Angkhana Neelapaijit
15h ·
#JudicialHarassment #การคุกคามโดยใช้กฎหมาย
วันนี้มีการอ่านคำพิพากษายกฟ้องสองคดีที่น่าสนใจ คือคดี #ความผิดตามมาตรา112 และความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ของแม่จ่านิว ที่โพสต์คำว่า “จ้า” ในแชทส่วนตัวกับบุคคลอื่นซึ่ง โดยเป็นคดีที่โอนมาจากศาลทหาร ซึ่งตามคำพิพากษาวันนี้ ศาลชี้ว่าการโพสต์ข้อความดังกล่าวไม่ได้สื่อความหมายเป็นการเห็นด้วยใดๆ กับข้อความก่อนหน้านี้ #การนำสืบของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ส่วนอีกคดีกรณีจาตุรงค์ ฉายแสง ซึ่งถูกฟ้องใน #ความผิดมาตรา116 กรณีแถลงข่าวไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร คสช. ปี 2557 ที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ โดยศาลวินิจฉัยว่า
“ .. แต่ความผิดตามมาตรา 116 ต้องปรากฏโดยชัดแจ้ง เป็นการละเมิดกฎหมายของแผ่นดิน การที่จำเลยไปแถลงข่าวดังกล่าว เป็นไปตามสิทธิเสรีภาพโดยสุจริตตามรัฐธรรมนูญ และเป็นการแสดงออกโดยคำพูดที่ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครอง ตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก อย่างไรก็ตามไม่ปรากฏว่าหลังจากจำเลยได้แถลงข่าวแล้วมีประชาชนออกมาสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไม่สงบในสังคม และในข้อความที่จำเลยแถลงไม่มีข้อความใดที่เจตนาให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน คสช.”
อันที่จริงในสายตาของวิญญูชน ทั้งแม่จ่านิว คุณจาตุรงค์ และอีกหลายๆคนไม่ควรถูกฟ้องร้องดำเนินคดีข้อหาร้ายแรงเช่นนี้แต่แรก #การดำเนินคดีในลักษณะนี้จึงไม่อาจถูกมองเป็นอย่างอื่นนอกจาก #เป็นการฟ้องเพื่อกลั่นแกล้ง #ฟ้องปิดปาก หรือ #เพื่อระงับการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อสาธารณะ อย่างที่โฆษกข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน สหประชาชาติแสดงความกังวลอย่างยิ่ง และเรียกร้องให้มีการปรับปรุงมาตรา 112 ให้สอดคล้องกับข้อบทที่ 19 ตามกติกาสากลว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
แม้คดีเหล่านี้ส่วนมากสุดท้ายศาลจะยกฟ้องหากแต่ การดำเนินคดีเป็นระยะเวลาหลายปี ทำให้ผู้ถูกฟ้องคดีต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งการถูกฟ้องคดีความผิดร้ายแรงยังส่งผลกระทบต่อจิตใจผู้ถูกฟ้องคดีและครอบครัวอย่างยิ่ง โดยเฉพาะหลายคนถูกล่าแม่มด ถูกทำให้เกลียดชัง หรือถูก online bullying
#หากการบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมยังคงเกิดขึ้น #คงยากที่อ้างว่าประเทศไทยเป็นนิติรัฐ #และปกครองด้วยหลักนิติธรรม
credit photo: FB Thanapol Eawsakul