พรรคเก่ากว่าใครเที่ยวตีดะ สะเปะสะปะ คนหนึ่งว่า "จับมือกับทหารดีกว่า" อีกคนด่าพรรคลิ่วล้อ คสช. 'เอาเปรียบ'

ตอนนี้ ‘พรรคใหม่’ เคลื่อนไหวกันถี่ยิบ พรรคเก่ากว่าใครแต่ไม่เคยชนะเลือกตั้งมากว่าสามสิบปี ก็เลยเที่ยวตีดะคนโน้นคนนี้ สะเปะสะปะ

‘E-Thing’ มอลลี่เจ้าเก่าจะเอาให้ได้ มุสายัดไส้โจมตีพรรคเลือดใหม่ ‘ล้มเจ้า’ อยู่นั่นแล้ว ถ้าแค่บอก “#กูเกลียดพวกล้มเจ้า” ไม่เป็นไร แต่ตอแหลเป็นคุ้งเป็นแคว “ซูฮกให้กับอาจารย์ที่หนีไปฝรั่งเศส คบค้ากับอาจารย์ที่สอนเด็กล้มเจ้า” นี่เข้าข่ายมดเท็จแบบสถุลเลยละ อนิจจา รองโฆษกพรรค ปชป.

ไม่รู้ว่าอี๊ติ่งนี่รู้เห็นหรือเป็นใจกับกระบวนการทำร้าย-ทำลาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ประกาศตั้งพรรคทางเลือกของคนรุ่นใหม่ แบบประชาธิปไตยก้าวหน้า ด้วยหรือเปล่า ดังที่ V Nus‏ @meVnus เปิดโปงไว้

“ความเลวทรามของกองเชียร์เผด็จการคือทำลาย #ธนาธร ทุกวิธี กระทั่งตัดต่อบทสัมภาษณ์เดิมของเขา ใส่ข้อความที่เขาไม่ได้พูดลงไปแทน ส่งต่อใน social จนคนเข้าใจผิด”

อีกคนดาวเด่นฝ่ายหญิงของประชาธิปัตย์ อดีต ส.ส.สมุทรสงคราม ที่เคยเป็นคู่กัดกับ ‘จ่าประสิทธิ์’ อดีต ส.ส.ซ่าของพรรคเพื่อไทย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ออกมาช่วยประกาศ “จับมือกับทหาร ดีกว่าจับมือกับระบอบทักษิณ”

อดีต ส.ส.หญิงผู้มีวีรกรรมโฉ่หลายอย่าง จากไม่เจตนาว่าประธานสภาฯ “ไม่แข็ง” ไปถึงเผ่นขึ้นไปดึงเก้าอี้ประธานสภาฯ อีกคนออกจากแท่น จนเกิดโกลาหลชุลมุนกันเป็นข่าวฟ้องชาวโลก เลยโดนจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า “ฉี่ฉุน” เป็นสีสันการเมืองน้ำเน่าตอนนั้น

(สุดท้ายรังสิมาและจ่าประสิทธิ์ร่วมกันออกทีวียิ้มย่อง ต่างฝ่ายแจงเหตุที่เกิดในส่วนของตนกันอย่างครื้นเครง :ดูคลิป ‘คมชัดลึก’ https://www.youtube.com/watch?v=QeS3-FylKOk)

ด้านทีมหัวหมอของ ปชป.ก็ออกมาจัดหนักเหมือนกัน แต่กลับหลังหัน ฟัดแหลกทั้งเพื่อไทยและลิ่วล้อ คสช. เป็นชุด เร่งเครื่อง ‘สร้างค่า’ แก่ตนตามสไตล์แมลงสาบ

 

วิรัตน์ กัลยาศิริ อดีต ส.ส.สงขลา หัวหน้าทีมกฎหมายของ ปชป. นอกจากตอกย้ำไม่ยอมร่วมมืออย่างเด็ดขาดกับพรรคที่พวกตนแพ้เลือกตั้งมาตลอด อ้างกระบวนยุติธรรมลำเอียงไม่พอต่อ ‘ระบอบทักษิณ’ เพราะมีบางส่วนบิดผันสำนวน เอาผิดพวกถูกกล่าวหาเผาบ้านเผาเมือง “หรือคนที่สั่งเข่นฆ่าประชาชน ยังไม่รวดเร็ว”

(https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_824021)

แล้วรีบเตะตัดขาพรรคลิ่วล้อ คสช. ที่ ‘พลังประชารัฐ’ ประกาศโจ่งแจ้ง “มีระดับรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้เป็นหัวหน้าพรรค เพื่อผลักดันพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ต่อ” และ “จะขอให้พล.อ.ประยุทธ์ มารับตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค เพื่อตัดประเด็นปัญหาที่ถูกวิจารณ์ว่าจะเข้ามาเป็นนายกฯ คนนอก”

ว่าถ้าจะเอาอย่างนั้นบิ๊กตุ่นต้องลาออกเสียก่อนจะไปเป็นประธานที่ปรึกษาพลังประชารัฐ ไม่เช่นนั้นถือเป็นการเอาเปรียบ และขัดกับหลักนิติรัฐ-นิติธรรม

สงสัยฝ่ายกฎหมาย ปชป.จะแกล้งเซ่อ ทำเป็นไม่รู้มาก่อนว่าไอ้ที่ คสช. ให้เฒ่ามีชัยเขียนรัฐธรรมนูญหักแข้งหักขานักการเมือง แล้วยังเปิดช่องทหารครองอำนาจยาวนาน ไม่ใช่การเอาเปรียบละหรือ

วิรัตน์เปิดละเอียดถึงแผนที่จะให้ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ ว่าตามกฎหมายใหม่ของ คสช. พรรคที่ได้รับเลือก ส.ส. ๒๕ คนขึ้นไป มีสิทธิเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีของตน ๓ ชื่อ ซึ่งถ้าหนึ่งในนั้นเป็น ‘I-Tube’ จะทำให้ประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ ได้ง่ายว่าการเป็นนายกฯ คนนอก ที่ต้องมีเสียงในสภามากกว่า ๕๐๐ คนเห็นชอบ

(https://www.matichon.co.th/news/871874)

 

แต่นั่นขัดกับหลักนิติรัฐ-นิติธรรมหรือไม่ ต้องให้ กกต.คนดังอธิบาย สมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้งเพิ่งแจงวันนี้ (๑๒ มีนา) “การเป็นที่ปรึกษาพรรคจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้น

ไม่มีข้อกำหนดว่านายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ดังนั้นเป็นสมาชิกได้ เป็นกรรมการในพรรคการเมืองได้” ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษาถ้าโครงสร้างของพรรคระบุไว้ว่าเป็นตำแหน่งทางการบริหารพรรค ก็เป็นได้ เพราะไม่มีข้อกำหนดอะไรห้ามไว้

“ส่วนการเป็นนายกรัฐมนตรี จะทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งหรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า มีความได้เปรียบเสียเปรียบแน่นอน”

(http://www.thairath.co.th/content/1225772)