“บ้านป่าเมืองเถื่อนเบอร์ไหน” ถ้อยทวี้ตของ
สุนัย ผาสุก แห่งฮิวแมนไร้ท์ว้อทช์ สะท้อนความเป็นไทยๆ ยุค คสช.
อย่างน่าอดสูยิ่งนัก “ขนาดหน้าศาลอาญายังหาความปลอดภัยไม่ได้
ฝ่ายต่อต้านเผด็จการถูกคุกคาม-ทำร้ายซ้ำๆ”
มิใย Thanathorn Juangroongruangkit เขียนบนทวิตเตอร์ว่า “รัฐมีหน้าที่ปกป้องสิทธิเสรีภาพของพลเมืองไทยทุกคนโดยเท่าเทียมกัน
ทำไมเหตุการณ์แบบนี้ถึงเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่ากับเอกชัยโดยไม่มีใครต้องรับผิดชอบ”
เอกชัย หงส์กังวาน
นักกิจกรรมสู้เพื่อประชาธิปไตย ‘มือเปล่า
เดินเท้า’ ถูกรุมทำร้ายอีกเป็นครั้งที่ ๗ ไม่นับโดนทุบรถ-เผารถ
๒ ครั้ง คราวนี้นอกจากปากแตกแล้วข้อมือเข้าเฝือก
คงต้องนอนโรงพยาบาลหลายวัน
กลุ่มคนที่ทำร้ายก็ลักษณะเดิมๆ
สวมหมวกกันน็อค ขี่มอเตอร์ไซค์ไม่ติดป้ายทะเบียนหนี เหตุเกิดที่ป้ายรถเมล์หน้าศาลอาญา
ถนนรัชดาภิเษก ขณะลงจากรถเมล์เพื่อจะไปขึ้นศาลตามนัดในคดีคนอยากเลือกตั้ง หรือ #ARMY57
เอกชัยเล่าว่าสังเกตุมีคนติดตามมาตั้งแต่บ้านแล้ว
พอกำลังจะก้าวลงบันไดรถเมล์ก็ถูกถีบตกไปที่ทางเท้า จากนั้นคนร้ายอีก ๓ นายที่รออยู่ก็เข้ากลุ้มรุมต่อยตีทำร้าย
เขาบอกกับ Pravit Rojanaphruk
แห่งข่าวสดอิงลิชว่า “คนรอบๆ ไม่มีใครช่วย รวมทั้งยามหน้าศาลอาญา”
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรวบรวมเหตุการณ์ที่เอกชัยถูกทำร้ายไว้เมื่อต้นเดือนเมษาที่ผ่านมาว่าเขาถูกทำร้ายร่างกาย
๖ ครั้ง เริ่มตั้งแต่กลางมกราคมปีที่แล้ว
เมื่อเขาและเพื่อนคนหนึ่งไปประท้วงกรณีนาฬิกาหรูยืมเพื่อนมา ของ พล.อ.ประวิตร
วงษ์สุวรรณ ที่กระทรวงกลาโหม
อีกอาทิตย์ต่อมาชายคนเดียวกันก็ดักทำร้ายเขาอีก
ที่ปากซอยลาดพร้าวหลังจากเขาเพิ่งลงจากรถเมล์
ครั้งนี้นอกจากปากแตกแล้วยังมีบาดแผลที่คอ เขาได้แจ้งความและอัยการส่งฟ้องนายฤทธิไกร
ชัยวรรณศาสน์ ต่อมาศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ๖ เดือน ปรับ ๑ หมื่นบาท
แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา
จากนั้นมาการบุกทำร้ายเอกชัยจะกระทำเป็นระบบอย่าง
‘organized crime’ คนร้ายเพิ่มเป็น ๒-๔ คน ใช้ยานพาหนะรถมอเตอร์ไซค์ไม่ติดป้ายทะเบียน
ส่วนมากจะดักรอบริเวณที่เขาไปร่วมกิจกรรมประท้วง มิฉะนั้นก็ตามเข้าไปในซอยขณะเขาเดินกลับบ้าน
เหตุการณ์เมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๖๑ เขาถูกตีด้วยหมวกกันน็อคและท่อนไม้
เลือดอาบ กระดูกนิ้วหัก เข้าเฝือกรักษาประมาณ ๑ เดือน
ครั้งนี้ตำรวจจับคนร้ายได้ชื่อ กำธร ธรรมขันธ์ ยอมรับสารภาพว่ามีคนว่าจ้างมา
แต่ไม่ยอมเปิดชื่อคนจ้าง ทางการก็ เอ่อ ไม่เป็นไร
