วันพุธ, สิงหาคม 12, 2563

วีระ สมความคิด เชื่อว่าทนายอานนท์ต้องการให้สถาบันกษัตริย์ยังคงดำรงอยู่กับสังคมไทยอย่างสมพระเกียรติและมีความสง่างาม เป็นที่เคารพศรัทธาของคนไทยตลอดไป อะไรที่สมควรปรับปรุงแก้ไข ก็สมควรจะทำไม่ใช่หรือ?



เห็นด้วยกับดร.บุญส่ง ชเลธร ในฐานะที่ผมเป็นคนหนึ่งที่พอจะมีความรู้ทางกฏหมายอยู่บ้าง ได้ดูได้ฟังการปราศรัยของทนายอานนท์ นำภา ทั้งที่ถนนราชดำเนิน และประตูท่าแพเชียงใหม่แล้ว เชื่อว่าทนายอานนท์ต้องการให้สถาบันกษัตริย์ยังคงดำรงอยู่กับสังคมไทยอย่างสมพระเกียรติและมีความสง่างาม เป็นที่เคารพศรัทธาของคนไทยตลอดไป อะไรที่สมควรปรับปรุงแก้ไข ก็สมควรจะทำไม่ใช่หรือ?
ที่สำคัญทนายอานนท์เอาความจริงที่คนไทยส่วนใหญ่ต่างรู้อยู่แก่ใจ เพียงแต่ไม่กล้าพูด(ผมคนหนึ่งที่รู้เรื่องเหล่านี้เป็นอย่างดี แต่ผมก็ไม่มีความกล้าหาญที่จะพูดเรื่องเหล่านี้เหมือนเขา) สิ่งที่ทนายอานนท์พูด หากคิดไตร่ตรองให้ดีแล้วนำไปปรับปรุง แก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ดีให้ถูกต้อง จะมีแต่ประโยชน์ต่อสถาบันกษัตริย์เอง และต่อชาติและประชาชนอย่างแท้จริงอีกด้วย
เข้าใจว่าตำรวจและเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนไม่น้อยที่ต่างก็รู้ความจริงเหล่านี้ พวกเขาคงรู้สึกอึดอัดในใจอย่างมาก ที่ต้องถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จำเป็นต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้มีอำนาจรัฐบางคน ที่ชอบอ้างความจงรักภักดี แต่แท้ที่จริงแล้วพวกมัน ก็โหนสถาบันกษัตริย์ เพื่อเอาไว้หาประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ความจริงใจที่จะรักษาสถาบันกษัตริย์ของพวกมัน อาจเป็นเพียงลมปาก ไม่อาจเทียบได้กับความกล้าหาญและความจริงใจของทนายอานนท์ นำภา
...

ดร.บุญส่ง ชเลธร
August 9 at 10:40 PM ·

"ตำรวจอย่าเส้นตื้น"
............................
ผมฟังการพูด “ฉบับเต็ม” ของคุณอานนท์ นำภา จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กับที่ประตูท่าแพ เชียงใหม่ แล้ว
ก่อนนี้ฟังแต่คลิปสั้น ตัดต่อ กับดูพาดหัวข่าวก็กังวล
เพราะแนวโน้มของข่าวออกไปทางโจมตีคุณอานนท์
ว่าหมิ่นเบื้องสูง ทำลายสถาบัน
แต่พอฟังดีๆ ครบถ้วนแล้ว
ผมว่าคุณอานนท์พูดดี มีเหตุมีผล และไม่มีส่วนใดกระทบกระเทือน หรือเป็นการหมิ่น ทำให้มัวหมองหรือเสื่อมเสียพระเกียรติยศเลย
น่าจะพูดได้ว่าคุณอานนท์ปกป้องสถาบันเสียด้วยซ้ำ
ข้อที่อาจเป็นกังวลกัน
คือคุณอานนท์พูดในสิ่งที่ไม่มีใครพูดออกสื่อสาธารณะ หรือในที่ชุมนุมมาก่อน
นึกย้อนถึงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์
ในพระราชนิพนธ์บันทึกประจำวันเรื่อง “เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวิทเซอร์แลนด์” ระหว่างวันที่ 16-23 สิงหาคม พุทธศักราช 2489
วันที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จฯ กลับไปศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ พระองค์ถ่ายทอดเรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกที่ทรงห่วงใยพสกนิกรและแผ่นดินไทยเอาไว้อย่างลึกซึ้งตอนหนึ่งว่า
“ตามถนน ผู้คนช่างมากมายเสียจริง ๆ
ที่ถนนราชดำเนินกลาง ราษฎรเข้ามาใกล้จนชิดรถที่เรานั่ง
กลัวเหลือเกินว่าล้อรถของเราจะไปทับแข้งทับขาใครเข้าบ้าง
รถแล่นฝ่าฝูงชนไปได้อย่างช้าที่สุด
ถึงวัดเบญจมบพิตร รถแล่นเร็วขึ้นได้บ้าง
ตามทางที่ผ่านมา
ทรงได้ยินราษฎรคนหนึ่งตะโกนว่า
“ในหลวงอย่าทิ้งประชาชน”
พระองค์ท่านก็นึกตอบในพระราชหฤทัยว่า
“ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว
ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้”
แต่รถวิ่งเร็วและเลยไปไกลเสียแล้ว....”
เช่นนี้จะเห็นว่า
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นที่รักศรัทธาของประชาชนมาก
แล้วไม่มีกฎหมายข้อไหนนะครับ
บัญญัติว่าคนไทยที่วาดหวังให้ในหลวงทรงประทับอยู่ในประเทศ
เพื่อเป็นหลักชัยให้กับประชาชน
มีความผิด
ตำรวจอย่า “เส้นตื้น” ให้มากนัก
เมาหมัดกับเรื่อง “บอส” เรื่อง “บ่อน” แล้ว
เห็นใครพูดถึงในหลวงก็ต้องจ้องเอาผิดไว้ก่อน
ตั้งข้อหา “จุกจิก” “ไร้สาระ” เหมือนหาเหตุจะเอาเรื่องให้ได้นั้น
เป็นฉะนี้
ตำรวจนี่แหละคือตัวขัดขวางความรักที่ประชาชนมีต่อในหลวง
พฤติกรรมเช่นนี้แหละครับ
หมิ่น “สถาบัน” ตัวจริง