แถลงข่าว จุดยืน ถอนรากคสช.
https://www.facebook.com/democracyrestoration/videos/1468655229930656/
รวมพลัง ถอนราก คสช.
https://www.facebook.com/democracyrestoration/videos/1468672966595549/
รวมพลัง ถอนราก คสช. สู่ราชดำเนินนอก
https://www.facebook.com/democracyrestoration/videos/1468752329920946/
แถลงการณ์ ขอเรียกร้องให้ คสช. ยุติการดำรงอยู่ของตนเอง ให้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปลี่ยนสถานะเป็นรัฐบาลรักษาการ ให้ยกเลิกคำสั่งประกาศและคำสั่งของ คสช. ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและพรรคการเมือง และให้กองทัพยุติการสนับสนุน คสช. เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561
ตามที่เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2561 พวกเราได้เรียกร้องให้ยุติการดำรงอยู่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปลี่ยนสถานะของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรัฐบาลรักษาการ และยกเลิกคำสั่งประกาศและคำสั่งของ คสช. ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและห้ามการดำเนินการของพรรคการเมือง เพื่อสร้างหลักประกันว่าจะเกิดการเลือกตั้งขึ้นจริง และจะไม่มีการสืบทอดอำนาจของ คสช. ในอนาคตนั้น
ในเวลาต่อมา ได้มีคำโต้แย้งจากบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับ คสช. โดยยกอ้างเหตุต่างๆ นานาเพื่อจะสร้างความชอบธรรมให้กับ คสช. ในการดำรงอยู่ต่อไป ทั้งอ้างว่า คสช. จำเป็นต้องอยู่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองอ้างว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 กำหนดให้ คสช. ดำรงอยู่จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ หรืออ้างว่า คสช. ไม่เป็นอุปสรรคต่อการจัดการเลือกตั้ง
พวกเราขอตอบข้อโต้แย้งทั้งหมดที่กล่าวมา ดังนี้
1. การรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เป็นภารกิจที่สามารถดำเนินการได้โดยรัฐบาลและหน่วยงานราชการตามระบบปรกติ ซึ่งรวมถึงตำรวจและกองทัพ ไม่จำเป็นต้องมีคณะบุคคลอย่าง คสช. เพิ่มเติมขึ้นมาให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินอีก ยิ่งเมื่อประกอบกับสภาวการณ์ของประเทศไทย ที่การก่อความไม่สงบที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากผู้มีอำนาจรัฐไม่รู้เห็นเป็นใจ นั่นหมายความว่าหากรัฐบาลและหน่วยงานราชการปฏิบัติหน้าที่อย่างที่ควรจะเป็น ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะต้องตั้ง คสช. ขึ้นมาเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยตั้งแต่แรก
2. บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญไม่ใช่สิ่งจะต้องเป็นเช่นนั้นตลอดไป หากแต่สามารถเปลี่ยนแปลงได้หากมีเหตุผลอันสมควร โดยเฉพาะบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ที่ตราขึ้นโดยฝ่าย คสช. เพื่อตอบสนองความต้องการและผลประโยชน์ของตัวเอง โดยนัยยะนี้ การกล่าวว่า “เพราะกฎหมายกำหนดไว้เช่นนั้น” จึงไม่ต่างกับการกล่าวว่า “เพราะ คสช. ต้องการให้เป็นเช่นนั้น” ซึ่งความต้องการที่ว่านี้ของ คสช. ได้ทำลายหลักประกันว่าจะเกิดการเลือกตั้งและไม่มีการสืบทอดอำนาจ จึงเป็นเหตุผลอันสมควรที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อให้ยุติการดำรงอยู่ของคสช. ได้
3. คสช. เป็นอุปสรรคที่สำคัญที่สุดต่อการจัดการเลือกตั้ง เพราะ คสช. เป็นผู้เสียผลประโยชน์โดยตรงจากการจัดการเลือกตั้ง แต่กลับเป็นผู้ถือครองอำนาจสูงสุดของประเทศ จึงมีโอกาสที่ คสช. จะใช้อำนาจนั้นเพื่อสนองประโยชน์ของตน โดยสั่งเลื่อนการจัดการเลือกตั้ง หรือใช้อิทธิพลของตนในฐานะผู้ถืออำนาจสูงสุดชักจูงหรือข่มขู่องค์กรอื่นให้หาทางเลื่อนการจัดการเลือกตั้งได้เสมอ
ด้วยเหตุผลดังที่ได้อธิบายนี้ พวกเราจึงยังขอยืนยันในข้อเรียกร้องเดิมว่า คสช. จะต้องยุติการดำรงอยู่ของตัวเอง รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะต้องเปลี่ยนสถานะเป็นรัฐบาลรักษาการ และจะต้องยกเลิกคำสั่งประกาศและคำสั่งของ คสช. ที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนและห้ามการดำเนินการของพรรคการเมือง เพื่อสร้างหลักประกันว่าจะเกิดการเลือกตั้งขึ้นจริง และจะไม่มีการสืบทอดอำนาจของ คสช. โดยหาก คสช. ยอมยุติการดำรงอยู่ของตัวเองและเปลี่ยนสถานะรัฐบาลเป็นรัฐบาลรักษาการเสียตั้งแต่ตอนนี้แล้ว การจัดการเลือกตั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2561 ย่อมเป็นไปได้
นอกจากนี้ในวันนี้ ณ กองบัญชาการกองทัพบกแห่งนี้ พวกเราขอเรียกร้องต่อกองทัพแห่งราชอาณาจักรไทย เรียกร้องต่อทหารทุกนายไม่ว่าจะเหล่าใด ชั้นใด หรือยศใด ให้ยุติการสนับสนุน คสช. และระบอบรัฐประหารที่ปกครองประเทศอยู่ในปัจจุบันนี้เสีย เราได้เห็นตัวอย่างจากนานาอารยประเทศแล้วว่ากองทัพสามารถดำรงอยู่ในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างมีศักดิ์ศรี การที่กองทัพกลายมาเป็นผู้ค้ำจุนความกระหายอำนาจของนายทหารเพียงไม่กี่คน มีแต่จะทำให้กองทัพกลายเป็นที่รังเกียจของประชาชน และผู้ที่ต้องแบกรับความเสื่อมเสียที่ก่อโดยนายทหารเพียงไม่กี่คนนั้น ก็คือทหารทุกนายในประเทศนี้
เราหวังเป็นที่สุดว่าข้อเรียกร้องของเราในวันนี้จะถูกนำไปปฏิบัติ หาก คสช. และกองทัพต้องการให้เกิดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด และไม่คิดจะสืบทอดอำนาจเผด็จการจริง นี่คือวิธีการเดียวที่จะพิสูจน์ให้เห็นได้ แต่หากยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องนี้อีก ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า คสช. และกองทัพมีปณิธานที่จะแสวงหาผลประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้องจากเลือดเนื้อ หยาดเหงื่อ และน้ำตาของประชาชนอย่างเป็นการถาวร เมื่อถึงเวลานั้น พวกเราจะกลับมาอีกครั้ง จะยกระดับการต่อสู้ให้สูงยิ่งกว่าแต่ก่อน เพื่อขับไล่พวกคุณออกไป
24 มีนาคม 2561
กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย Democracy Restoration Group - DRG
...
ยุติการชุมนุม หน้าทบ.กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง นัดใหม่ 5 พ.ค.https://t.co/nso1QjKaxx— Thairath_News (@Thairath_News) March 24, 2018