วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 16, 2562

ตู่ "ผลักความผิดพ้นศีรษะ" อ้าง สว. ชุดจิ้ม "โปรดเกล้าฯ มาแล้ว จำไว้นะ”


สว.ชุดตู่จิ้มเอง นี่ต้องเป็นตำนานแห่งการคดในข้อ ตอแหล และน่าสาบแช่ง อะไรที่เคยชั่วร้ายในอดีตครั้งนี้รับสืบทอดมาหมด เหตุจากคนตั้งมือเปรอะเสียแล้วจับวางท่าไหนก็ไม่พ้นเปื้อน

มิหนำซ้ำอ้าง “โปรดเกล้าฯ” ผลักความผิดพ้นศีรษะซะอีก

เมื่อถูกนักข่าวซักเรื่องที่มีเสียงวิพากษ์หนักกรณีการแต่งตั้งวุฒิสมาชิก ๑๙๔ คน เต็มไปด้วยคนคุ้นเคยของรัฐบาล คสช. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รีบผลักพันธะรับผิดชอบของตนออกไปทันที ว่า “ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ มาแล้ว จำไว้นะ”

แล้วยังรีบแก้ตัวทันควัน ออกแนวฉุน ล้งเล้งตามอุปนิสัยที่มักประพฤติเป็นนิจสิน “ให้เกียรติกันบ้างสิครับ เข้าใจไหม ผมไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักอย่าง” พยายามเลี่ยงว่า “การสรรหาผมไม่ได้เป็นคนทำ” แต่ก็คุยว่ารู้วิธีสรรหาดี
 
คือ “ต้องมีการพิจารณาว่าใครสมัครใจ เมื่อเขาสมัครเข้ามาก็คัดเลือกจากผู้ที่สมัคร” โดยมี “คสช. ที่เข้ามาคัดกรองตรงนี้ ไม่ใช่ผมคนเดียว” แล้วมาตรฐานสรรหาเยี่ยมมาก “ใครไม่สมัครใจ ไม่ตั้ง” มิน่าถึงได้ทหารเกษียณเข้าไปเป็นโขยง


เข้าใจตรงกันนะ ทั้งตนและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานสรรหา ไม่ได้จิ้มสุ่มสี่สุ่มห้า ได้มา ๒๕๐ คนนี้ “ทรงมีพระราชวินิจฉัยมาแล้ว” ส่วนที่ออกเป็นคำสั่ง คสช. ที่ ๑/๒๕๖๒ ตั้งวุฒิสมาชิกสำรองไว้ ๕๐ คน นั่นไม่ได้อยู่ในข่ายโปรดเกล้าฯ

คราวนี้มาดูกันว่าลักษณะอะไรบ้างที่ถูกชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์กันเละและประยุทธ์โทษโปรดเกล้าฯ นอกจากทหาร ตำรวจ และข้าราชการพลเรือนเต็มพรึ่บแล้วก็มี แม่น้ำทั้ง ๕ของ คสช. สนช. สปท. กรธ. ฯลฯ แม้แต่คนที่ทำหน้าที่สรรหา ก็ยังมีชื่อโปรดเกล้าฯ

สำหรับเรื่องตั้งพี่ชาย น้องชาย ของคนสำคัญในรัฐบาลและ คสช. อย่างคนหนึ่งที่ได้ฉายา ติ๊กขโมยตังค์เพราะเคยเอาเงินราชการไปเก็บไว้ในบัญชีส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับที่เคยกินเงินเดือนสมาชิกสภานิติบัญญัติทั้งปี แต่ตอกบัตรเข้างาน ๖ ครั้ง

นั่นประยุทธ์ตอบแบบออกลูกยั๊วะๆ “ว่า เขาบอกมาแล้ว​ เขาชี้แจงมาแล้ว ทางสภาก็ชี้แจงมาแล้ว ประธานสภาก็ชี้แจงมาแล้ว ทำไมยังไม่จบเสียที” ก็ชาวบ้านเขาเสียดายเงินงบประมาณตั้ง ๑,๓๐๐ ล้านบาทไง

ที่ บก.ลายจุดว่าน่ะใช่เลย ไม่เห็นจะต้องสรรหาให้สิ้นเปลืองขนาดนั้น ได้มาหน้าเดิมๆ ซ้ำซากเสียส่วนใหญ่ แค่คุยกันทาง ไลน์ ถูกกว่าเยอะ ยิ่งคิดไปถึง “เราต้องสูญเสียงบประมาณอีกกว่า ๕,๕๐๐ ล้านบาท ในการดูแล ส.ว.พวกพ้องเหล่านี้” อย่างที่ บอล ธนวัฒน์ วงค์ไชย @tanawatofficial บ่น แล้วเศร้า
 
