภาผู้แทนฯ ว่า ‘ปลวกจมปลัก’ ในฐานะที่ “ทำงานดุจปลวก ที่ทำเพื่อความอยู่รอดของตัวเอง

ด้วยการใช้สภาเป็นเครื่องมือเพื่อชิงอำนาจและทำลายล้างฝั่งตรงข้าม ยิ่งนานวันก็ยิ่งจมปลัก...และจะยิ่งกัดกินหลักการของประชาธิปไตยให้พุกร่อนเข้าไปทุกที” ขณะที่อีกสภาคือ สภาสูงหรือสภา สว.ถูกนักข่าวขนานนามสำหรับปีใหม่นี้ว่า ‘สภาปรสิต’

สว.ที่มาจาก ‘ตู่ตั้ง’ เหล่านี้ไม่ต่างกับปรสิตที่รวมกันอยู่ในวุฒิสภา “นอกจากไม่มีผลงานที่เห็นด้วยตาเปล่าเหมือนปรสิตแล้ว ยังนำมาซึ่งพิษภัยแก่การทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติด้วย โดยเฉพาะการพยายามใช้เงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ

มาเป็นข้ออ้างเพื่อชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนทำให้เกิดการตั้งคณะกรรมาธิการรัฐสภาพิจารณาก่อนรับหลักการ” นักข่าวรัฐสภาจึงเห็นว่าเหมาะสมยิ่งนักสำหรับ “สิ่งมีชีวิตที่อาศัยผู้อื่นหรือเซลล์ชนิดอื่นเป็นที่พักอาศัยและแหล่งอาหาร”

เป็นที่น่าสังเกตุว่า คำ ‘ปรสิต’ เป็นที่กล่าวขวัญและโจษจรรกันมาตลอดปี จะเป็นเพราะหนังเกาหลีชนะตุ๊กตาทองออสการ์เมื่อต้นปีเรื่อง ‘Parasite’ ด้วยหรือเปล่า ไม่รู้ว่าตลอดปีหน้าจะมีภาวะการณ์เข้มข้นกว่าพล็อตหนัง จนทำให้ผู้คนพูดถึงปรสิตไม่หยุดปากตลอดปีไหม

(https://www.bbc.com/thai/thailand-55457155?, https://www.prachachat.net/breaking-news/news-582764 และ https://prachatai.com/journal/2020/12/90978)