วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 24, 2563

มาตรการโควิดรอบใหม่ ‘ฟังดูดี’ แต่ "คงเป็นงูกินหางอย่างนี้ตลอดไป"


ตู่เต้นแล้ว ออกมาตรการแรงแก้โควิดระบาดระลอกใหม่ แม้ยังไม่เจอคนตายเพิ่มใกล้ตัว แต่เชื้อก็ระบาดไปทั่ว ๒๒ จังหวัด จำนวนกว่าพันแน่นอน และจะเห็นตัวเลขเพิ่มในไม่ช้า เนื่องจากไวรัสโคโรน่ารุ่นนี้คนละสายพันธุ์กับครั้งก่อน แต่สามารถติดได้ง่ายกว่า

มาตรการเพิ่งออกมาจาก ศบค. ยัง “ไม่มีการล็อคดาวน์” แต่จัดแบ่งเขตพื้นที่ตามความน่ากลัวของการระบาด แรงสุดสีแดง มีแห่งเดียวคือสมุทรสาคร ต้นตอการระบาดครั้งใหม่นี้ กับพื้นที่รายรอบความรุนแรงอันดับสองสีส้ม มีสี่แห่ง กทม. สมุทรสงคราม ราชบุรี และนครปฐม

ต่อไปเป็นสีเหลือง มี ๒๗ จังหวัด เช่น สระบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา อยุธยา และกระจายออกไปทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก เช่น นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ นครศรีธรรมราช นครราชสีมา ชัยภูมิ และสุพรรณบุรี เป็นต้น

นอกนั้น ๔๗ จังหวัดที่ยังไม่ปรากฏผู้ติดเชื้อ จัดเป็นพื้นที่สีเขียว ยังไม่มีมาตรการควบคุมเข้มงวด อย่างพื้นที่สีแดงซึ่ง “งดจัดกิจกรรมฉลองทุกชนิด” ให้คนในพื้นที่หรือมาจากพื้นที่สีแดงทำงานที่บ้าน สถานศึกษาพิจารณาหยุดการเรียนการสอนไว้ก่อน

และจัดตั้งด่านคัดกรอง ส่วนพื้นที่สีส้ม ให้งดจัดกิจกรรมสาธารณะ แต่ผ่อนผันหากมีการจำกัดผู้เข้าร่วมงาน หรือเฉพาะคนคุ้นเคย ทางที่ดีให้หาทางจัดแบบออนไลน์ สถานประกอบการให้พิจารณาจำกัดเวลาเปิด-ปิด ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว

รวมความแล้ว ฟังดูดีเป็นมาตรการสมน้ำสมเนื้อ แต่อาจจะช้าไปนิด หรือ ชะล่าใจไปหน่อย ปล่อยให้มันเกิดขึ้นก่อนแล้วค่อยตามแก้ ในเมื่อปัญหาเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติเหล่านี้มีอยู่แล้วในตัวของมันเอง เนื่องจากการบริหารจัดการอย่างลูบหน้าปะจมูก

และข้อสำคัญ การคอรัปชั่นทำให้การดูแลเพื่อประโยชน์สูงสุด ขาดประสิทธิภาพ ในฐานะที่แรงงานพม่าต่ออุตสาหกรรมอาหารทะเลของไทยเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ความลักลั่นในระเบียบการออกใบอนุญาต ทำให้เกิดการลักลอบเข้าเมือง

แน่นอนอย่างที่ฝ่ายทหาร-ตำรวจว่า การสกัดกั้นพวกที่ตั้งหน้าจะลักลอบเป็นเรื่องยาก ก็ควรจะปรับกระบวนให้มีมูลเหตุต้องลักลอบน้อยที่สุด หากจะมีการเสียดสีว่า เพราะต้องการให้ยังมีการลักลอบ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ทำมาหากินกันคล่องๆ ล่ะ

“มีมาตรการดึงแรงงานข้ามชาติที่อยู่นอกระบบให้เข้าสู่ระบบการจ้างงานอย่างถูกต้อง และกำหนดมาตรการที่ชัดเจนในการรองรับแรงงานข้ามชาติที่จะเดินทางเข้ามาทำงานในประเด็นไทย ควบคู่ไปกลับมาตรการป้องกันโรค”

