“ขั้นตอนต่างๆ ที่ดำเนินการ
ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง” ผบ.ทบ.อ้างกองทัพภาค ๓ เข้าไปตรวจสอบโครงการบ้านพักศาลอุทธรณ์ภาค
๕ เชิงดอยสุเทพ ในเขตอำเภอแม่ริม เชียงใหม่
แต่ถ้าดูจากภาพถ่ายทางอากาศ บริเวณก่อสร้างหมู่บ้านตุลาการทะลวงเข้าไปเป็นติ่งอยู่ภายในแวดล้อมของอุทยานแห่งชาติ
ดอยสุเทพ-ปุย ชัดแจ๋ว
ถ้าอย่างนี้แสดงว่า ด้วยอำนาจวิเศษของกองทัพ
พื้นที่อุทยานแห่งชาติสามารถตีวงโค้งอ้อมพื้นที่หมู่บ้านจัดสรรของตุลาการได้
หรือไม่ก็กองทัพเป็นผู้ทรงอำนาจเหนือใคร สั่งให้ทะลวงเข้าไปก่อสร้างหมู่บ้านหรูอยู่อาศัยเป็นติ่งอยู่ภายในแวดล้อมของป่าสงวนได้
อย่างใดอย่างหนึ่งหรือสองอย่างรวมกัน
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท
ท้าวความอ้างด้วยว่า พื้นที่ ๑๔๗ ไร่ ที่เดิมเป็นพื้นที่ราชพัสดุ อยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์นี้
ทางสำนักอธิบดีผู้พิพากษาภาค ๕ ได้ทำเรื่องขอต่อกองทัพบกครั้งแรกในปี ๒๕๔๐
แล้วไม่ได้รับอนุมัติ ต่อเมื่อตุลาการตื๊อขออีกครั้งในปี ๒๕๔๖ คราวนี้
ทบ.ใจอ่อนยอมอนุญาตเมื่อต้นปี ๕๗
ตอนนี้งานใกล้เสร็จแล้ว ๙๕ เปอร์เซ็นต์
คาดว่าอีก ๑-๒ เดือนข้างหน้าก็จะสามารถปิดงานได้ จึงอนุญาตให้ดำเนินการต่อได้ “แต่ต้องไปปรับในเรื่องของความเหมาะสม
ให้กลมกลืนกับพื้นที่ภูมิประเทศ”
(นี่ช่วยคิดนะ ไม่แน่ใจว่าจะให้โครงการปลูกต้นไม้กลับเข้าไปใหม่ให้กลืนกับบริเวณล้อมรอบ
หรือว่าตัดต้นไม้บริเวณที่รายรอบให้เหี้ยนเตียนเหมือนภายในหมู่บ้านดี)
แต่อย่างไรก็ตาม ทั่น ผบ.ทบ.เป็นคนไน้ซ์
ทั่นบอกว่า “กรณีดังกล่าวเดินมาไกลแล้ว จะลงตัวอย่างไรให้ยอมรับกันได้
และไม่เสียหายมากนัก เพราะใช้งบประมาณลงไปพอสมควร”
ถ้าหยุดโครงการก็จะเกิดความเสียหายแก่บรรดาทั่นตุลาการ
“แต่จะเดินต่อไปอย่างไรที่จะเกิดผลกระทบ
และต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด” ทั่น ผบ.ทบ.ห่วง
ทางด้านตุลาการก็ไน้ซ์พอกัน นายสราวุธ เบญจกุล
เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม พูดไว้เมื่อ ๒๗ มี.ค. ๖๑ ว่า “สิ่งที่เราทำมีเจตนาดี
เราไม่ได้จะทำลายสิ่งแวดล้อมหรือทำให้เกิดความเสียหายกับธรรมชาติ”
และ “ศาลยุติธรรมเองก็ให้ความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อม...สิ่งนี้เราให้ความสำคัญ
และเราไม่ได้พูดอย่างเดียว แต่เราทำ” เพจ ‘หมาเฝ้าบ้าน’ เขาจำแม่น เลยเก็บภาพมาไว้ให้ดูเป็นสักขีพยาน