การถูกทำร้ายครั้งที่ ๕
หลังเสร็จจากรรรงค์ไม่เลื่อนเลือกตั้งที่อนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลา ขณะเดินใกล้ถึงสะพานพระปิ่นเกล้าฯ
ชายสี่คนจอดมอเตอร์ไซค์รอทำร้าย บาดเจ็บไม่มากปากแตกแขนช้ำ แต่คราวนี้มีพลเมืองดีแถวนั้นเข้าช่วยเอกชัย
คนร้ายหนีไปเสียก่อน
ปรากฏว่าพลเมืองดีเหล่านั้นเป็นนักท่องเที่ยวเกาหลี
เจริญพวงกะลาแลนด์ พอครั้งที่ ๖ โดนนินจามอเตอร์ไซค์ ดักอยู่ในที่จอดรถ เขาบอกว่าซื้อรถมาใช้เพื่อจะได้ไม่โดนดักทำร้ายขณะเดินเข้าซอย
แต่อนิจจังครั้งนี้หัวแตกและมีแผลแขน เพราะคนร้ายใช้ไม้พลองและแป๊ปน้ำตี
แน่นอนเขาได้แจ้งความไว้ทั้งสองกรณี
ตั้งแต่ต้นปีมาแล้วไม่มีข่าวคราวคืบหน้าแต่อย่างใดจากทางโรงพัก ตำรวจนครบาลก็คงอีหรอบเดียวกับภูธร
ต้องระมัดระวังอย่าจับสุ่มสี่สุ่มห้า เดี๋ยวเจอ ‘เพื่อนโชค’ เข้าละก็ ตายห่
ส่วนรถของเอกชัยที่ซื้อมือสองมาราคาเป็นแสน
ใช้ได้ไม่เท่าไรถูกลอบทุบ ลอบเผาเสียนี่ รถจอดหน้าบ้านถูกเผากลางดึกเห็นภาพกล้องวงจรปิด
ครั้งแรกเอาน้ำมันราดแล้วจุดไฟเสียหายเยอะแต่ยังพอใช้การได้ เลยโดนอีกครั้งทีสอง
ครั้งนี้ไหม้วอดไปทั้งคัน ทำให้เอกชัยกลับมาโดนดักตีที่ป้ายรถเมล์ใหม่
ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะโดนอีกกี่ครั้งกี่หน เพราะเขาเป็นคนอึดไม่ยอมย่นย่อ
อาจจะเป็นอย่างที่ บก.ลายจุดวิเคราะห์ไว้ก็ได้ “เอกชัยเป็นนักเคลื่อนไหวที่มีวิธีการเคลื่อนไหวที่ประหลาด
ไม่เฉพาะสิ่งที่เขาทำ
แม้แต่สิ่งที่เขาถูกกระทำก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้ของเขา
ถ้าจะนึกถึงตัวละครในหนังเรื่องใด ผมนึกถึงหนังเรื่อง ทองพูน โคกโพธิ์
ราษฎรเต็มขั้น” งานนี้ต้องมีคนสั่งการแน่ๆ “เขาใช้วิธีการคุกคามเพื่อให้เอกชัยหยุดหรือส่งสัญญาณบางอย่างที่สื่อว่าเอกชัยยอมถอย”
สมบัติ บุญงามอนงค์
เขียนถึงวีรกรรมของเอกชัยบนหน้าเฟชบุ๊ค “ถ้าไม่มีสัญญาณใดๆ
การสั่งการก็ยังคงยึดแนวทางเดิมคือทำร้ายไปเรื่อยๆ
เพราะยังไงก็จะไม่สามารถตามหาผู้กระทำผิดได้”
แต่ “คนแบบเอกชัยคือได้วางเดิมพันไว้หมดหน้าตัก
และพร้อมที่จะใช้ร่างกายและชีวิตของตนเองเป็นประจักษ์พยานของความอยุติธรรม”
ฉะนั้นสิ่งที่เราๆ ท่านๆ ซึ่งเห็นอกเห็นใจ และยอมรับว่าอย่างน้อยๆ “การเคลื่อนไหวเขาได้ผล”
จะทำได้อย่างที่ บก.ลายจุดทำ
ก็คือ “โอนเงินเล็กๆน้อยๆ
เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลและให้เขาดำรงชีพอยู่ได้ในฐานะนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ชื่อบัญชี เอกชัย หงส์กังวาน
ธ.กรุงไทย
เลขที่บัญชี 256-1-14185-3”
ธ.กรุงไทย
เลขที่บัญชี 256-1-14185-3”