เป็นข้อสรุปหนึ่งจากการสัมมนาเรื่อง “แรงงานข้ามชาติกับโควิด-๑๙ :เราทิ้งใครไว้ข้างหลัง” เมื่อวันที่ ๑๖ ธันวาที่ผ่านมา พบว่าหลังจากสถานการณ์โควิดคราวที่แล้วผ่อนคลาย “ตุลาคมปีนี้ รัฐไทยมีแรงงานข้ามชาติในระบบเหลือเพียง ๒,๒๘๔,๖๗๓ คน

หรือมีแรงงานหายไปจากระบบ ๕๙๒,๔๕๐ คน หมายความว่ารัฐไทยมีผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายเกือบ ๖ แสนคนเลยทีเดียว” เมื่อแรงงานที่กลับไปบ้านต่างทะยอยกลับเข้ามาใหม่ตั้งแต่เดือนตุลา ต่อเมื่อมีรายงานข่าวว่าโควิดระบาดอีกในพม่า ก็สายไปแล้วสำหรับไทย


เมื่อไรก็ตามที่ยังไม่สามารถตรวจสอบกับการคอรัปชั่นในหมู่เจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายทหาร-ตำรวจได้ เมื่อนั้นการแก้ปัญหาเกี่ยวกับภัยธรรมชาติ เช่นโรคระบาดอย่างโควิด คงเป็นงูกินหางอย่างนี้ตลอดไป แม้แต่ปัญหาการค้ายาเสพติดที่พบมากเป็นประวัติการณ์ยุคนี้

เมื่อเร็วๆ นี้มีการจับกุมรถบรรทุกขนยาเค ๑๑ ตันครึ่ง สองวันต่อมามีแถลงออกมาว่ามียาเสพติดเพียงกรัมกว่าๆ คนส่วนใหญ่ฟังแล้วไม่เชื่อ แต่ทางการก็ยังดึงดันแถลงออกมาได้ เมื่อวันก่อนนี่เองมีการจับกุมสุราหนีภาษีจากนอกเต็มรถบรรทุก ป้าย “พัน.ขส.๒๔ บชร.๔”

แทนที่จะมองลึกลงไปถึงต้นตอแห่งเหตุที่เกิด นายกรัฐมนตรีเองนั่นทะลุกลางปล้อง โทษแรงงานลอบเข้าเมืองเป็นตัวการทันที แรงงานเหล่านั้นย่อมต้องการเข้ามาหารายได้ คล้องจองกับความต้องการแรงงาน (ที่เรียกว่า 3D = Dirty, Dangerous, Difficult) ในไทย

ไม่เพียงแรงงานในภาคอุตสาหกรรม แม้แต่แรงงานเสริมในบ้านและครัวเรือน ช่วงโควิดที่ผ่านมานี่หลายครอบครัวคิดถึง แม่บ้าน คนสวน และคนขับรถ กันทั้งนั้น เห็นโพสต์บางรายจากผลของการระบาดโควิดรอบนี้ ถึงกิริยาอาการของแรงงานพม่าบางคน

“เมื่อเย็นมีพม่ามาซื้อของที่ร้าน นางยืนมองเราพักนึง แล้วก็ถามว่าพี่ขายให้ผมไหม เราก็บอกว่าขายจ้า ...ก่อนจ่ายตัง นางถามว่ามีแอลกอฮอล์ไหมผมขอล้างมือหน่อย...ถึงเวลาจ่ายตังนางยื่นจ่ายเราไกลมาก...ก่อนเดินออกจากร้านนางหันมายิ้มแล้วบอกว่า

ขอบคุณครับพี่ที่ขายให้ผม เรานี่ทั้งจุกทั้งสงสาร คนเราเนอะ มีชั่ว/ดีปะปนกันไป ดูแลตัวเองกันด้วยนะคะ” นั่นคือสำคัญกว่าการได้ฉีดวัคซีน ที่ไม่รู้เมื่อไร แอสตร้าเซเนก้าในพระมหากรุณาธิคุณ (บริษัทผู้ประสาน) จะผลิตได้เมื่อใด

สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ อย่างที่ชายพม่ารายนั้นทำนั่นละ จะพาให้รักษาเนื้อรักษาตัว “แล้วมันจะผ่านไปเหมือนที่เคยผ่านมา” (ขอบคุณผู้โพสต์ ขออภัย ไม่ทราบต้นตอ)

(https://prachatai.com/journal/2020/12/90875, https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_5534433, https://twitter.com/petitpor และ https://twitter.com/joe_black317)