เรื่องราวของ#คนเคยรัก จตุพร หรือ นิว ที่กลายเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา ม.112

โตโต้ ปิยรัฐ - Piyarat Chongthep
December 22 at 10:14 PM ·

สวัสดีประชาชน
.
พบกันอีกกับสายๆของวัน สิ่งนี้มันกลายเป็นกิจวัตรของผมไปเสียแล้วที่ต้องมาทักทายกันผ่าน FB เช่นนี้เป็นประจำ หากวันไหนหายไปเป็นอันต้องคอยตอบคำถามมวลมิตรมากมายถึงสาเหตุนั้นๆ ต่อแต่นี้ไปสัญญาครับว่าจะพยายาม นำเสนอเรื่องราวที่มีสาระ และน่าสนใจในทุกๆวันไม่ขาดหาย
.
วันนี้ผมเห็นโพสต์ๆหนึ่งของ Voice TV ที่นำเสนอเรื่องราวของคุณ จตุพร หรือ นิว ที่กลายเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา ม.112 ไปพร้อมกับน้อง สายน้ำ นักเรียนชายวัย 16 ปี จากข้อกล่าวหา แต่งกายดูหมิ่นเจ้า (ชุดไทย และ คร๊อปท็อป)
.
ผมรู้จักกับนิว จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองของเธอในจังหวัดที่หลายคนต้องรู้ว่า มันมีอิทธิพลของผู้มากบารมี นั่นคือ บุรีรัมย์ เธอจัดม็อบเองกับทีมของเธอไม่กี่คน จาก หลักสิบ เพิ่มเป็นร้อย และเป็นหลายร้อยในไม่กี่วัน ถือเป็นความกล้าหาญมากแล้วสำหรับชาวบ้านธรรมดาอย่างเธอ
.
นิวตัดสินใจจากบ้านเกิดที่ จังหวัดบุรีรัมย์ อาสาเข้าร่วมกับ #wevo ใน กทม ตั้งแต่ครั้งก่อตั้งในช่วงแรกๆ และตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอก็ทำหน้าที่ของเธอได้เป็นอย่างดี เป็นที่รักของทุกๆคนในทีม wevo และผู้คนที่ได้ใกล้ชิดกับเธอ
.
ผมพึ่งทราบว่าเธอเคยเป็นหนึ่งในคนที่ หลงใหลคลั่งไคล้ต่อระบอบกษัตริย์มาก่อนหน้านี้ เครื่องหมายการันตีว่าเธอคือ 1 ในผู้ที่จงรักภักดีคือ รอยสักบนผิวหนังที่บ่งบอกว่าเธอซาบซึ้งในกษัตริย์องค์ก่อนอย่างที่สุด แต่ปัจจุบันเธอบอกว่า “หนูตาสว่างแล้วพี่” ..ผมเชื่อ เพราะเธอไปไกลมาก เธอตาสว่างคนเดียวไม่พอเธอยังเอาชีวิตของเธอรณรงค์ให้ผู้คนตาสว่างอีกด้วย
.
ผมคิดว่านี้ไม่ใช่พฤติกรรมการ เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง หรือให้พูดกันตรงๆคือ มันไม่ใช่รักพ่อไม่รักลูก อะไรแบบนั้น แต่มันคือ แรงผลักดันภายในของเขาเองจริงๆที่เข้าใจอย่างท่องแท้ว่า อะไรคืออะไร
.
และที่ผมต้องประหลาดใจคือ ในwevo เองมีสมาชิกคนหนุ่มสาวที่มีรอยสัก ประเภท “รักพ่อ ร.9” , “ฉันเกิดในรัชกาลที่๙ , อยู่ราว 4-5 คน ซึ่งคนเหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่กล้าเปิดเผยว่าตนมีสิ่งเหล่านี้บนเรือนร่าง จนกระทั่งเราสังเกตเองจึงได้ไตร่ถาม แล้วลองนึกดูว่าจะมีอีกมากสักแค่ไหนสังคมนี้ที่ผู้คนเกิดภาวะตาสว่าง
.
มีเพื่อนใน wevo ที่ผมไว้ใจมากบางคนถึงขนาดสักลาย “ฉันเกิดในรัชกาลที่9” ที่ศรีษะของเขา ผมไม่เคยรู้มาก่อน และตัวเขาก็ไม่คิดที่จะบอกใครเพราะปัจจุบันเขาต้องไว้ผมยาวปกไหล่เพื่อปกปิดความรู้สึกผิดพลาดของตนเอง กระทั่งมีคนสังเกตจึงไถ่ถามกันให้ทราบความจริง
.
สำหรับผม สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย แต่มันคือความกล้าหาญ และน่านับถือ คุณกล้ามาก เก่งมาก ที่ตื่นแล้วไม่ตื่นเปล่า แต่ยอมเสียสละปลุกผู้คนให้ตื่นด้วยกัน ตื่นจากความหวาดกลัว ตื่นจากความโง่เขลา และการหลอกลวง
.
สุดท้ายนี้ผมขอแสดงความนับถือในความกล้าของทุกๆคน
.
โตโต้ ปิยรัฐ จงเทพ
22/ธค/63

โตโต้ ปิยรัฐ - Piyarat Chongthep
อ่านต่อที่ https://www.voicetv.co.th/read/UpPSXLpct