ต่อไปเรื่องพื้นๆ คุณสมบัติที่ว่าคัดกรองมาอย่างดี “พบประธานเครือข่ายชาวนาไทยที่มีรายชื่อในการประกาศเป็น ส.ว. มีลักษณะต้องห้าม เคยถูกไล่ออกจากราชการฐานประพฤติชั่วร้ายแรง” ข่าวไทยรัฐว่างั้น นายระวี รุ่งเรือง เคยรับราชการเจ้าหน้าที่ปกครอง ท่ายาง เพชรบุรี

รับเงินใต้โต๊ะผู้สมัครเป็น อส. ๖๗ ราย รายละ ๑ หมื่นถึง ๑ หมื่น ๕ พัน สัญญาว่าจะช่วยให้ได้รับการคัดเลือก แต่เอาเข้าจริงทำอะไรไม่ได้เพราะไม่รู้จักกรรมการสักคน พวกจ่ายเงินเลยร้องหนังสือพิมพ์และผู้ว่าฯ

ชั้นต้นนายวีระโดนลงโทษลดขั้นเงินเดือน แต่ต่อมากรมการปกครองเห็นว่าโทษน้อยไป เปลี่ยนคำสั่งเป็นไล่ออก แต่นายวีระก็ยังไปสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นนายกฯ อบต. เรื่องแดงภายหลังอัยการจังหวัดยื่นฟ้อง ศษลตัดสินว่าผิดแต่รอลงอาญาจำคุก ๖ เดือนไว้ จนท้ายที่สุดศาลอุทธรณ์ยืนคำพิพากษา


แต่นายวีระก็ยังได้รับแต่งตั้งเป็น สว.ในคราวนี้จนได้ เช่นเดียวกับนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตเลขาธิการศาลปกครอง เคยพัวพันคดี จดหมายน้อย ที่ทำให้ประธานศาลปกครองสูงสุดครั้งนั้นตกเก้าอี้ ตนเองแค่โดนย้ายแล้วต่อมาออกจากราชการไปเปิดร้านขายไวน์

การนี้ Atukkit Sawangsuk ตั้งปุจฉาถามสำนักข่าวอิศรา “ควรไปสืบสาวว่า ดิเรกฤทธิ์เป็น ส.ว.มาได้ไง คอนเนคชั่นไหน เกี่ยวกับคนใหญ่คนโตในศาลปกครองไหม เกี่ยวกับป้อมเป็นประธานสรรหาตรงไหน” ต่อไป “จะมีบทบาทอย่างไรในการตั้งประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่ หลังปิยะ ปะตังทา ครบวาระ”

อธึกกิตมันมือจะเอาอย่างอิศรา ขุดต่อเรื่อง สว.แม่ยาย เขาว่า “ทีแรกอุตส่าห์ดีใจ โคราชได้ สว.หญิงแบบอิสระ เป็นตัวแทนกลุ่มสตรี ชื่อ ทัศนา ยุวานนท์ ติดอันดับ ๗๓ พอเขาสะกิดถามอากู๋กลายเป็นแม่ยายผู้ว่าฯ โคราช วิเชียร จันทรโณทัย ไปเสียนี่

ส่วนเรื่องสภาพี่ๆ น้องๆ ก็รู้ๆ กันแล้ว น้องตู่ น้องป้อม น้องวิษณุ น้องของชีพ (จุลมนต์) ประธานศาลฎีกาที่บอกว่าบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีองค์กรอิสระ แล้วยังจะพี่ของสมคิด จาฯ อีกคน ตอนนี้พบอีกแบบ Killer @KillerPress  เรียกว่า สวิงกิ้ง
 
ที่ราชบุรีมี ส.ส. พลังประชารัฐ สามีได้เป็น สว. แต่ที่ชลบุรีเห็นว่าผัว ส.ส. เมีย สว.แต่ปรากฏว่าข่าวลือผิดพลาด ข่าวจริงแจ้งว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ สุชาติ ชมกลิ่น หรือเฮียเฮ้งปฏิเสธเสียงแข็งเมียผมไม่ได้เป็น สว. คนที่เป็น สว.นั่นน้องเมีย


ข่าวโซเชียลก็เลยต้องเปลี่ยนนิยามใหม่เป็น สว.น้องเมีย เป็นอันครบเครื่องเรื่อง สว.สถาบันครอบครัว และต่างตอบแทน ซึ่งวันชัย สอนศิริ โต้หน้าตาเฉยว่า “เป็นเรื่องปกติ” ขณะที่ใครนะจ้วงเรื่องมีกรรมการสรรหามาเป็น สว.เสียเอง

เรื่องนี้ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เถียงคอเป็นเอ็น ด้วยสำนวนศรีธนญชัย “กฎหมายไม่ได้ห้าม” นี่หว่า ก็แค่เดินออกจากที่ประชุมตอนที่ถูกเสนอชื่อเท่านั้น อะไรๆ ทำได้ทั้งสิ้นถ้าเป็นลิ่วล้อ คสช. เขายืดอกพูดต่ออย่างหน้าชื่น “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ คสช.”